คำว่า “ดูด” กลายเป็นศัพท์ยอดฮิตของการเมืองไทยวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา กล่าวในรายการ “ศาสตร์พระราชาสู่การพัฒนายั่งยืน” ว่า “ดูด” เป็นครรลองของประชาธิปไตยไทย ที่มีมายาวนาน หลายคนอาจอ้างว่าทำด้วยอุดมการณ์ เพื่อชาติและประชาชน คำว่า “ดูด” คงจะเป็นภาษาของสื่อ เป็นการตลาด ซึ่งเป็นความเป็นจริง

สื่อนำคำว่า “ดูด” มาใช้เพื่อสื่อความหมายให้มองเห็นภาพ เป็นการพูดถึงการที่พรรคการเมืองที่มีพร้อมทั้งอำนาจรัฐและอำนาจเงิน “ดึง” นักการเมืองจากพรรคอื่นๆเข้าพรรค บางครั้งเป็นการใช้พลานุภาพมหาศาล ไม่ใช่ดึงแค่ ส.ส. แต่ดึงมาทั้งพรรค จึงเรียกว่า “ดูด” นักการเมืองดังๆที่มีสิทธิชนะเลือกตั้ง ถูกดูดเข้าพรรคด้วยเงินหลายสิบล้านบาท

การดูดอาจจะเป็นหนึ่งในครรลอง ของประชาธิปไตยไทย หรือประชาธิปไตยไทยนิยม แต่ยังมีครรลองประชาธิปไตยที่ผิดๆ อีกหลายอย่าง ที่ถือปฏิบัติกันมา เช่น การเร่งออกโครงการและจัดสรรงบประมาณโครงการลดแลกแจกแถมก่อนการเลือกตั้ง คล้ายกับที่รัฐบาลนี้กำลังทำอยู่ เช่น เร่งโครงการไทยนิยม และกองทุนหมู่บ้าน แห่งละ 2–3 แสนบาท

ในอดีตพรรครัฐบาลเคยใช้อำนาจรัฐและเจ้าหน้าที่ของรัฐ เอื้อประโยชน์ในการเลือกตั้ง แต่หลังจากมีรัฐธรรมนูญ 2540 และ กกต. เป็นผู้จัดการเลือกตั้ง รัฐบาลมักไม่กล้าใช้อำนาจรัฐกันตรงๆ เพราะโทษหนัก แต่รัฐบาล คสช. มาจากรัฐประหารและเป็นรัฐบาลข้าราชการ ทำให้เริ่มมีการจับตามองว่ารัฐบาลจะใช้อำนาจรัฐเอื้อการเลือกตั้งหรือไม่

หลังจากที่หัวหน้า คสช. แสดงตัวชัดเจน จะเล่นการเมืองในการเลือกตั้งคราวหน้า นักข่าวจึงถามผู้บัญชาการทหารสูงสุดเกี่ยวกับบทบาทของกองทัพ และได้รับคำตอบว่า “แน่นอนกองทัพยังเป็นเครื่องมือของรัฐบาลอยู่ การสนับสนุนรัฐบาลเป็นหน้าที่ของกองทัพ” รวมทั้งสนับสนุนผู้นำรัฐบาล แต่ไม่ได้บอกชัดเจนว่ากองทัพจะสนับสนุนรัฐบาลอย่างไร ในเกมการเลือกตั้ง

...

การที่หน่วยราชการสนับสนุนรัฐบาล ด้วยการปฏิบัติหน้าที่ราชการตามปกติเป็นเรื่องธรรมดา แต่ถ้าถึงกับสนับสนุนการชิงชัยเลือกตั้ง อาจเข้าข่ายเป็นความผิดตามกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งห้ามเจ้าหน้าที่รัฐใช้ตำแหน่งหน้าที่ เพื่อเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง ผู้ฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุก 1 ถึง 10 ปี ถูกเพิกถอนสิทธิเลือกตั้ง 10 ปี มีโทษปรับอีกต่างหาก

คสช.ประกาศตั้งแต่วันแรกของการยึดอำนาจ จะปฏิรูปประเทศในทุกด้านรวมทั้งการเมือง ให้มีการเลือกตั้งที่สุจริตและเป็นธรรม จึงหวังว่า คสช.จะ “ดูด” น้ำเน่าออกจากการเมืองไทย ไม่ใช่กระโดดลงไปคลุกน้ำเน่าเสียเอง โดยอ้างว่าเป็นประชาธิปไตยแบบไทยหรือไทยนิยม แต่จะต้องเป็นประชาธิปไตยแบบที่นานาอารยประเทศประชาธิปไตยยอมรับ.