ฟุตบอลโลก 2018 ที่รัสเซียเป็นเจ้าภาพเปิดสนามเมื่อวันพฤหัสบดีที่ 14 มิถุนายน นับมาถึงวันนี้ 21 มิถุนายนผ่านไปแล้ว 1 สัปดาห์
ฟังจากการพูดการคุยของผู้คนต่างๆในแวดวงที่ผมพบปะทั้งในงานสังสรรค์ หรือแม้แต่งานที่เป็นกิจลักษณะต่างๆ พบว่า “ฟุตบอลโลก” ยังคงเป็นหัวข่าวใหญ่ๆ ที่คนไทยพูดถึงไม่แพ้การแข่งขันครั้งก่อนๆ
ผมเพิ่งกลับจากไปร่วมพิธีส่งมอบอาคารเรียน “100 ปี กำพล วัชรพล” ให้แก่ โรงเรียนไทยรัฐวิทยา 102 ที่จังหวัดตรัง มาหมาดๆ ก็ได้ยินได้ฟังการพูดคุยกันอยู่ตลอด
ที่ โรงแรมธรรมรินทร์ธนา ที่คณะของผมไปพักก็มีการจัดรายการเปิดคอฟฟีช็อปให้ดูบอลโลกครบทุกคู่ทุกๆคืนที่มีการแข่งขัน
สำหรับจังหวัดอื่นๆ ผมไม่ทราบว่าเป็นอย่างไรบ้าง? แต่เท่าที่อ่านจากข่าวคราวความเคลื่อนไหวต่างๆ โดยเฉพาะการเปิดจำหน่ายไปรษณียบัตรเพื่อมาทายผลกับไทยรัฐ ก็พบว่าคึกคักทุกจังหวัด
นอกจากนี้จากการพาดหัวหนังสือพิมพ์หน้า 1 ทุกฉบับ และการรายงานข่าวในช่วงข่าวของโทรทัศน์ทุกช่อง รวมไปถึงการโปรโมตต่างๆ ผมดูแล้วก็เห็นว่าไม่น่าจะแพ้ครั้งที่ผ่านๆมา
แต่พอไปดูเรตติ้งทางทีวีแล้วก็ใจหายเลยครับ เพราะเท่าที่เตะกัน 1 สัปดาห์แล้วนี้ แม้เรตติ้งจะดีพอสมควร แต่ก็ไม่ดีมากอย่างที่คิด
อะไรไม่อะไรยังแพ้เรตติ้งละครแบบขาดลอย ชนิดถ้าเป็นบอลก็ต้องต่อกันหลายๆลูกด้วยซ้ำ
ยกตัวอย่าง วันเปิดสนาม 14 มิ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันพฤหัสบดี ปรากฏว่า คู่เปิดสนามระหว่างรัสเซียกับซาอุฯ เรียกเรตติ้งได้เพียง 1.161 สำหรับ อมรินทร์ทีวี 1.119 สำหรับช่อง ทรูโฟร์ยู และแค่ 0.448 เท่านั้น สำหรับ ช่อง 5 กองทัพบก
ในขณะที่ละครเรื่อง “เล็บครุฑ” ของช่อง 7 สี ซึ่งออกอากาศในเวลาใกล้เคียงกันได้ไปถึง 6.109 ละครเรื่อง “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ของช่อง 3 ได้ไป 4.670 และ “The Mask Singer 4” หรือหน้ากากนักร้องซีซั่น 4 ของเวิร์คพอยท์ ยังได้ถึง 3.350 และการถ่ายทอด วอลเลย์บอลหญิง คู่ไทยกับเบลเยียมก่อนหน้านี้ยังได้ไปถึง 3.024
...
เห็นไหมครับว่า ขนาด วอลเลย์บอลหญิง ซึ่งแม้คราวนี้สาวไทยเราจะแพ้มากกว่าชนะแต่ก็ยังเรียกเรตติ้งทางทีวีได้มากกว่า เอาเรตติ้งฟุตบอลโลกนัดเปิดสนามของทั้ง 3 ช่องมารวมกัน
สำหรับสถิติคู่อื่นๆ วันต่อมาสูงสุดคือคู่ อาร์เจนตินา กับ ไอซ์แลนด์ ที่เมสซีเท้าบอดยิงลูกโทษไม่เข้า ทรูโฟร์ยูถ่ายได้เรตติ้งไป 3.993, คู่ อียิปต์ กับ อุรุกวัย ช่องอมรินทร์ (อุรุกวัยชนะ 1-0) ได้ไป 3.556, คู่ คอสตาริกา-เซอร์เบีย (เซอร์เบียชนะ 1-0) ช่องอมรินทร์ได้ไป 3.192
มีเพียงแค่ 3 คู่นี้เท่านั้น ที่เรตติ้งเกิน 3 หรือสูสีกับ “หน้ากากนักร้อง” ซึ่งจะได้ประมาณ 3 เศษๆ โดยเฉลี่ยในช่วงนี้
ขนาดคู่ เยอรมนี ที่แพ้ จังโก้ 0-1 ถ่ายโดยช่อง 5 ยังเรียกเรตติ้งได้แค่ 2.039 และที่น่าช้ำใจคือคู่ บราซิล เสมอ สวิตเซอร์แลนด์ ตอนตี 1 ถ่ายโดย อมรินทร์ เรียกเรตติ้งได้แค่ 0.763 เท่านั้นเอง
จะไม่ให้คนชอบฟุตบอลโลกอย่างผมรู้สึกใจหายได้อย่างไรล่ะครับ
แต่ถ้าจะว่าไปเรตติ้งทางทีวีของฟุตบอลโลกที่ผ่านมาก็อยู่ราวๆนี้อย่างเก่งก็ 3 กว่านิดหน่อยเป็นเรตสูงสุด
เพราะเรตติ้งเขาจะวัดจากคนนั่งถ่างตาเปิดทีวีดูจริงๆเท่านั้น และส่วนใหญ่บอลโลกมักจะมาดึกได้เรตติ้ง 3 หรือเฉียดๆ ก็ต้องถือว่าโอเคแล้ว นัดชิงแชมป์ 2014 เยอรมนี-อาร์เจนฯ ยังได้แค่ 3.0
เนื่องจากคนตามบอลโลกนั้น ไม่จำเป็นจะต้องตามดูแบบนาทีต่อนาทีเสมอไป หลายๆคนขอดูแค่ไฮไลต์ ขอทราบผลย่อๆจากมือถือขอฟังสรุปจากวิทยุ หรืออ่านข่าวจากหนังสือพิมพ์ ฯลฯ
เอาเป็นสรุปว่า อย่าเพิ่งใจเสียนะครับ สปอนเซอร์ทั้งหลายที่ลงขันมา 1 พันกว่าล้านมาถ่ายทอดให้คนไทยดูฟรี แล้วเรตติ้งแพ้ “เล็บครุฑ” ย่อยยับ
เผอิญว่า “กระแส” ไม่มีทางที่บริษัท นีล เส็น จะวัดอะไรได้... ซึ่งถ้าวัดได้ ผมยังเชื่อว่า “กระแสฟุตบอลโลก” ทั้งประเทศจะต้องแรงกว่าละครไทย 2-3 เรื่องที่ว่านี้อย่างแน่นอน
อย่าไปเทียบกับ “บุพเพสันนิวาส” เมื่อคราวที่แล้วก็ละกันยังไงๆก็ต้องยอมแพ้ “ออเจ้า” ละครับ ละครอะไรก็ไม่รู้สร้างกระแสได้ทั่วประเทศ ขนาดเอามาฉายใหม่ยังได้เรตติ้งสูงอยู่เลยครับ.
“ซูม”