งาน WWDC23 อีเวนต์ใหญ่ของแอปเปิล (Apple) สำหรับการจัดประชุมนักพัฒนาประจำปี ในปีนี้นับว่ามีความพิเศษเพราะมีการประกาศเปิดตัวทั้งซอฟต์แวร์ใหม่และฮาร์ดแวร์ใหม่ของแอปเปิล ซึ่งมีสิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือชุดแว่นล้ำยุค Apple Vision Pro พร้อมระบบปฏิบัติการใหม่ visionOS ถือว่าเป็นผลิตภัณฑ์ที่สำคัญล่าสุดนับตั้งแต่เปิดตัว Apple Watch มาในปี 2014
จะเป็นตัวขับเคลื่อนการปฏิวัติของ Apple อีกยุคหนึ่ง ภายใต้เทคโนโลยีที่เรียกว่า Spatial Computer หรือคอมพิวเตอร์เชิงพื้นที่เป็นการสร้างภาพเสมือนของกิจกรรมและการโต้ตอบระหว่างเครื่องจักร คน วัตถุ และสภาพแวดล้อมเพื่อดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ นับเป็นหนึ่งของเทคโนโลยี XR หรือ Extended Reality ที่รวมเอา VR (Virtual Reality), AR (Augmented Reality) และ MR (Mixed Reality) เพื่อสร้างประสบการณ์ใหม่จากโลกดิจิทัลเข้าไปผสมผสานกับความจริงผ่านชุดแว่นล้ำยุคได้อย่างลงตัว
“ทิม คุก” ซีอีโอ แอปเปิล กล่าวว่า นี่เป็นจุดเริ่มต้นยุคใหม่ของการประมวลผล เช่นเดียวกันแอปเปิลเคยแนะนำเครื่องแมค เป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล iPhone ถูกแนะนำโมบายคอมพิวเตอร์ Apple Vision Pro ก็แนะนำให้รู้จัก Spatial Computer ที่พัฒนาขึ้นจากนวัตกรรมของแอปเปิลที่มีมาหลายทศวรรษซึ่งมีความล้ำหน้าไปหลายปีล่วงหน้าไม่เหมือนใคร ด้วยระบบอินพุตใหม่ที่ปฏิวัติวงการและนวัตกรรมที่เป็นสิทธิบัตรถึง 5,000 รายการจะช่วยปลดล็อกประสบการณ์ที่เหลือเชื่อสำหรับผู้ใช้และการสร้างโอกาสใหม่ให้กับนักพัฒนาของแอปเปิล
...
ชุดแว่น Apple Vision Pro ระบบจอแสดงผลให้ความละเอียดสูงถึง 23 ล้านพิกเซล จากชิปแอปเปิลซิลิคอนแบบชิปคู่ คือชิป M2 ที่ทรงพลัง และชิป R1 เพื่อให้เซ็นเซอร์ทั้งหมดทำงานได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำ เพื่อให้ทุกประสบการณ์รู้สึกเหมือนอยู่ต่อหน้าต่อตาผู้ใช้ในเวลาจริง ประมวลผลอินพุตจากกล้อง เซ็นเซอร์ และไมโครโฟนโดยสตรีมภาพไปยังจอแสดงผลภายใน 12 มิลลิวินาที เพื่อให้มองเห็นโลกแบบเรียลไทม์ได้อย่างแท้จริง เป็นอุปกรณ์ใช้งานเดี่ยว หรือ Stand Alone มีขนาดกะทัดรัดเหมาะสำหรับการสวมใส่
Apple Vision Pro ออกแบบโดยแอปเปิล ผสานรวมเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำอย่างเหลือเชื่อเข้าไว้ในรูปแบบที่กะทัดรัดและสวยงาม ชุดแว่นผลิตขึ้นโดยกระจกลามิเนตขึ้นรูปสามมิติชิ้นเดียวไหลเข้าสู่กรอบอะลูมิเนียมที่โค้งรับกับใบหน้า แถบคาดศีรษะ แถบคาดศีรษะช่วยลดแรงกระแทก ระบายอากาศ แบตเตอรี่ภายนอกรองรับการใช้งานสูงสุด 2 ชั่วโมง และใช้งานได้ตลอดวันเมื่อเสียบปลั๊ก
EyeSight เปิดเผยดวงตาของคุณและให้คนที่อยู่ใกล้เคียงทราบเมื่อคุณใช้แอปเมื่อมีคนเข้าใกล้ Apple Vision Pro จะช่วยให้คุณเห็นบุคคลนั้นและเผยดวงตาของคุณให้พวกเขาเห็นพร้อมกัน
การใช้งานแอป VisionOS มีอินเตอร์เฟซสามมิติ การทำงานด้วยวิธีการใหม่หลายอย่างพร้อมกัน รองรับ Magic Keyboard และ Magic Trackpad ผู้ใช้สามารถตั้งค่าพื้นที่ทำงานที่สมบูรณ์แบบหรือนำความสามารถของ Mac มาใช้ใน Apple Vision Pro แบบไร้สาย สร้างจอภาพ 4K ขนาด 100 ฟุต 2 จอสำหรับตาทั้งสองข้างแบบส่วนตัวและพกพาสะดวกระบบเสียงตามตำแหน่ง (Spatial Audio) เพลิดเพลินกับภาพยนตร์สามมิติ รวมถึงการเล่นเกมเข้าสู่โลกใหม่จอขนาดใหญ่เท่าที่ต้องการ พร้อมระบบเสียงที่สมจริงและรองรับตัวควบคุมเกมยอดนิยม และการให้ประสบการณ์ใหม่เชื่อมต่อการสื่อสารกับผู้คนผ่าน FaceTime ท่องเว็บซาฟารี แชตผ่านแอปข้อความย้ายแอปไปมาเพียงแค่ใช้ตาชำเลืองมอง หรือใช้มือและคำสั่งเสียง
มีระบบการยืนยันตัวตนที่มีความปลอดภัยแบบใหม่คือ Optic ID จะวิเคราะห์ม่านตาของผู้ใช้เพื่อทำการปลดล็อกเพื่อใช้งาน Apple Vision Pro ทันทีแอปเปิลมีแผนผลิตออกสู่ตลาดในตลาดสหรัฐฯ เป็นแห่งแรกในต้นปีหน้า โดยตั้งราคาจำหน่ายไว้ที่ชุดละ 3,499 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 121,800 บาท
MacBook Air 15 นิ้ว ชิป M2
นอกจากนี้ยังมีผลิตภัณฑ์ใหม่อีก 3 รายการโดย เริ่มจาก MacBook Air รุ่น 15 นิ้ว จอใหญ่ถึง 15.3 นิ้ว จอกว้างเต็มตา เป็นแล็ปท็อปรุ่น 15 นิ้วที่บางที่สุดในโลกเพียง 11.5 มม. หนักเพียง 1.51 กก. ขับเคลื่อนด้วยชิป
M2 เร็วสูงสุด 12 เท่า เมื่อเทียบกับ MacBook Air ที่ใช้โปรเซสเซอร์ Intel ที่เร็วที่สุด แบตเตอรี่ใช้นานสูงสุด 18 ชั่วโมง ดีไซน์แบบไร้พัดลมที่เงียบ มี CPU แบบ 8-core คอร์ด้านประสิทธิภาพ 4 คอร์ และคอร์
...
ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ พร้อมด้วย GPU แบบ 10-core และ Neural Engine แบบ 16-core แบนด์วิดท์หน่วยความจำ 100GB/s รองรับหน่วยความจำแบบรวมที่รวดเร็วขนาดสูงสุด 24GB รับมือกับเวิร์กโหลดที่ซับซ้อนได้อย่างลื่นไหล
พอร์ต Thunderbolt 2 พอร์ต สำหรับเชื่อมต่อกับอุปกรณ์เสริมและจอภาพภายนอกสูงสุดถึงระดับ 6K รวมถึงช่องต่อหูฟัง 3.5 มม. มี 4 สีได้แก่ สีมิดไนต์ สีสตาร์ไลต์ สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน ราคาเริ่มต้นที่ 47,900 บาท
...
Mac Studio ใหม่
Mac Studio พร้อมชิป M2 Max และ M2 Ultra ใหม่เป็นขุมพลังด้านประสิทธิภาพที่มาในดีไซน์กะทัดรัดโดยรุ่นชิป M2 Max มี CPU แบบ 12-core, GPU สูงสุดแบบ 38-core และหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 96GB พร้อมด้วยแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 400GB/s เร็วขึ้นสูงสุด 50% เมื่อเทียบกับ Mac Studio รุ่นก่อนหน้า
ส่วนรุ่น ชิป M2 Ultra เป็น System on Chip (SoC) ที่ใหญ่ที่สุด มี CPU แบบ 24-core, GPU สูงสุดแบบ 76-core และหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 192GB พร้อมด้วยแบนด์วิดท์หน่วยความจำ 800GB/s เพื่อประสิทธิภาพระดับเวิร์กสเตชัน มีประสิทธิภาพและความสามารถเหนือกว่าชิป M2 Max ถึง 2 เท่า เร็วขึ้นสูงสุด 3 เท่า เมื่อเทียบกับ Mac Studio พร้อมชิป M1 Ultra รุ่นก่อนหน้า จำหน่ายในราคาเริ่มต้นที่ 74,900 บาท
...
Mac Pro ใหม่ ใช้ชิป M2 Ultra ที่ทรงพลังที่สุด CPU แบบ 24-core GPU แบบ 76-core แบนด์วิดท์หน่วยความจำ 800GB/s รวมเข้ากับช่องต่อขยาย PCIe และทำให้การเปลี่ยนมาใช้แอปเปิล ซิลิคอนใน Mac ครบสมบูรณ์ มีหน่วยความจำแบบรวมสูงสุด 192GB ซึ่งนำหน้าการ์ดกราฟิกระดับเวิร์กสเตชันที่ล้ำสมัย ราคาเริ่มต้นที่ 249,900 บาท จะเปิดให้สั่งซื้อได้เร็วๆนี้ Mac Studio และ Mac Pro สามารถเล่นวิดีโอ ProRes ระดับ 8K ได้พร้อมกันถึง 22 สตรีม เหมือนกันทั้งสองรุ่น
iOS 17 เป็นส่วนตัวมากขึ้น
สำหรับซอฟต์แวร์ใหม่เริ่มต้นกับ iOS 17 ทำให้ iPhone ใช้งานได้ง่ายและเป็นส่วนตัวมากขึ้น เริ่มจากแอปโทรศัพท์รองรับการใช้งานครบ มีคอนแทกต์โปสเตอร์สามารถปรับแต่งรายชื่อผู้ติดต่อรูปภาพ, Memoji, ฟอนต์ และสีสัน เพื่อเปิดประสบการณ์แบบใหม่หมดในการรับสายเรียกเข้า
คุณสมบัติ FaceTime ช่วยแชร์ข้อความหรือวิดีโอไว้ให้ปลายทางได้หากยังไม่สะดวกรับสาย แอป ข้อความมีคุณสมบัติใหม่ Check In ให้ผู้ใช้ไว้แจ้งเตือนให้เพื่อนๆ หรือสมาชิกครอบครัวทราบว่าไปถึงจุดหมายอย่างปลอดภัย
วิธีการแชร์ AirDrop แบบใหม่ NameDrop จะช่วยแชร์ข้อมูลติดต่อได้เพียงแค่นำ iPhone มาไว้ใกล้ๆ กัน หรือหัน iPhone เข้าหา Apple Watch ผู้ใช้ยังสามารถใช้ท่าทางเดียวกันนี้ในการแชร์เนื้อหาหรือเริ่มใช้ SharePlay เพื่อฟังเพลง ดูภาพยนตร์ หรือเล่นเกมจากอุปกรณ์ iPhone ที่อยู่ใกล้ๆกัน
ลดคำสั่งเสียง Hey Siri เหลือแค่ Siri โหมด StandBy ล็อกหน้าจอแนวนอนระหว่างชาร์จ iPhone บนโต๊ะข้างเตียง ในครัว หรือโต๊ะทำงาน เพื่อบอกเวลา แจ้งเตือนกับจอขนาดใหญ่ขึ้น รองรับการแสดงกิจกรรมสด ทางด้านการปรับปรุงการแก้ไขอัตโนมัติให้ข้อความมีความแม่นยำมากขึ้น แอปแผนที่รองรับออฟไลน์ และยังมีความสามารถใหม่ๆและปรับปรุงขึ้นให้ดีขึ้นในคุณสมบัติต่างๆ อีกมากมาย สำหรับ iPhone รุ่นที่รองรับ iOS17 เริ่มต้นจาก iPhone XS หรือใหม่กว่า โดยความพร้อมใช้งานสำหรับบุคคลทั่วไปจะพร้อมในปีนี้
iPadOS 17 ปรับแต่งหน้าจอล็อก
คุณสมบัติใหม่สามารถปรับแต่งหน้าจอล็อกได้ วิดเจ็ตโต้ตอบได้ ไฟล์ PDF ทำงานง่ายยิ่งขึ้นด้วยคุณสมบัติการป้อนอัตโนมัติ ซึ่งจะมองหาและกรอกข้อมูลลงในช่องของแบบฟอร์มอย่างชาญฉลาด ในขณะที่แอปโน้ตก็มาพร้อมประสบการณ์แบบใหม่ในการทำเครื่องหมายและทำงานร่วมกันบน PDF แอปข้อความครั้งสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นประสบการณ์การใช้งานสติกเกอร์ใหม่ๆ แอปสุขภาพรองรับ iPad แล้วจะพร้อมใช้งานภายในปีนี้
watchOS10 อัปเดตหน้าปัดใหม่
สำหรับนาฬิกา Apple Watch มีวิธีใหม่ๆ ในการดูข้อมูลอย่างรวดเร็วด้วยแอปที่ออกแบบมาใหม่ Smart Stack ใหม่เพื่อแสดงวิดเจ็ตที่เกี่ยวข้องได้ทันทีที่ต้องการ และหน้าปัดนาฬิกาแบบใหม่ ค่าวัดใหม่ๆ มุมมองการออกกำลังกาย และการเชื่อมต่อบลูทูธสำหรับมาตรวัดกำลัง เซ็นเซอร์วัดความเร็ว และเซ็นเซอร์วัดรอบขาใช้งานได้แล้วสำหรับนักปั่นจักรยาน ในขณะที่ความสามารถใหม่ๆ ของจุดอ้างอิงเข็มทิศ และแอปแผนที่ก็จะมีประโยชน์ต่อนักเดินป่ามากขึ้น ส่วนแอปทำสมาธินั้นมาพร้อมเครื่องมือเพิ่มเติมที่จะช่วยดูแลสุขภาพจิตของผู้ใช้ จะพร้อมใช้งานภายในปีนี้สำหรับ Apple Watch Series 4 หรือใหม่กว่า
macOS Sonoma มาพร้อมกับความสามารถใหม่ทั้งหมดที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านการทำงานด้วยมีวิธีการใหม่ๆ ในการปรับแต่งการใช้งานให้ตรงใจด้วยวิดเจ็ตและสกรีนเซิร์ฟเวอร์ใหม่ที่สวยงาม การอัปเดตครั้งใหญ่ของ Safari และการประชุมผ่านวิดีโอ รวมถึงปรับแต่งประสบการณ์การเล่นเกมให้ลงตัว ส่วน tvOS 17 นำ FaceTime และการประชุมทางวิดีโอมาไว้บนจอภาพขนาดใหญ่ที่สุดในบ้าน จะพร้อมให้บริการในรูปแบบการอัปเดตซอฟต์แวร์สำหรับ Apple TV 4K และ Apple TV HD