ผู้รู้ “ครูหนอน” เขียนไว้ในหนังสือ นักเลงภาษา (สำนักพิมพ์อินสปายร์ เครือนานมีบุ๊คส์ พ.ศ.2556) ว่า สัตว์ที่อยู่ในสำนวนไทยมากเป็นอันดับ 2 มีจำนวนสูสีกับหมา คือ เสือ

ผมมีหนังสือ “สำนวนไทย” ของอาจารย์กาญจนาคพันธุ์ สองเล่มใกล้มือ เก่าแก่รุ่งริ่งเต็มที ลองเปิดสารบัญดูก็พบว่า สำนวนที่ขึ้นต้นด้วย “หมา” มี 12 คำ

หมากัดอย่ากัดตอบ หมาขี้ไม่มีใครยกหาง หมาจนตรอก หมาถูกน้ำร้อน หมาหยอกไก่ หมาเห็นข้าวเปลือก หมาเห่าไม่กัด

หมาเห่าใบตองแห้ง หมาหวงก้าง หมาหมู่ หมาหัวเน่า หมาสองราง

ทั้ง 12 สำนวน เปรียบไปในทางไม่ค่อยดี ค่อนไปทางหมิ่นแคลน คำ หมาหัวเน่า หมาสองราง ด่าประจานเอาเลยทีเดียว

ทีนี้มาดูสำนวนเสือ เสือซ่อนเล็บ เสือเฒ่าจำศีล เสือทลายห้าง ช้างทลายโรง เสือนอนกิน เสือรู้ เสือลากหาง เสือสู้กันหญ้าแพรกแหลก เสือสิ้นตวัก สุนัขจนตรอก รวมได้แค่ 9 คำ

แต่จะวัดจำนวนด้วยคำขึ้นต้นว่า “เสือ” หรือ “หมา” คงไม่ได้ทีเดียว เพราะทั้งเสือและหมาไปซ่อนอยู่ในคำกลาง คำท้ายสำนวนก็มาก

ลองตั้งข้อสังเกตความหมายเสือ คนใช้ออกไปทางยกย่อง เกรงกลัว เสือซ่อนเล็บ เสือทลายห้าง เสือลากหาง

(สำนวนเสือลากหาง ผมเพิ่งดูข่าวเสือดำที่ออกทีวีตัวนั้นเดินลากหางช้าๆ ดูแล้วซ่อนลีลาตั้งท่าตะปบเหยื่อไว้น่าเกรงขาม) นึกถึงเสือดำบาคีลา เพื่อน “เมาคลี” มนุษย์หมาป่า ผมอ่านจากชัยพฤกษ์ อาจารย์ตำรา ณ เมืองใต้

อีกตัวมาคุ้นตอนโต เป็นนักข่าวเขียนข่าวเจ้าเสือดำ ในสุสานรถไฟที่ถูกเรียกว่าป่ามักกะสัน (กลางกรุง) มีข่าวว่า มันมักเพ่นพ่านไปโผล่หน้าบ้านใครต่อใคร หน้าบ้านรองนายกฯสมภพมันก็ไปฝากรอยเท้าเยี่ยม

เจ้าดำมักกะสัน ยิ่งเป็นข่าวใหญ่ ชาวบ้านนอนตาไม่หลับ จึงมีข่าวเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้...ไปดักจับเอาไปปล่อยในป่า น่าจะเป็นแถวๆ ป่าทุ่งใหญ่ที่กำลังมีเรื่องเจ้าสัวยิงเสือนี่แหละ

...

ชาวบ้านแถวดินแดง มักกะสัน ก็จึงโล่งใจ กินได้นอนหลับ

เพราะคุ้นกับเสือดำผมจึงค่อนข้างสนิทใจรักใคร่เสือดำ แม้ จะรู้ดีขึ้นชื่อว่าเสือก็ดุ ขืนเผลอทะเล่อทะล่าก็เป็นเสร็จมัน แต่เนื่องจากคน เป็นคนใช้สำนวน แม้ส่วนใหญ่ใช้กับหมาอย่างดูแคลน ใช้กับเสืออย่างให้ยำเกรง แต่ก็มีสำนวนหนึ่งลดระดับลงเท่ากัน คือสำนวน
เสือสิ้นตวัก สุนัขจนตรอก

สำนวนนี้มีความหมาย ไม่ว่าเสือหรือหมาเมื่อจวนตัวหมดหนทางก็ต้องสู้สุดฤทธิ์

มีสำนวนหมาสำนวนหนึ่ง วันนี้ยังมีคนเอามาพูดกันอยู่บ้าง ผมเพิ่งอ่านเจอว่า มาจากเสภาขุนช้างขุนแผน ตอนขุนช้างยกขันหมากไปสู่ขอนางพิม นางพิมแกล้งด่าบ่าวกระทบขุนช้าง

หมาจะเกิดมาชิงหมาเกิด ไปตายเสียเถิดไอ้ห้าเบี้ย

ความจริงในวันนี้ หมาเป็นสัตว์น่ารักและใกล้ชิดที่สุดกับมนุษย์ แต่หมาไทยในสมัยโบราณนั้น แล้วแต่มนุษย์จะให้คุณค่า เมื่อรักก็เชิดชู แต่เกลียดกันแล้วก็ด่าไม่ไว้หน้า

ด่าว่า ไอ้ห้าเบี้ย ห้าเบี้ยโบราณไม่มีค่า ซื้อผักหญ้าสักต้นก็ไม่ได้ ด่าเจ้าสัวธุรกิจแสนล้านไม่มีราคาคงไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าด่า “ชิงหมาเกิด”

ผมแว่วๆว่า ในบรรยากาศโกรธแค้นชิงชังรังเกียจ เจ้าสัวเข้าป่าฆ่าเสือดำ ฆ่าไก่ฟ้า ฯลฯ มีคนหลุดคำว่า “ไอ้ชิงหมาเกิด” ออกมาหลายคำ

คนบางคนนั้น เกิดมาชาติตระกูลดี เผลอคิดว่าเป็นคนเหนือคน เมื่อถูกด่า “ชิงหมาเกิด” ก็คงทนไม่ได้

ทั้งๆที่โดยความจริง คนบางคนในวันนี้ เป็นยิ่งกว่า “หมาหัวเน่า” ไปทางไหนไม่มีใครคบค้า อย่าว่าแต่ตัวตนเลย ธุรกิจหลายแสนล้าน ก็มีข่าวว่าเขาจะไม่เอากันทั้งบ้านทั้งเมือง.

กิเลน ประลองเชิง