เดี๋ยวนี้ใครๆ ก็เป็นนักข่าวได้ มีอะไรก็กด Live ถ่ายทอดสดให้เพื่อนๆ ดูได้ ง่ายแค่ 2 คลิก แม้ว่าในปัจจุบันระบบประมวลผลสิ่งที่จะแสดงบนหน้า News Feed ของเฟซบุ๊ก จะดันให้ “Live” ขึ้นมาเป็นอันดับหนึ่งก็ตาม แต่ในเมื่อใครๆ ก็ Live เราจะทำอย่างไรให้คนอยากดูเนื้อหาจากเรา มาลองทำตามสเต็ปง่ายๆ นี้ดูค่ะ
1. ไม่ Live พร่ำเพรื่อ
ความเจ๋งของ Facebook Live คือ เขาจะมีการแจ้งเตือน เด้งไปยังเพื่อนหรือผู้ติดตามของเราว่าตอนนี้เรากำลัง Live อยู่นะ อีกทั้งยังมีการรวมวิดีโอ Live แยกเป็นสัดส่วนไว้ในที่เดียวทำให้หาดูง่าย... แต่ลองจินตนาการดูค่ะ ว่าถ้าเพื่อนคนนี้/เพจนี้ Live ถี่มาก โดยไม่มีหัวข้ออะไรน่าสนใจ มีแต่เรื่องสัพเพเหระ ไม่สนุก การแจ้งเตือนนี้ แทนที่จะ “เพิ่มยอดผู้เข้าชม” อาจกลับกลายเป็น “น่ารำคาญ” แทนได้
สิ่งที่ควรทำ : เลือก Live เฉพาะเวลาที่มีเรื่องน่าสนใจจริงๆ เท่านั้น หรือถ้าเป็นไปได้ อาจเตรียมลำดับเนื้อเรื่องไว้เบื้องต้น คล้ายๆ เตรียมสคริปต์พิธีกร ว่าจะ Live ไปในแนวทางไหน กันลืมเรื่องที่จะพูด และกันเกิดภาวะนึกไม่ออก (Dead Air) ซึ่งอาจทำให้คนดูหายไปได้
2. แจ้งเวลา/หัวข้อที่จะ Live ล่วงหน้า
เฟื่องทดลองมาแล้วพบว่าประสบผลสำเร็จมากค่ะ อย่าลืมว่าแม้เราจะ Live ได้ง่ายแค่ปลายนิ้ว แต่ทุกคนไม่ได้ว่างมาดูเราเดี๋ยวนั้นสักหน่อย ดังนั้นการแจ้งเวลา/หัวข้อก่อนล่วงหน้า คล้ายๆ เป็นการเรียกน้ำย่อยคนดูให้สนใจเนื้อหาของเรา และเตรียมตัวเคลียร์ตารางมาดูเราได้ ส่วนตัวเฟื่องว่าควรแจ้งล่วงหน้าอย่างน้อย 2-3 ชม. แต่จะก่อนหน้านั้นก็ได้ และอย่าลืมตั้งคำถามปลายเปิดให้คนมาร่วมแสดงความคิดเห็นว่าหัวข้อนี้ อยากจะมาพูดคุยกันเรื่องอะไรบ้าง ยิ่งทิ้งไว้นาน ยิ่งเผื่อได้ประเด็นมาพูดคุยเพิ่มเติม
...
สิ่งที่ควรทำ : ทำโพสต์/รูปภาพ โปรโมตการ Live ก่อน (Facebook ให้คุณค่ากับโพสต์แบบรูปภาพมากกว่า โพสต์ที่เป็นตัวหนังสือเฉยๆ และจะดันให้แสดงผลมากกว่า แต่อย่าลืมทำรูปภาพให้มีตัวหนังสือน้อยกว่า 20% นะคะ ไม่เช่นนั้นเฟซบุ๊กจะคิดว่าขายของ และดันโพสต์ให้คนมองเห็นน้อยๆ อยู่ดี)
3. อย่าลืมทักทายคนดู
เสน่ห์ของรายการสด คือคนอยู่หน้าจอสามารถพูดคุยกับคุณผู้ชมได้ Live ก็เช่นกัน การทักทายคนที่เข้ามาชม/คอมเมนต์พูดคุยกับเรา จะทำให้เขารู้สึกใกล้ชิดกับเรามากขึ้น และอยากคุยกับเราต่อ แตกต่างจากการ Live เฉยๆ แบบไม่ได้สนใจคนที่กำลังดูอยู่ ยิ่งคอนเทนต์ไม่น่าสนใจด้วยแล้ว จะทำให้คนดูออกไปจาก Live ง่ายมาก
สิ่งที่ควรทำ : อย่าลืมขานชื่อเพื่อนที่ทักทายเรามา และกระตุ้นให้คนดูแสดงความคิดเห็นบ่อยๆ ยกคอมเมนต์มาพูดต่อใน Live เป็นการให้ความสำคัญทุกคนที่ดูอยู่ และยิ่งคอมเมนต์เยอะ Live ของเราก็จะฮอต ดึงคนดูเข้ามาเพิ่มได้อีก

4. เน็ตต้องแรง
สัญญาณกระตุก/ภาพแตก ไม่ใช่เรื่องตลก แม้คุณจะทำทั้ง 3 ข้อข้างต้นมาดี แต่คนดู ดู Live ของคุณแล้วมันไม่ลื่นไหล ภาพดูไม่สบายตา เขาก็เลือกที่จะเลื่อนเปลี่ยนไปดูอย่างอื่นได้ทันที อย่าลืมว่าเดี๋ยวนี้ผู้บริโภคมีทางเลือกข้อมูล/ความบันเทิงให้เสพเต็มไปหมด ฉะนั้นอย่าเสี่ยงกับการเสียคนดูไป ทั้งๆ ที่เราอุตส่าห์ตั้งใจทำเนื้อหาดีกว่าค่ะ
สิ่งที่ควรทำ : ต่อ Wi-Fi ถ้าเป็นไปได้ให้เปิด Airplane Mode ด้วย กันคนโทรเข้าระหว่าง Live ซึ่งจะทำให้การ Live สะดุดเช่นกัน แต่ถ้าแถวนั้นไม่มี Wi-Fi ก็อาจจะต้องมั่นใจหน่อยว่าเน็ตมือถือเราแรงพอ ไม่ติด FUP! (FUP คืออะไร อ่านได้ที่ 3 วิธีแก้เน็ตช้า แถมประหยัดตังค์)
5. ภาพ/เสียงต้องพร้อมด้วยอุปกรณ์เสริม
จริงๆ จะถือมือถือ Live ปกติก็พอได้อยู่ แต่บางทีถือนานๆ เมื่อย มือไม่นิ่ง กลายเป็นภาพสั่น คนดูปวดหัวอีก วิธีช่วยคืออาจต้องหาอุปกรณ์เสริมมาช่วย
เรื่องภาพ : อาจหาขาตั้งมือถือง่ายๆ อันละไม่กี่ร้อยบาทมาใช้ หรือถ้างบสูงหน่อย ลองอุปกรณ์เสริม เช่น ขายึดกล้องลดการสั่นไหว ที่ในตลาดตอนนี้มีอยู่ด้วยกันหลายแบรนด์ หรือ กล้อง Live Camera โดยเฉพาะ ที่ทำให้เราถ่ายทอดสดได้เหมือนมีกล้องใหญ่หลายๆ ตัวคอยเก็บภาพจากหลายมุม เพิ่มความน่าสนใจให้กับ Live ไม่ให้ทื่อๆ มีแค่มุมเดียว
เรื่องเสียง : ถ้าจะ Live ในที่เสียงดังๆ อาจต้องหาไมค์แยก เป็นไมค์พิธีกรต่อเข้ากับมือถือ แต่ถ้าให้ง่ายจริงๆ ใช้ Small Talk Live ก็ช่วยได้ระดับหนึ่งเลยค่ะ
หวังว่าทุกคนจะมีความสุขกับการ Facebook Live กันมากขึ้นนะคะ และอย่าลืมเข้าไปกด Subscribe Live ของเฟื่องในเพจ “เฟื่องลดา” ด้วยนะคะ เจอกันสัปดาห์หน้าค่ะ
ABOUT ME
Instagram: http://www.instagram.com/faunglada
Facebook: http://www.facebook.com/faunglada
Youtube: http://www.youtube.com/faunglada
Twitter: http://twitter.com/faunglada
Blog: http://www.faunglada.com
...