Apple Watch (แอปเปิล วอทช์) นาฬิกาอัจฉริยะ หนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ประสบความสำเร็จสูงมาก หลังจากแนะนำเข้าสู่ตลาดมาช่วง 5 ปีที่ผ่านมากับรุ่นแรก ได้สร้างนิยามใหม่กับนาฬิกาบนข้อมือของมนุษย์เราเพื่อใช้ในการใช้ชีวิตประจำวันในยุคสมัยใหม่ โดยเฉพาะการนำมาเป็นอุปกรณ์ช่วยดูแลสุขภาพ การออกกำลังกาย การป้องกันอันตรายหรือการเชื่อมต่อถึงผู้คน

มีรายงานจากบริษัทวิเคราะห์ Strategy Analytics ในช่วงต้นปีที่ผ่านมา ยอดขายแอปเปิลวอทช์ทั่วโลกในปีที่ผ่านมาสูงถึง 30.7 ล้าน เรือน เติบโต 36% เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ที่ขายได้ 22.5 ล้านเรือน สูงกว่านาฬิกาสวิสเมด หลายๆแบรนด์รวมกันไม่ว่าจะเป็นแบรนด์ สวอตช์, ทิสโซต์, แท็ก ฮอยเออร์ และแบรนด์อื่นๆ ทำยอดขายรวมกันได้ 21.1 ล้านเรือน

สาเหตุหลักก็คือความเป็นอัจฉริยะที่ใช้งานในแอปพลิเคชันถอดแบบมาจากไอโฟน ดีไซน์สวยงามเป็นอุปกรณ์สวมใส่ที่เป็นแฟชั่นเทคโนโลยี ตอบสนองกับการใช้งานยุคใหม่ที่หันมาใส่ใจในสุขภาพกันมากขึ้น

ในปีนี้ขึ้นปีที่ 6 แอปเปิลได้แนะนำนาฬิการุ่นใหม่ 2 รุ่นด้วยกันคือ

Apple Watch Serie 6

เป็นนาฬิกาที่ล้ำสมัยใช้ชิป S6 และทรงประสิทธิภาพอัปเกรดจากรุ่นก่อน 20% หน้าปัดแบบ OLED Retina แบบติดตลอด (Always On) สว่างสูงสุด 1,000 บิต ขณะใช้งาน และสว่างสูงสุด 500 บิต ขณะที่ไม่ได้ยกข้อมือขึ้นมา เพิ่มเทคโนโลยีด้านสุขภาพใหม่ๆเข้ามา อาทิ เซ็นเซอร์และแอปออกซิเจนในเลือดเพื่อวัดระดับออกซิเจนในเลือดได้โดยตรงผ่านข้อมือ โดยใช้เวลาเพียง 15 วินาที เซ็นเซอร์วัดระดับความสูง รองรับแอป ECG (ตรวจหัวใจคลื่นไฟฟ้าบ้านเราไม่รองรับ)

...

สำหรับดีไซน์เหมือนรุ่นเดิมแต่เพิ่มสีใหม่คือสีนํ้าเงินและสีแดงโปรดักส์เรด ราคาเริ่มต้นที่ 13,400 บาท ขนาด 40 mm ในรุ่น GPS ขึ้นไป สำหรับรุ่น GPS+Cellular ขนาด 40 mm เริ่มต้นที่ 16,900 บาท สำหรับสายนาฬิกามีรุ่นใหม่ 2 รุ่นออกแบบแปลกตาโดยไม่มีตัวคล้อง ตัวล็อกหรือส่วนไหนที่ซ้อนทับกัน มีให้เลือก 9 ขนาด 2 แบบคือ สายแบบ Solo Loop ทำจากยางซิลิโคนเหลวให้ทั้งความยืดหยุ่นและทนทาน นุ่มใส่สบายผิวป้องกันน้ำกันเหงื่อ และสายแบบ Braided Solo Loop สายที่ถักจากเส้นใยกว่า 16,000 เส้นทอกับด้ายซิลิโคนให้สายยืดหยุ่นทำให้ใส่และถอดออกง่ายป้องกันน้ำและเหงื่อได้ตลอดวัน

Apple Watch SE

เจาะตลาดราคาประหยัด แต่คงคุณสมบัติสำคัญๆของแอปเปิล วอชท์ทั่วไปไว้ เหมาะสำหรับผู้ไม่เคยใช้ผลิตภัณฑ์นี้มาก่อน และออกพร้อมคุณสมบัติการตั้งค่าครอบครัว (Family Setup) โดยไม่จำเป็นต้องใช้ไอโฟนมาจับคู่อีกต่อไป เหมาะสำหรับลูกหลานหรือสมาชิกผู้อาวุโสในบ้านที่ไม่มีไอโฟนแต่จะใช้นาฬิกา เพียงแต่ใช้ไอโฟนของพ่อแม่ผู้ปกครองตั้งค่าให้พร้อมการบริหารจัดการจำกัดการใช้งานของเด็กๆ ราคาเริ่มต้นที่ 9,400 บาท สำหรับ 40 mm GPS และ GPS+ Cellular เริ่มต้น 10,900 บาท

Watch OS7

ระบบปฏิบัติการใหม่ล่าสุด ช่วยตั้งค่าครอบครัวได้ แต่ต้องใช้นาฬิการุ่นที่รองรับเซลลูลาร์ และใช้ได้กับ Apple Watch Series 4 ขึ้นมาช่วยเสริมสร้างพฤติกรรมที่ดีต่อสุขภาพเช่น การตรวจวัดคุณภาพการนอนหลับเพื่อบรรลุเป้าหมายการนอนหลับ การตรวจจับการล้างมือซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นมากในยุคการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 รวมไปถึงการป้องกันการได้ยิน มีหน้าปัดใหม่ (Watch Face) ให้เลือกมากมาย พร้อมการปรับแต่งแอปที่ใช้งานบ่อยๆไว้บนหน้าปัดไว้ใช้งานได้ทันท่วงทีรองรับ เส้นทางปั่นจักรยานและแอป Memoji ปรับแต่งความเป็นตัวเองผ่านข้อมือได้ทันที

สรุปการใช้งาน เป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เพิ่มคุณสมบัติใหม่ๆที่น่าสนใจ เช่น การวัดออกซิเจนในเลือด จะต้องวางแผนให้ระนาบกับพื้นโต๊ะให้เซ็น-เซอร์ทำงานตรวจวัดได้ เซ็นเซอร์การล้างมือมีความเสถียรกว่ารุ่นก่อนหน้าที่นับถอยหลังอยู่ดีๆ หยุดค้างบ่อยครั้ง แอปเปิลย้ำว่านาฬิกานี้สนับสนุนดูแลสุขภาพไม่ใช่เป็นอุปกรณ์ทางการแพทย์ทำให้แอป ECG ใช้งานในบ้านเราไม่ได้ สำหรับผู้ใช้แอป Spotify ล่าสุดใช้แอปบนข้อมือฟังเพลงโดยไม่ต้องพกไอโฟนไว้

...

ส่วนการใช้งานตั้งค่าครอบครัว นำเอา Apple Watch SE มาตั้งค่าให้ลูกสาวใส่ไปโรงเรียน ปกติโรงเรียนจะห้ามใส่นาฬิกาอัจฉริยะไปโรงเรียน แต่เมื่ออธิบายคุณสมบัติการตั้งค่า เวลาเรียน (School Time) จะช่วยจำกัดการเข้าถึงแอปและจำกัดการแจ้งเตือนบน Apple Watch ของผู้ใช้ เพื่อให้เด็กๆมีสมาธิกับการเรียนมากขึ้น โดยผู้ปกครองสามารถกำหนดช่วงเวลาเองพร้อมกับดูรายงานได้ หรือเด็กๆก็สามารถเปิดใช้งานได้เอง คุณครูเข้าใจและอนุญาตว่าไม่เป็นอุปสรรคของการเรียน

ข้อดีในคุณสมบัตินี้สามารถเช็กเด็กๆได้ว่าอยู่ที่ไหน เช็กตำแหน่งได้ตลอดเวลา การตั้งค่าสุขภาพ รวมไปถึงการตั้งค่ารายชื่อโทรศัพท์ของเด็กๆว่าอนุญาตให้ติดต่อใครได้บ้าง หรือบล็อกคนแปลกหน้าได้ แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องกดขออนุญาตจากเด็กๆจาก เหตุผลความเป็นส่วนตัว

นอกเหนือจากนี้เด็กๆและผู้สูงวัยสามารถใช้กิจกรรมต่างๆ ผ่านคุณสมบัติของแอปเปิล วอทช์ได้หมด.