ฝนตกหนักหลายชั่วโมงเช้ามืดวันเสาร์ กรุงเทพมหานคร กลายเป็น “ทะเลกรุงเทพฯ” ไปทันที เหมือนน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ถนนวิภาวดีฯช่วงสุทธิสารจนถึงห้าแยกลาดพร้าวน้ำท่วมเต็มถนน รถเล็กวิ่งผ่านไม่ได้ ทั้งๆอยู่ติดกับ “อุโมงค์ยักษ์ 2” ของ กทม.ที่ลงทุนไปหลายพันล้านบาท เพื่อระบายน้ำในเขตถนนวิภาวดีรังสิต ห้าแยกลาดพร้าว คลองลาดพร้าว ไปจนถึงถนนรัชดาภิเษก แต่กลับไม่ได้ผลตามที่คุย

แก้น้ำท่วม กทม.ตามรอยพ่อ

ผมนั่งเขียนคอลัมน์นี้ใกล้ 11 โมงเช้าวันเสาร์ น้ำลดลงนิดหน่อย ผมอยู่แถววิภาวดี 16 อยู่ติดอุโมงค์ยักษ์แค่ร้อยกว่าเมตร น้ำยังท่วมเลยหน้าแข้ง

...

เขียนถึงทะเลกรุงเทพฯทุกครั้งที่ฝนตกหนัก ผมก็นึกถึงพระมหากรุณาธิคุณอันล้นพ้นของ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล อดุลยเดช ที่ทรงลำบากพระวรกายออกตรวจพื้นที่น้ำท่วมด้วยพระองค์เองในยามค่ำคืน เพื่อหาทางแก้ไขปัญหาน้ำท่วมให้คนกรุงเทพฯ จนกระทั่งเกิด “คลองลัดโพธิ์” จาก พระราชดำริ ขึ้นมาในปี 2553 เพื่อช่วยแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ แต่น่าเสียดายก็คือ ผู้ว่าฯ กทม. รัฐมนตรีมหาดไทย และ รัฐบาลยุคต่อมา ไม่ได้สานต่อ โครงการพระราชดำริแก้น้ำท่วมกรุงเทพฯ อย่างต่อเนื่อง

การสร้าง ประตูระบายน้ำคลองลัดโพธิ์ ระยะทาง 600 เมตร พระบาท สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช รับสั่งว่า เป็นการบริหารจัดการน้ำ เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมกรุงเทพฯ โดยยึดหลักการ “เบี่ยงน้ำ” ภายใต้การดูแลของ 3 หน่วยงานหลักคือ กรมชลประทาน กรุงเทพมหานคร และคณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ เมื่อน้ำทะเลหนุน ก็ปิดประตูน้ำคลองลัดโพธิ์ ไม่ให้น้ำทะเลไหลเข้าไปในแม่น้ำเจ้าพระยาแถวบางกระเจ้าที่ยาวถึง 18 กม. เมื่อน้ำทะเลลงก็เปิดประตูน้ำ ระบายน้ำออกไปตามน้ำทะเล

...

พระองค์รับสั่งว่า “ประตูน้ำคลองลัดโพธิ์ เป็นตัวอย่างของการบริหารจัดการน้ำ หากบริหารจัดการให้ถูกต้อง จะสามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมได้” แต่น่าเสียดายที่รัฐบาลและหน่วยงานที่รับผิดชอบ ไม่ได้สานต่อแนวทางพระราชดำรินี้

ถ้ารัฐบาลคิดได้ เริ่มต้นวันนี้ก็ยังไม่สายเกินไป

อีกโครงการหนึ่งที่ผมเคยเขียนลงในคอลัมน์นี้มาสิบกว่าปีแล้วก็คือ โครงการขุดคลองเจ้าพระยา 2 เพื่อเป็น Flood way ผันน้ำหลากจากทางเหนือ ที่ไหลบ่าเข้าท่วม อยุธยา และ กรุงเทพฯ ทุกปีที่มีฝนตกหนัก ซึ่งเป็นโครงการที่ สำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ได้ว่าจ้างให้ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เป็นผู้ศึกษาวิจัย แต่จนแล้วจนรอด ทุกรัฐบาลที่ผ่านมาก็เอาแต่พูด แต่ไม่ลงมือทำเสียที ความเสียหายจากน้ำท่วม 10 กว่าปีมานี้ ผมคิดว่ามากกว่าการลงทุนขุดคลองเจ้าพระยา 2 ไม่รู้กี่เท่า

“คลองเจ้าพระยา 2” จากการศึกษาของ มหาวิทยาลัยเกษตรฯ เริ่มจาก อำเภอบางไทร อยุธยา ที่เป็นพื้นที่รับน้ำท่วมทุกครั้ง ผ่าน ปทุมธานี กรุงเทพฯ ไหลลงสู่อ่าวไทย เพื่อแก้ปัญหาน้ำท่วมภาคกลางตอนล่างหลายจังหวัด การศึกษาวิจัยครั้งนี้ ทำอย่างละเอียดมาก มีการกำหนดความกว้างของคลองว่าต้องกว้าง 400–500 เมตร มีความยาว 100 กม. เริ่มจาก ฝั่งตะวันออกของอำเภอบางไทร ผ่าน วังน้อย ธัญบุรี รังสิตคลอง 13–14 ไปลงที่ คลองไชยานุชิต แล้วไหลไปออกที่ คลองด่าน เพื่อลงสู่ ทะเลอ่าวไทย

ไม่ต้องผ่าน “อุโมงค์ยักษ์ กทม.” ที่ใช้ไม่ได้ผลทั้ง 2 อุโมงค์

ผมขอเสนอให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี นำโครงการนี้ไปคิดเป็นการบ้านอีกครั้ง โครงการนี้ใช้เงินลงทุนเพียง 100,000 กว่าล้านบาท เท่านั้น ถูกกว่ารถไฟความเร็วสูงไทย–จีน กรุงเทพฯ–โคราช ที่ใช้เงินลงทุนกว่า 179,000 ล้านบาท เยอะ โครงการรถไฟความเร็วสูงจีน คนไทยได้ประโยชน์น้อย แต่การ “ขุดคลองเจ้าพระยา 2” คนไทยได้ประโยชน์เยอะมาก สามารถแก้ปัญหาน้ำท่วมถาวร ตั้งแต่ อยุธยา ปทุมธานี กรุงเทพมหานคร ให้ประชาชนเกือบ 20 ล้านคน ลดความเสียหายทางเศรษฐกิจ และเพิ่มรายได้ทางเศรษฐกิจให้คนไทยเกือบ 20 ล้านคน มากกว่ารถไฟความเร็วสูงจีนเยอะ ไม่เชื่อ ท่านนายกฯ ให้ทีมงานไปนำผลการวิจัยนี้มาศึกษาดูได้เลยครับ.

“ลม เปลี่ยนทิศ”