ผู้ประกาศข่าวทีวีที่ผมเป็นแฟนประจำ ทั้งหญิงชาย อ่านข่าวที่เป็นภาษาไทย ภาษาอังกฤษได้แม่นยำชัดเจน แต่พอมาถึงภาษาพระ เรื่องราวของคนวัด ก็มักอ่านผิด

ข่าวหลวงปู่เณรคำ ถูกตัดสินจำคุก 114 ปี มีข้อหา อวดอุตริมนุสสธรรม เป็นความผิดทางวินัย อ่านเป็นอวดมนุสสธรรม ผมเข้าใจว่าสคริปต์คงเขียนถูก แต่คนอ่านอ่านควบข้าม เพราะความไม่คุ้นภาษาพระ

อีกช่อง อ่านข่าวด้วย วิพากษ์วิจารณ์ไปด้วย อ่านข่าวแม่ชีกล่าวหาสมภารวัดดังที่จันทบุรี ว่าเคยมีเพศสัมพันธ์กัน ประเด็นข่าวแตกหน่อไปว่า ตอนแม่ชีรู้ตัวว่าผิด ก็ลาสึก แล้วบวชใหม่

คนอ่านข่าว วิจารณ์ว่า แม่ชีสึกแล้วบวชใหม่ได้ยังไง...เพราะเป็นปาราชิกแล้ว

ผมฟังถึงตอนนี้ ก็อมยิ้ม นักข่าวรุ่นใหม่ ดูเหมือนจะมีช่องว่างกับวัดมากกว่านักข่าวรุ่นเก่า ที่หลายคนเคยเป็นเด็กวัด คุ้นเคยกับขนบธรรมเนียมตามวิถีคนวัด

รู้พื้นฐานง่ายๆ พระภิกษุ สามเณร แม่ชี มีศีลต่างกัน

พระท่านถือศีลตามพระปาติโมกข์ 227 ข้อ ศีลข้อที่ละเมิดแล้ว คือเป็นอาบัติแล้ว ต้องขาดจากความเป็นพระ คือข้อปาราชิก เสพเมถุน ลักของเขา (4 มาสกขึ้นไป) ฆ่ามนุษย์ และอวดอุตริมนุสสธรรม (อวดคุณวิเศษที่ไม่มีในตน)

ช่วงนี้ มีข่าวพระปาราชิกบ่อยๆ นักข่าวก็คุ้นหู จนเผลอไปว่า อาบัติปาราชิกนั้น มีกับแม่ชี

แม่ชีนั้น มีอีกชื่อ เรียกอุบาสิกา ต่างจากผู้หญิงชาวบ้านธรรมดา ตรงที่โกนหัวนุ่งขาว ถือศีล 8 ข้อ เช่นเดียวกับชาวบ้านที่รับศีล 8 ในวันพระ ที่เรียกว่าอุโบสถศีล

ศีลข้อ 3 อพรหมจริยา เวรมณี มีความหมายถึงการถือพรหมจรรย์ เว้นการมีเพศสัมพันธ์ แตกต่างจากข้อ 3 กาเมสุมิจฉา จารา เวรมณี ในศีล 5 ข้อกาเม มีเพศสัมพันธ์ฉันท์เมียผัวได้ ไม่ให้ผิดลูกเมียหรือผัวคนอื่น

ศีลข้อ 6 ของแม่ชี คือ วิกาลโภชนา เวรมณี เว้นอาหารในยามวิกาล ยามวิกาลตามขนบพุทธศาสนา ถือตามพระคือหลังเที่ยงเป็นต้นไป พูดภาษาชาววัดว่า ไม่กินข้าวมื้อเย็น

...

เอาเป็นว่า ถ้าแม่ชีไปมีเพศสัมพันธ์ หรือกินข้าวเย็น ก็ถือว่าศีลขาด

เมื่อศีลขาด ขนบของคนวัด ก็คือต้องไปขอสมาทาน รับศีลจากพระต่อศีลได้ ก็เป็นอันว่า เป็นแม่ชีต่อไปได้อีก

เหมือนชาวบ้านรับศีล 8 ไม่กินข้าวเย็น ไม่มีเพศสัมพันธ์วันพระ วันธรรมดาก็กลับไปมีอะไรๆ ในบ้านได้ปกติ

เรื่องของแม่ชี จึงคนละเรื่องคนละราวกับพระ เมื่อศีลข้อปาราชิกขาด พุทธศาสนาถือกันว่า เป็นอนันตริยกรรม กรรมอันหนัก กลับมาบวชพระไม่ได้อีก

ตายไปแล้ว ตกนรกสถานเดียว โอกาสจะขึ้นสวรรค์ หรือบรรลุนิพพาน ไม่มี

แต่ข้อวิจารณ์ แม่ชีปาราชิก ก็ทำให้ผมได้ประเด็นคิด...เมื่อศีลขาดข้อสำคัญๆ เช่นมีเพศสัมพันธ์กับพระ ในทางศีลก็แค่ขาด แต่ในทางโลก ธรรมเนียมชาววัด มีขนบที่เรียก “โลกวัชชะ” โลกนินทา

พระดื่มเหล้า อาบัติปาจิตตีย์ ปลงแล้วก็หาย แต่ถ้าสมภารเจ้าวัดท่านเห็นว่า ทำให้เสื่อมเสียถึงพระในวัดด้วยกัน หรือเสียถึงพระในภาพรวมๆ ท่านก็อาจจะให้ “สึก” ได้

แม่ชีก็น่าจะอยู่ในข่ายเดียวกัน...ศีลขาดข้อสำคัญ พระท่านรู้ท่านก็ไม่ยอมบวชให้ใหม่

บวชไปแล้ว อาจไปใกล้ชิดพระ หาเรื่องร้ายๆให้พระวุ่นวาย

จึงต้องตัดไฟเสียแต่ต้นลม

ผมเคยเป็นเด็กวัด เคยบวชเคยเรียน...ก็พอเข้าใจเรื่องตื้นลึกหนาบางของคนวัด มากกว่า คนรุ่นใหม่ เช่นพอดูข่าวผู้หญิงสาวคนหนึ่ง เดินวุ่นไปเคาะประตูกุฏิพระวัดราชาธิวาสกลางดึก ก็ใจหายวูบ

นักข่าวที่ทำข่าวไม่รู้หรอกว่าเป็นเรื่องใหญ่แค่ไหน

สำหรับพระนั้น ตามพระวินัย เมื่ออยู่กับสีกาในเวลาไม่มีคนอื่นเห็น ถูกกล่าวหาเป็นปาราชิกได้ พูดกับสีกาในเวลาไม่มีคนอื่นได้ยิน ถูกกล่าวหาเกี้ยวสีกา เป็นอาบัติสังฆาทิเสส (อาบัติหนัก) ได้

ผู้หญิงเดินมาหาพระกลางคืน เท่ากับยื่นดาบประหารพระ เรื่องล้อกันเล่นๆเมื่อไหร่กันเล่า.

กิเลน ประลองเชิง