สัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารไทยพาณิชย์ เชิญผมไปร่วมพิธีเปิด ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นสาขาที่ 2 ในประเทศจีน สาขาแรกอยู่ที่กรุงปักกิ่ง เพื่อให้บริการนักธุรกิจจีนที่จะมาลงทุนในไทย นักธุรกิจไทยที่จะไปลงทุนในจีน สำนักงานตั้งอยู่ ชั้น 74 อาคารเซี่ยงไฮ้ เวิลด์ ไฟแนนเชียล เซ็นเตอร์ ศูนย์กลางการเงินของจีน ซึ่งอยู่ใน เขตเศรษฐกิจพิเศษทางการเงิน ของ มหานครเซี่ยงไฮ้

ความจริง ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซี่ยงไฮ้ เปิดให้บริการมาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมแล้ว แต่เพิ่งมาทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว

ดร.วิชิต สุรพงษ์ชัย ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ กล่าวว่าธนาคารไทยพาณิชย์ให้ความสำคัญกับการขยายเครือข่ายต่างประเทศ ครอบคลุมจุดยุทธศาสตร์สำคัญที่มีศักยภาพต่อการลงทุนในภูมิภาค ประเทศจีนถือเป็นตลาดสำคัญที่มีศักยภาพในการลงทุนออกไปยังทั่วโลก ตามแนวคิด Belt & Road ของรัฐบาลจีน ประเทศไทยก็เป็นพื้นที่ยุทธศาสตร์สำคัญเชื่อมต่อการลงทุนจากจีนสู่ภูมิภาคอาเซียน

ช่วง 5 ปีที่ผ่านมา FDI (เงินลงทุนโดยตรง) จากจีนสู่ไทยเติบโตเฉลี่ยปีละ 14% และธุรกิจจีนมีความประสงค์ขอเข้ามาลงทุนในไทยเพิ่มขึ้นมาเป็น 1 ใน 3 อันดับต้น ขณะเดียวกัน ประเทศจีนก็มีตลาดผู้บริโภค ขนาดมหึมาที่เหมาะสมกับการขยายตลาดให้กับนักธุรกิจไทย โดยเฉพาะกลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขาเซี่ยงไฮ้ เปิดให้บริการตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2561 ด้วยผลิตภัณฑ์เงินฝาก สินเชื่อสกุลเงินต่างประเทศ เทรดไฟแนนซ์ การโอนเงินและชำระเงินระหว่างประเทศ ให้คำปรึกษาธุรกิจไทยจีน มี นางสาวจูน ฟู เป็นผู้จัดการทั่วไป มีการปล่อยสินเชื่อแก่นักธุรกิจจีนกว่า 1,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ 33,000 ล้านบาท

การที่แบงก์ไทย เช่น ธนาคารไทยพาณิชย์ กรุงเทพ กสิกรไทย ออกไปเปิดสาขาในต่างประเทศกันมากขึ้น โดยเฉพาะ ประเทศจีนที่มีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน ถือเป็นเรื่องปกติของธุรกิจไทยไปแล้ว เพราะตลาดในประเทศไทยที่มีประชากรเพียง 68 ล้านคนเล็กเกินไปแล้ว ไม่เพียงพอต่อการทำธุรกิจที่จำเป็นต้องขยายกิจการอย่างต่อเนื่อง

...

รัฐบาลไทยก็ตระหนักในเรื่องนี้ดี ดร.สมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกฯเศรษฐกิจ เคยพูดหลายครั้งว่า ตลาดไทยประเทศเดียว มีขนาดเล็กเกินไป จำเป็นต้องขยายไปสู่ประเทศเพื่อนบ้านเป็น CLMVT คือ กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม ไทย รวม 5 ประเทศ มีประชากรรวมกันประมาณ 250 ล้านคน เพื่อให้มีตลาดขนาดใหญ่พอที่จะดึงดูดนักลงทุนจีนและต่างชาติให้เข้ามาลงทุนได้

ผมเห็นด้วยกับ รองนายกฯสมคิด ว่า ตลาดไทยประเทศเดียว วันนี้เล็กเกินไปแล้ว บริษัทขนาดใหญ่ของไทยในตลาดหลักทรัพย์ก็มองว่าตลาดไทยเล็กเกินไป เช่น บริษัทเจริญโภคภัณฑ์ หรือ ซีพีเอฟ ของ เจ้าสัวธนินท์ เจียรวนนท์ วันนี้ รายได้ 70% ของซีพีเอฟมาจากต่างประเทศ รายได้จากการขายในประเทศไทยมีเพียง 30% เท่านั้น

มหานครเซี่ยงไฮ้ เป็นเมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่มาก ใหญ่กว่า กรุงปักกิ่ง เมืองหลวงของจีน ใหญ่กว่าเศรษฐกิจประเทศไทยทั้งประเทศ ปี 2017 ที่ผ่านมา จีดีพีของมหานครเซี่ยงไฮ้เพิ่มขึ้น 6.9% ทะลุ 3 ล้านล้านหยวน 15 ล้านล้านบาทเป็นครั้งแรก โดยมีจีดีพีเพิ่มขึ้นเป็น 3.01 ล้านล้านหยวน 15.05 ล้านล้านบาท ทำให้ มหานครเซี่ยงไฮ้ กลายเป็น เมืองที่มีขนาดเศรษฐกิจใหญ่ที่สุดในประเทศจีน

แต่ ผู้ว่าการนครเซี่ยงไฮ้ ไม่หยุดเพียงแค่นี้ จีดีพี 3 ล้านล้านหยวนถือเป็นจุดเริ่มต้นการพัฒนามหานครเซี่ยงไฮ้ต่อไป ด้วย คุณภาพระดับสูง เพื่อ ยกระดับการแข่งขันให้มีความเสถียรและยั่งยืน จีดีพีที่เพ่ิมขึ้น 6.9% มาจาก อุตสาหกรรมไฮเทค และ ธุรกิจบริการ ในอนาคตเซี่ยงไฮ้จะสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และบริการใหม่ๆที่สังคมยกย่องและจะซื้อด้วย

ผมดูข้อมูลเซี่ยงไฮ้แล้วก็ทึ่งในตัว ผู้ว่านครเซี่ยงไฮ้ ที่บริหารได้เก่งมาก เซี่ยงไฮ้มีประชากร 24 ล้านคน มีพื้นที่ 6,340 ตร.กม. แต่มีจีดีพีสูงกว่าประเทศไทย เขาทำได้ไง?.

“ลม เปลี่ยนทิศ”