เมื่อวานนี้ผมเขียนถึง “ชาวนาเขมรใช้บล็อกเชนขายข้าว” เพื่อช่วยแก้ปัญหาราคาข้าวตกต่ำ ขณะที่ รัฐบาลไทย ยังแก้ปัญหาแบบเดิมๆ ปีการผลิต 2561/2562 ครม.อนุมัติงบประมาณสูงถึง 97,950 ล้านบาท เพื่อดูแลราคาข้าว เป็นเงินจ่ายขาด 62,890 ล้านบาท เงินหมุนเวียน 35,060 ล้านบาท เมื่อวันอังคารก็เพิ่งมีมติแก้ไขการจำนำยุ้งฉาง จ่ายเงินให้ชาวนามากขึ้นเป็นตันละ 1,000 บาท สถาบันเกษตรกรได้ตันละ 500 บาท จากเงินที่รัฐบาลแจกให้ตันละ 1,500 บาท เพื่อชะลอการขายข้าว

ก็ไม่รู้จะต้องแจกกันอีกกี่ปี ใช้เงินกี่แสนล้าน จึงจะคิดวิธีอื่นได้บ้าง

ผมเขียนถึง ชาวนาเขมรใช้บล็อกเชนขายข้าว ไม่ทันข้ามวัน ก็มีข่าวจาก บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัทลูกด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของ ธนาคารไทยพาณิชย์ แจ้งว่าได้จับมือกับ SCG เครือปูนซิเมนต์ไทย หรือ ปูนใหญ่ เปิดตัวเทคโนโลยีการจัดซื้อจัดจ้างใหม่กับเครือข่ายซัพพลายเชนของปูนใหญ่ ชื่อ B2P โดยใช้เทคโนโลยี Blockchain บนแพลตฟอร์ม R3 Blockchain เป็นครั้งแรกในโลก

ท่านผู้อ่านคงเบื่อ ที่เห็นศัพท์แสงเทคโนโลยีภาษาอังกฤษและตัวย่อเยอะ อ่านไม่รู้เรื่องแต่เอกสารแถลงข่าวเขาส่งมาอย่างนี้ เดี๋ยวผมจะค่อยๆอธิบายให้ฟัง เพราะจะเป็นประโยชน์ต่อวงการธุรกิจในระยะยาว เหมือนชาวนาเขมรที่ใช้บล็อกเชนมาขายข้าวเปลือกนั่นแหละครับ

คุณยุทธนา เจียมตระการ ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ปูนใหญ่ แถลงว่า เป็นการนำเทคโนโลยีบล็อกเชนจาก R3 มาใช้เป็นดิจิทัลแพลตฟอร์ม สำหรับกระบวนการจัดซื้อ จัดจ้างกับคู่ค้าอย่างครบวงจรเป็นครั้งแรกในโลก โดยร่วมมือกับ ดิจิทัล เวนเจอร์ส พัฒนาขึ้นมา เดิมขั้นตอนการตรวจสอบต้องใช้เวลา แรงงานคน เอกสารที่เกี่ยวข้องมากมาย รวมถึงเชื้อเพลิงในการขนส่งเอกสารต้นฉบับและสำเนาไปมา ทั้งของฝั่งผู้ซื้อและผู้ขาย และคู่ค้าธุรกิจอื่นๆ แต่ด้วยเทคโนโลยีใหม่นี้จะช่วยให้เครือข่ายซัพพลายเชนของปูนใหญ่ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ได้รับความสะดวก ปลอดภัย โปร่งใส และต่อยอดไปสู่กระบวนการทำงานอื่นได้

...

คุณอรพงศ์ เทียนเงิน ซีอีโอ ดิจิทัล เวนเจอร์ส แถลงว่า การเปิดตัว B2P (Blockchain Solution for Procure-to-Pay) ดิจิทัลแพลตฟอร์มการจัดซื้อจัดจ้างบนเทคโนโลยี R3 Blockchain ครั้งแรกในโลกนี้ ได้เริ่มทดลองใช้งานจริงร่วมกับปูนใหญ่มาหนึ่งเดือนแล้ว โดย โซลูชั่น B2P ครอบคลุมทุกขั้นตอน ตั้งแต่เริ่มต้นการสั่งซื้อสินค้า จนถึงขั้นตอนสุดท้ายการชำระเงินผ่านธนาคาร และขานรับกับ ใบกำกับภาษีอิเล็กทรอนิกส์ ของรัฐบาลด้วย

จากการทดลอง 1 เดือน พบว่า การจัดซื้อจัดจ้างรูปแบบใหม่ทำได้รวดเร็วขึ้น ประหยัดทรัพยากรได้กว่า 50% และ ช่วยให้การกู้เงินจากธนาคารด้วยการใช้ใบแจ้งหนี้ค้ำประกันรวดเร็วขึ้น โดยแจ้งความ จำนงผ่านระบบได้ทันที นี่คือประโยชน์คร่าวๆของระบบการจัดซื้อจัดจ้างในแพลตฟอร์มใหม่ B2P บน R3 Blockchain ลองอ่านไปคิดไปนะครับ ผมคิดว่าสามารถนำไปปรับใช้ประโยชน์ทางธุรกิจได้

เอาละครับ ผมจะลองแกะคำศัพท์คำย่อ เพื่อให้ท่านผู้อ่านเข้าใจ ตามนโยบายของ “ไทยรัฐ” ที่ยึดถือมายาวนาน เขียนข่าวต้องให้ผู้อ่านรู้เรื่อง

เริ่มจากชื่อโซลูชั่นใหม่ก่อนแล้วกัน B2P ย่อมาจากคำว่า Business to People แปลง่ายๆว่า ธุรกิจสู่ประชาชน โดยประชาชนที่ว่านี้จะเป็น ลูกค้าผู้บริโภค หรือ ลูกค้าธุรกิจ ก็ได้ เป็นระบบการตลาดใหม่ที่กำลังมาแทนที่การตลาดแบบเดิม ที่เรียกว่า B2B หรือ ธุรกิจสู่ธุรกิจ กับ B2C หรือ ธุรกิจสู่ผู้บริโภค โดย B2P จะครอบคลุมลูกค้าทั้งสองระบบ B2B และ B2C

ส่วน R3 ก็คือ ชื่อบริษัทสตาร์ตอัพ ผู้สร้างซอฟต์แวร์ชื่อ Corda สำหรับสถาบันการเงินโดยใช้เทคโนโลยี Distributed Ledger แบบบล็อกเชน การบันทึกข้อมูลบัญชีแบบกระจาย

ผมเลยเอามาเล่าสู่กันฟังอีกวัน เทคโนโลยีบล็อกเชน นับวันจะมีบทบาทมากขึ้น ใน ธุรกิจการค้า การเงิน การลงทุน การเกษตร ไปจนถึง “การเลือกตั้ง” เพื่อ สร้างระบอบประชาธิปไตยที่โปร่งใส สามารถตรวจสอบได้ตลอดเวลา.

“ลม เปลี่ยนทิศ”