วันเสาร์สบายๆวันนี้ ผมจะพาท่านผู้อ่านไปรู้จักกับ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปัญญาประดิษฐ์ (AI) คนแรกในโลก ระหว่างที่รอดูโฉมหน้า “ครม.ประยุทธ์ 5” ที่ยังย่ำอยู่ในแวดวง “เพื่อนพ้องน้องพี่” บางท่านก็บ่นอุบ ไม่รู้สังขารจะไปไหวหรือไม่ เพราะอายุมากแล้ว ยังต้องลำบากมาเป็นรัฐมนตรี แล้วจะมีปัญญาคิดอ่านทำงานเพื่ออนาคตของลูกหลานไทยรุ่นใหม่ได้อย่างไร แค่ความคิดก็ตามไม่ทันเสียแล้ว

อ่านแล้วก็อย่าเอามาเทียบกับ ประเทศไทย นะครับ ผิดหวังแน่นอน รับประกัน

วันที่ 11-12 พฤศจิกายน 2560 ที่ผ่านมา นครดูไบ ของ ประเทศ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (U.A.E) เป็นเจ้าภาพจัดการประชุม “สภาแห่งอนาคตโลก ประจำปี 2017 World Future Councils 2017” โดย World Economic Forum หัวข้อการประชุมมีแต่เรื่องในอนาคต อ่านแล้วก็เป็นห่วงประเทศไทย ไม่รู้อนาคตจะอยู่อันดับไหนของโลก

ใครอยากรู้ว่าเขาพูดถึงอนาคตโลกในเรื่องต่างๆอย่างไร เช่น การ ปฏิวัติอุตสาหกรรมในอนาคต ปัญญาประดิษฐ์และหุ่นยนต์ในอนาคต บล็อกเชนในอนาคต เมืองและสังคมเมืองในอนาคต เศรษฐกิจดิจิทัลกับสังคมในอนาคต ระบบสถาบันการเงินในอนาคต ไปจนถึง มนุษยธรรมในอนาคต ก็ไปเปิดอ่านได้ครับ

ก่อนหน้าที่ ดูไบ จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม “สภาแห่งอนาคตโลกประจำปี 2017” รัฐบาลยูเออีได้สร้างความฮือฮาไปทั่วโลก ด้วยการแต่งตั้ง นาย Omar Bin Sultan Al Olama วัย 27 ปี รองผู้อำนวยการสถาบันเพื่ออนาคต ขึ้นเป็น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปัญญาประดิษฐ์ หรือ Minister of State for Artificial Intelligence เป็น “คนแรกในโลก” ในการปรับ ครม.ล่าสุด ซึ่งมีการแต่งตั้งรัฐมนตรีใหม่เพิ่ม 6 ตำแหน่ง ล้วนเป็นคนหนุ่มสาวสำหรับทำงานเพื่ออนาคตทั้งสิ้น

ชีค โมฮัมเหม็ด บิน ราชิด อัล มัคทูม รองประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรียูเออี เจ้าผู้ครองนครดูไบ กล่าวว่า เราต้องการเตรียมประเทศยูเออีให้เป็นประเทศที่มีความพร้อมที่สุดในเรื่องปัญญาประดิษฐ์ การบริหารประเทศในเฟสใหม่ของรัฐบาลยูเออี จะเน้นในเรื่อง ความเชี่ยวชาญในอนาคต วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในอนาคต เราเตรียมการเพื่อฉลองครบรอบ 100 ปีของประเทศยูเออี ในปี 2071 เพื่อสร้างอนาคตที่ดีกว่าในยุคของเรา

...

งานของ อัล โอลามา รัฐมนตรีกระทรวงเอไอ ก็คือ การสร้างให้ยูเออีเป็นศูนย์กลางการพัฒนาปัญญาประดิษฐ์ ทั้งด้านเทคนิคและกฎหมาย เพื่อสนับสนุนให้รัฐบาลสามารถผลักดันความคิดสร้างสรรค์ต่างๆได้รวดเร็วขึ้นในอนาคตอันใกล้

ตัวอย่างเช่น นครดูไบ วางแผนที่จะให้มี “ตำรวจหุ่นยนต์” หรือ Robot Cops ที่เราเห็นในภาพยนตร์ ภายในปี 2030 เพื่อทำหน้าที่แทน ตำรวจจริง บนท้องถนน ถนนที่มีแต่ยานยนต์ขับเคลื่อนด้วยตัวเองโดยไม่มีคนขับ เหมือนถนนในนวนิยายแฟนตาซี แต่จะเป็นความจริงในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า

ไพรซ์วอเตอร์เฮาส์คูเปอร์ส สำนักตรวจสอบบัญชียักษ์ใหญ่โลกประเมินว่า ธุรกิจปัญญาประดิษฐ์ (AI) จะมีมูลค่าสูงถึง 15.7 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ราว 518 ล้านล้านบาท ภายในปี 2031 ก็อีกแค่ 13 ปีเท่านั้น แป๊บเดียวก็ถึงแล้ว

วันนี้ประเทศในตะวันออกกลาง เริ่มใช้ปัญญาประดิษฐ์ในธุรกิจเฮลท์แคร์ เพื่อดูแลสุขภาพกันแล้ว จากการศึกษาวิจัยพบว่า ร้อยละ 55 ของชาวตะวันออกกลาง ต้องการที่จะใช้ เทคโนโลยีที่ก้าวหน้า หุ่นยนต์ และ ปัญญาประดิษฐ์ ในการ ดูแลรักษาสุขภาพแทนคุณหมอจริงๆ ปีที่แล้ว 2016 รัฐบาลยูเออี ก็ได้สร้างความเซอร์ไพรส์แก่สังคมโลกมาแล้ว ด้วยการแต่งตั้ง รัฐมนตรีกระทรวงแห่งความสุข หรือ Minister of Happiness ขึ้นมาทำหน้าที่ดูแลความสุขให้กับสังคมและประชาชน

นี่คือ “อนาคตจริง” ที่กำลังเกิดขึ้นใน ประเทศยูเออี

อ่านแล้วก็อิจฉาประชาชนยูเออี มีผู้นำและรัฐบาลที่คิดทุกอย่างเพื่อประชาชนตั้งแต่ปัจจุบันยันอนาคต ผมก็เก็บมาเล่าสู่กันฟังในประเทศที่ยังไม่รู้ว่า “อนาคตไทยแลนด์ 4.0” ประชาชนในประเทศจะเป็นอย่างไร.

“ลม เปลี่ยนทิศ”