ผมรับปากคุณ “ระวิ โหลทอง” เจ้าพ่อสยามสปอร์ตซินดิเคต หรือ “สยามกีฬา” เอาไว้นานแล้วว่า จะเขียนถึงความร่วมมือ ระหว่าง “สยามสปอร์ต” กับ “เซเว่น-อีเลฟเว่น” ร้านสะดวกซื้อชื่อดัง ไปเรื่อยๆเท่าที่โอกาสจะอำนวยให้

เพื่อมิให้ผู้คนหลงลืมข้อตกลงหรือความร่วมมือครั้งสำคัญ ที่มีผลโดยตรงมาถึงหนังสือพิมพ์ทุกฉบับ รวมทั้งหนังสือพิมพ์ ไทยรัฐของเราด้วย

เป็นที่ทราบกันดีแล้วว่า แต่ไหนแต่ไรมา ร้าน 7-Eleven ทุกร้านจะสั่งหนังสือพิมพ์ไปจำหน่ายด้วยตนเอง เพราะเห็นว่าเป็นสินค้าที่มีประโยชน์แก่ประชาชนโดยตรง เนื่องจากจะเป็นเครื่องมือในการเสริมให้ประชาชนรักการอ่าน ซึ่งเมื่ออ่านแล้วก็จะได้ทั้งความรู้ทั้งข่าวสาร ตลอดจนความคิดควบคู่ไปด้วย

ถือเป็นนโยบายของท่านประธานใหญ่เซเว่นฯ ก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ที่เป็นนักอ่านตัวยงมาตั้งแต่เป็นนักเรียน นักศึกษา จนแม้มาเป็นผู้บริหารหมายเลข 1 ของซีพีออลล์ในปัจจุบัน ก็ยังอ่านเป็นประจำ

คุณก่อศักดิ์ตระหนักดีว่า กำไรจากการจำหน่ายหนังสือพิมพ์ไม่มากนัก และหากเทียบเวลาในการบริหารจัดการเข้าไปด้วย อาจจะขาดทุนด้วยซ้ำ แต่ท่านก็เห็นถึงประโยชน์ของหนังสือพิมพ์ต่อสังคมไทยดังกล่าวแล้วจึงกำหนดให้หนังสือพิมพ์เป็น 1 ในสินค้าที่ต้องมีจำหน่าย

แต่แล้ววันหนึ่งก็พบถึงความยากลำบากในการบริหารจัดการ โดยเฉพาะการขนส่งหนังสือพิมพ์จากคลังสินค้าไปยังสาขาต่างๆ ซึ่งต้องใช้ทั้งแรงงานและการบริหารจัดการที่ยุ่งยากกว่าสินค้าอื่นๆ

ภาระใหญ่ที่สุดก็คือการ “ขนส่ง” ซึ่งจะต้องใช้ยานพาหนะจำนวนมาก ในการเร่งส่งสินค้าที่มีอายุเพียง 24 ชั่วโมง อย่างหนังสือพิมพ์

เป็นเหตุให้เซเว่นอีเลฟเว่น ตัดสินใจยุติการจำหน่ายหนังสือพิมพ์เมื่อพบว่าปัญหาการบริหารจัดการเริ่มเพิ่มมากขึ้น

...

ต่อมาพักใหญ่ๆ คุณ ระวิ โหลทอง กับ คุณก่อศักดิ์ ไชยรัศมีศักดิ์ ก็มานั่งคุยกัน...ความจริงตั้งใจจะคุยเรื่องอื่นๆ โดยเฉพาะเรื่องหนังสือกำลังภายในที่ทั้ง 2 ชอบเป็นชีวิตจิตใจพอๆกันเสียมากกว่า

แต่ก็พาดพิงมาจนถึงเรื่องหนังสือพิมพ์ที่ทางเซเว่นฯหยุดขายเข้าจนได้ เมื่อคุณระวิขอทราบถึงเหตุผลต่างๆที่ต้องหยุด...และเมื่อทราบแล้วคุณระวิก็ถามขึ้นว่า...

หาก สยามสปอร์ต ซึ่งมีกองทัพมอเตอร์ไซค์ขนหนังสือพิมพ์กีฬา ทั้ง สยามกีฬารายวัน, สปอร์ตพูล, สตาร์ซอคเกอร์ ฯลฯ ไปส่งให้เซเว่นฯอยู่แล้ว จะขันอาสาขนหนังสือพิมพ์ต่างๆไปส่งด้วย ทางเซเว่นฯจะยอมขายให้หรือไม่?

คุณก่อศักดิ์ตอบทันทีว่า ถ้ามีคนขนไปส่งให้โดยตรงเลย มีหรือผมจะไม่ยอม เพราะผมเป็นคนรักหนังสือแค่ไหนพี่วิก็รู้แก่ใจอยู่แล้ว

เป็นที่มาของการตกลงครั้งสำคัญ คือ สยามสปอร์ต จะทำหน้าที่เสมือนหนึ่ง “รวมห่อ” ในยุคก่อน...คือหนังสือพิมพ์ทุกฉบับจะขนหนังสือไปส่งไว้ที่ สยามสปอร์ต จากนั้นทางสยามสปอร์ตก็จะแบ่งไปส่งตามเซเว่นฯสาขาต่างๆควบคู่ไปกับ หนังสือกีฬา ของตนเอง

ทำให้หนังสือพิมพ์รายวันทุกฉบับกลับไปวางจำหน่ายใน “7-Eleven” อีกครั้งหนึ่ง นับมาถึงบัดนี้ก็น่าจะปีกว่าๆแล้วกระมัง

ในวันที่ 2 คนดังตกลงจับมือกันนั้น ผมนั่งอยู่ด้วย ถือเป็นสักขีพยานคนหนึ่ง จำได้ว่ายังเอามาเขียนบอกกล่าวในคอลัมน์นี้ไปหนหนึ่งแล้ว

ช่วงหลังๆนี้มีเพื่อนๆและท่านผู้อ่านหลายท่านมาถามผมว่าแผงหนังสือพิมพ์ข้างบ้านเลิกขายเสียแล้ว ร้านที่เคยเป็นสมาชิกแล้วขี่รถมาส่งให้ตอนเช้าๆก็เลิกไปหมด...หาซื้อหนังสือพิมพ์ไม่ได้จะทำอย่างไรดี

อ่านในออนไลน์มันก็ไม่เหมือนอ่านในหน้ากระดาษ...ช่วยบอกผมหน่อยเถอะว่าจะหาซื้อที่ไหน?

คำตอบของผมก็คือ ไปซื้อที่ เซเว่นฯ ได้เลยครับ ช่วงนี้คงจะมีเฉพาะใน กทม.ก่อน สำหรับต่างจังหวัดกรุณารออีกสักพัก ผมทราบว่าคุณระวิกำลังใช้ความพยายามอยู่ว่าจะหาวิธีจัดส่งอย่างไร?

แต่เฉพาะสาขาใน กทม.ก็เกือบ 5,000 แห่งแล้วละ เท่ากับมีแผง หนังสือพิมพ์เล็กๆเพิ่มขึ้นอีก 5,000 แผง ทั่ว กทม.

เซเว่นฯ...เขามีสโลแกนว่า “หิวเมื่อไรก็แวะมา 7-Eleven” จนโด่งดังมาหลายปีแล้ว ผมก็ถือโอกาสเติมหรือขยายความเสียหน่อยหนึ่งว่า... ไม่ใช่เฉพาะ “หิวข้าว” เท่านั้น ถึงจะแวะเซเว่นฯได้

แม้เวลา “หิวข่าว” อยากอ่านหนังสือพิมพ์ก็แวะได้เช่นกัน

ข่าวที่ถูกต้องกลั่นกรองแล้วไม่ใช้ข่าวเฟก หรือข่าวลวง ต้องอ่านจากหนังสือพิมพ์ครับ!

“ซูม”