หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญของ “แอปเปิล” ในปีนี้ก็คือการนำเสนอผลิตภัณฑ์เพื่อตอบสนองชีวิตในยุคการแพร่ระบาดที่สร้างผลกระทบกับผู้คนไปทั่วโลก การใช้ชีวิตประจำวันทั้งการทำงาน การเรียน ถูกกดดันให้ดำเนินกิจกรรมระยะไกลซึ่งจำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ต่างๆ
iPad (ไอแพด) เป็นอุปกรณ์ที่แอปเปิลมองว่าอัตราการเติบโตทางด้านยอดขายสูง จากความต้องการใช้ดังกล่าว ล่าสุดได้เปิดตัว iPad 2 รุ่น คือ iPad รุ่นที่ 8 ซึ่งเป็นรุ่นเริ่มต้นและได้รีวิว ไปแล้ว และ iPad Air รุ่นที่ 4 เป็นรุ่นล่าสุดที่แอปเปิลได้วางจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกเมื่อวันที่ 23 ต.ค.ที่ผ่านมา กับราคาเริ่มต้นที่ 19,900 บาท สำหรับรุ่นไว-ไฟ
...
ดีไซน์ใหม่เหมือน iPad Pro 2020
iPad Air รุ่นที่ 4 เป็นผลิตภัณฑ์ที่แอปเปิลเปิดตลาดขึ้นมาอยู่กึ่งกลางระหว่างตัวเริ่มต้นกับโปร ถูกออกแบบใหม่มาเป็นทรงเหลี่ยมหน้าตาเหมือน iPad Pro 2020 แต่แตกต่างที่กล้อง รองรับดินสอ Apple Pencil รุ่นที่ 2 Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว กับความบาง 6.1 มม. มีสีสันให้เลือกถึง 5 สี คือ สีเงิน, เทาสเปซเกรย์, โรสโกลด์, เขียว และสกายบลู มีปุ่ม Touch ID ด้านบน ทำให้สแกนนิ้วอย่างรวดเร็ว
ชิปใหม่ทรงพลัง
ใช้ชิป A14 Bionic 5 นาโนเมตร เป็นครั้งแรก แกนประมวลผลแบบ 6-core ที่เพิ่มประสิทธิภาพ CPU ได้ 40%, GPU 4-coreเพิ่มประสิทธิภาพได้ 30% มาพร้อมพอร์ต USB-C รองรับการถ่ายโอนข้อมูลสูงสุด 5Gbps ซึ่งเร็วกว่าเดิม 10 เท่า ไปยังอุปกรณ์ เช่น กล้อง ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และจอภาพภายนอกสูงสุด 4K มาพร้อม Wi-Fi 6 และการเชื่อมต่อ LTE ที่เร็วขึ้น 60% กล้องหน้า Face Time ความละเอียด 7 ล้านพิกเซล กล้องหลัง 12 ล้านพิกเซล ถ่ายวิดีโอ 4K ได้
iPad OS 14 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ
ระบบปฏิบัติการล่าสุด ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ iPad Air รุ่นที่ 4 ได้แก่ การออกแบบแอปเพื่อ iPad โดยเฉพาะ มีคุณสมบัติการเขียนด้วยลายมือผ่าน Apple Pencil รุ่นที่ 2 ดีขึ้นไม่ต่างการพิมพ์ข้อความ การทำงานดินสอก็ง่ายมาก เพียงแค่ดึงออกด้านข้างแล้วนำไปแตะหน้าจอครั้งหนึ่ง แอปโน้ตหน้าจอเด้งขึ้นมาให้จดได้ทันที หรือเคาะที่ดินสอสองทีสลับการใช้งานดินสอเป็นยางลบ และเปลี่ยนลายมือจากการใช้ดินสอหรือนิ้วแปลงเป็นเท็กซ์ หรืออักษรพิมพ์แต่ภาษาไทยยังไม่ได้
รองรับอุปกรณ์เสริม
รองรับ Apple Pencil รุ่นที่ 2 (ต้องซื้อเพิ่ม) รุ่นเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro 2020 ที่ยึดติดกับด้านข้างของเครื่องด้วยแม่เหล็กได้ แถมยังใช้งานร่วมกันได้กับ Magic Keyboard (ต้องซื้อเพิ่ม) ใช้ได้กับรุ่นเดียวกับที่ใช้ใน iPad Pro 2020 กับดีไซน์โดดเด่นแบบยกลอยและมีแทร็กแพดในตัวได้อีกด้วย
และยังปกป้องตัวเครื่องทั้งด้านหน้าและด้านหลัง และยังรองรับ Smart Keyboard Folio และ Smart Folio รุ่นใหม่ที่มีสีสันรองรับกับตัวเครื่อง
...
สรุปการใช้งานทั่วไป สำหรับการใช้แอปต่างๆ ไหลลื่นได้ดี แม้จะเป็นจอ 60 Hz เมื่อลองเล่นเกม ROV ปรับเฟรมเรตได้สูงสุดตอบสนองได้ดีบางครั้งตัวเลขเฟรมเรตได้ไปถึง 64 แต่ไม่เท่า กับรุ่น Pro เพราะเป็นจอ 120 Hz แต่เสียอย่างเดียวค่อนข้างหนัก ตัวเครื่องรุ่นไว-ไฟ หนัก 458 กรัม หากใช้งานร่วมกับ Magic Keyboard ที่หนักราว 929 กรัม เมื่อรวมแล้วหนักเกือบ 1.4 กก. เมื่อถือนานๆถึงกับเมื่อยแขนได้.