วันนี้ไปดูเรื่องน้ำมันและก๊าซในรัสเซียกันครับ หน่วยงานที่ทางการรัสเซียเปิดให้เข้ารับฟังข้อมูลในครั้งนี้ก็มี Rosneft บริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่ของรัสเซียที่รัฐบาลถือหุ้น 50% และกระทรวงพลังงาน ซึ่งมี รัฐมนตรีช่วย เป็นผู้ให้ข้อมูลด้วยตัวเอง การเข้าไปหน่วยงานแต่ละแห่งเข้มงวดมาก ต้องส่งชื่อล่วงหน้า ไปถึงต้องเข้าคิวตรวจพาสปอร์ตและชื่อให้ตรงกัน ประตูทางเข้าเป็นห้องเล็กนิดเดียวจุได้ไม่ถึงสิบคน ทั้งที่ตึกก็ใหญ่โตเราไปกันยี่สิบกว่าคนเลยต้องไปยืนตากลมหนาวระดับศูนย์องศาอยู่นอกตึก

ผมเชื่อว่าทุกวันนี้ มีน้อยคนที่จะรู้ว่า รัสเซีย เป็นประเทศมหาอำนาจทางพลังงาน เพราะมีทั้ง น้ำมัน ก๊าซ ถ่านหิน ปริมาณมหาศาลอันดับต้นๆ ของโลก

จากข้อมูลของ รอสเนฟท์ และกระทรวงพลังงานรัสเซีย ปรากฏว่า รัสเซียเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบสูงสุดในโลก เป็นผู้ผลิตก๊าซธรรมชาติมากเป็นอันดับ 2 ของโลก และมีปริมาณสำรองอีกเหลือเฟือ แม้สหรัฐฯ จะแซงก์ชั่น รัสเซียก็ไม่กระเทือนอะไรเลย จากตัวเลขปี 2016 รัสเซียมีก๊าซธรรมชาติสำรองสูงถึง 1,140 ล้านล้านลูกบาศก์ฟุต มากเป็น อันดับ 2 ของโลก รองจากอิหร่าน มีน้ำมันดิบสำรองสูงถึง 109,500 ล้านบาร์เรล สูงสุดในยุโรปและยูโรเซีย มีถ่านหินสำรอง 160,360 ล้านตัน เป็น อันดับ 3 ของโลก รองจาก สหรัฐฯ และจีน

พลังงานที่มีทั้งหมด รัสเซียใช้ในประเทศเพียง 33% เท่านั้น ที่เหลือส่งออกหมด เช่น สหภาพยุโรป ต้องพึ่งพาก๊าซธรรมชาติจากรัสเซียถึง 40% ต้องพึ่งพาน้ำมันดิบจากรัสเซียถึง 2 ใน 3 ของปริมาณที่ใช้ทั้งหมด รัสเซียจึงร่ำรวยจากการขายพลังงานให้ยุโรป

แม้รัสเซียจะมี ถ่านหิน มากมายมหาศาล ใช้เท่าไหร่ก็ไม่หมด ขายเท่าไหร่ก็ไม่หมด แต่ มิสเตอร์ Anatoly Yanovsky รัฐมนตรีช่วยกระทรวงพลังงาน ตอบผมว่า รัสเซียใช้ถ่านหินผลิตไฟฟ้าน้อยมาก รัฐบาลรัสเซียมุ่งเน้นในเรื่อง “พลังงานสะอาด” มากกว่าผมฟังแล้วก็ขอส่งข้อความนี้ต่อไปยัง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีพลังงาน รวมทั้ง ผู้ว่าการการไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ (กฟผ.) อยากให้นายกรัฐมนตรีตรวจสอบด้วยว่า ข้อมูลถ่านหินที่ กฟผ. รายงานรัฐบาล เป็นข้อมูลที่ถูกต้องหรือไม่

...

จากข้อมูลของ กระทรวงพลังงานรัสเซีย ที่ระบุถึง “เชื้อเพลิง” ที่ใช้ในการ ผลิตไฟฟ้า ปี 2559 ปรากฏว่า ใช้ก๊าซธรรมชาติสูงถึงร้อยละ 52 รองลงมาเป็น น้ำมันร้อยละ 22 และอันดับ 3 พลังงานนิวเคลียร์กับพลังงานหมุนเวียน และ ถ่านหิน ร้อยละ 13 เท่ากัน

นี่คือ จิตสำนึกการรักษาสิ่งแวดล้อม และการปกป้องโลกร้อน ที่ รัฐบาลทั่วโลกเขาทำกัน ผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่า รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จะเดินตามแนวทางนี้ด้วย

แม้รัสเซียจะมีถ่านหินมากเป็นอันดับ 3 ของโลก แต่รัสเซียก็เลือกใช้ก๊าซธรรมชาติผลิตไฟฟ้าเป็นหลัก เพราะเป็นพลังงานที่สะอาดกว่า ในขณะที่ กระทรวงพลังงาน และ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตฯ พยายามโฆษณาให้คนไทยเชื่อว่า ไทยใช้ก๊าซผลิตไฟฟ้ามากเกินไป ก๊าซในอ่าวไทยกำลังจะหมด ต้องใช้ถ่านหินแทน มีการปรับแผนผลิตไฟฟ้าหรือพีดีพีให้ใช้ถ่านหินมากขึ้น ซึ่งค่าซื้อและค่าก่อสร้างโรงไฟฟ้าถ่านหินก็โคตรแพง เพราะต้องใช้เทคโนโลยีขั้นสูงไปทำให้ถ่านหินที่สกปรกสะอาดขึ้น แต่ก็ทำลายสิ่งแวดล้อม ทำให้โลกร้อนขึ้นอยู่ดี

ผมอยากให้ พล.อ.ประยุทธ์ รับรู้ความจริงว่า ก๊าซธรรมชาติ ในโลกวันนี้ มีราคาถูกลงเรื่อยๆ ต้นทุนการผลิตก็ถูกลงเรื่อยๆ เพราะมีปริมาณสำรองมหาศาล ก็คงมีแต่ กฟผ.นี่แหละ ที่ใช้ก๊าซผลิตไฟฟ้าแล้วแพงกว่าเอกชน

ข้อมูลที่น่าทึ่งอีกอย่างก็คือ รอสเนฟท์ ผู้ผลิตและผู้กลั่นน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย มีต้นทุนการผลิตที่ต่ำที่สุดในโลก ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของโลกถึง 3 เท่า เนื่องจาก รัฐบาลเก็บภาษีตามการขึ้นลงของราคาน้ำมัน ไม่ใช่เก็บภาษีเข้ากองทุนน้ำมัน แล้วนำไปชดเชยอย่างอื่นเพื่อหาเสียงให้รัฐบาล อย่างที่ทำกันในประเทศไทย ราคาทุกอย่างจึงเพี้ยนไปหมด

เรื่อง การบริหารต้นทุนพลังงาน เป็นเรื่องสำคัญมาก ถ้ารัฐบาลบริหารต้นทุนดีเก็บภาษีเป็นธรรม ทำให้พลังงานมีราคาถูกลง ต้นทุนการผลิตทุกอย่างก็ถูกลง ประเทศก็เจริญ ประชาชนก็มีความสุข แม้ไม่อยากเป็นนายกฯ ประชาชนก็อยากให้เป็นนายกฯโดยไม่ต้องไปตั้งพรรคนอมินีให้เสียเวลาเสียเงิน.

“ลม เปลี่ยนทิศ”