ซัมซุงเปิดกลยุทธ์รุกธุรกิจ “บีทูบี” นำเสนอผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนพันธุ์แกร่งเพื่อใช้ในธุรกิจเฉพาะด้าน ผนวกกับกระแส “เน็กซ์ นอร์มอล” ที่ปรับตัวจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 เกิดกระแสมีความต้องการอุปกรณ์เติบโตมากขึ้น ทำให้เห็นโอกาสบนความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น

ดร.มารุต มณีสถิตย์ ผู้อำนวยการกลุ่มธุรกิจลูกค้าองค์กร ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ไทยซัมซุง อิเล็กทรอนิกส์ จำกัด กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นได้เร่งให้องค์กรธุรกิจต้องปรับตัวเพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงสัมผัสการแพร่ระบาด และเป็นโอกาสให้พัฒนารูปแบบธุรกิจใหม่ๆ ให้สอดรับความเปลี่ยนแปลงของแลนด์สเคปธุรกิจโลก เป็น “ดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชั่น” ในยุคโควิดยิ่งบีบบังคับให้ทุกคนต้องใช้ให้เป็น

ตัวอย่างเช่นธุรกิจฟู้ดดีลิเวอรีในเมืองไทยเติบโตสูงถึง 78-84% ห้างสรรพสินค้าใช้กลยุทธ์ไลฟ์สดเพื่อขายสินค้า ธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ เติบโต 35% โรงพยาบาลกับการใช้เทเลเมดิซีนเพื่อลดความเสี่ยงในการสัมผัสโรค หรือแม้แต่โครงการคนละครึ่งที่ใช้บิ๊กดาต้า ล้วนแต่เป็น “เทคโนโลยีดิสรัปชัน”

...

ทางซัมซุงมองโอกาสการเข้าสนับสนุนองค์กรธุรกิจไทย โดยจะเน้นถึง 1.การใช้นวัตกรรมซึ่งเป็น Core Value 2.ความปลอดภัยและความเสถียรในการใช้งาน 3.เป็นระบบเปิดเพื่อเชื่อมต่อกับพันธมิตรกับซัมซุง อาทิ การใช้งานผลิตภัณฑ์ไมโครซอฟต์บนแพลตฟอร์มแอนดรอยด์ กูเกิลและวีเอ็ม แวร์ เป็นต้น เพื่อสร้างอีโคซิสเต็มที่มีความสมบูรณ์มากที่สุดสำหรับองค์กร

ดร.มารุตกล่าวว่า ในปีหน้าทางซัมซุงเตรียมผลิตภัณฑ์ Rugged Device เป็นผลิตภัณฑ์แท็บเล็ตและสมาร์ทโฟนพันธุ์แกร่งที่มีความทนทานต้องการใช้งานสูง ทนต่อในสภาวะอากาศโหดๆ เช่นในที่กลางแจ้งร้อนมากๆ หรือหนาว มากๆ กันน้ำ กันฝุ่นและกันตกในที่สูง 1.5 เมตร เป็นต้น เหมาะสำหรับการใช้งานของกลุ่มลูกค้าองค์กร

ทั้งนี้ สินค้ากลุ่มนี้ของซัมซุงประกอบด้วย สมาร์ทโฟน 2 รุ่น คือ Galaxy XCover4 ขนาดจอ 6 นิ้ว ราคา 19,600 บาท และ Galaxy XCover Pro แท็บเล็ตมี 2 รุ่น คือ Galaxy Tab Active3 จอ 8 นิ้ว ราคา 12,900 บาทและ Galaxy Tab Active Pro จอ 10.1 นิ้ว ราคา 23,900 บาท ซึ่งมีคุณสมบัติพื้นฐานที่โดดเด่นในด้านความทนทานต่อการกระแทก การตกจากที่สูง การกันน้ำและกันฝุ่นในระดับสูง จึงสามารถเช็ดล้างทำความสะอาดได้ และยังสามารถใช้งานได้แม้หน้าจอเปียก หรือในขณะสวมถุงมือในหลากหลายวงการ อาทิ ธุรกิจค้าปลีก, ระบบบริหารและติดตามพิกัดตำแหน่งยานพาหนะ, ธุรกิจบริการด้านสุขภาพ และธุรกิจการศึกษา เป็นต้น

โดยใช้ Samsung Knox แพลตฟอร์มที่มีความปลอดภัยสูงที่มาพร้อมกับอุปกรณ์ต่างๆ ของ Samsung และโซลูชันอันหลากหลายที่ช่วยเพิ่มศักยภาพให้กับแพลตฟอร์มนี้ มาพร้อมกับสมาร์ทโฟน แท็บเล็ตป้องกันและกลไกด้านความปลอดภัยที่ซ้อนกันหลายระบบ ที่ช่วยป้องกันการบุกรุก มัลแวร์และภัยคุกคามอื่นๆ อีกมากมาย เป็นโซลูชันที่สามารถติดตั้งให้องค์กรธุรกิจในจำนวนเครื่องจำนวนมากได้พร้อมกันไม่ว่าจะเป็นองค์กรขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ ช่วยให้ประหยัดเวลาและเรื่องปวดหัวต่างๆลงได้

ดร.มารุตกล่าวว่า มีตัวเลขสนับสนุนการใช้งานของผลิตภัณฑ์พันธุ์แกร่ง Rugged Device ในด้านการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงาน เพิ่มขึ้นถึง 35% ในด้านธุรกิจบริการ เพิ่ม 25% ในด้านความปลอดภัยในสถานที่ทำงาน สำหรับด้านต้นทุน ลดต้นทุนด้านการซ่อมบำรุงลง 40% เป็นต้น

...

สำหรับลูกค้าองค์กรในปีนี้ซัมซุงครองผู้นำอันดับหนึ่งด้วยส่วนแบ่งตลาดเกินครึ่ง ในช่วงครึ่งแรกของปีนี้เติบโตสูง 67% และทั้งปีเติบโต 42% เมื่อเทียบกับปีก่อน และมองว่าตลาดองค์กรในประเทศไทยปีหน้าจะมีมูลค่าถึง 73 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯหรือกว่า 2,100 ล้านบาท โดยวางเป้าเติบโต 20% และมองลูกค้าองค์กรจะเพิ่มเป็นกว่า 100 ราย และ 20 ราย และเป็นสัดส่วนถึง30% มาจากไมโครไฟแนนซ์ที่ลูกค้าองค์กรธุรกิจนำไปให้พนักงานผ่อนกัน.