บทความที่แล้วพูดถึงชนิดของกล้อง และให้ลองถามตัวเองดูว่าเราเหมาะกับกล้องประเภทไหน (อย่าซื้อผิด! กล้อง 4 แบบยอดฮิต รู้ให้จริงก่อนเสียเงิน) เชื่อว่าคำตอบของหลายคน คงเป็นกล้องฮิตแห่งยุคนี้อย่าง “Mirrorless” หรือกล้องดิจิทัลเปลี่ยนเลนส์ได้ชนิดไม่มีกระจก
ถามว่าข้อดีของกล้องแบบนี้คืออะไร
1. คุณภาพภาพใกล้เคียงกล้อง DSLR แต่มีขนาดกะทัดรัดกว่า
2. โฟกัสเร็ว ถ่ายภาพแบบรัวๆ ได้
3. พกพาง่าย เลือกเปลี่ยนเลนส์ได้ตามความต้องการ (และงบประมาณ)
4. บอดี้น่ารัก ใช้เป็นพร็อบถ่ายรูปได้
5. ใช้งานง่าย มีฟีเจอร์ให้เลือกหลากหลาย ผู้เล่นในตลาดมีเยอะ
แต่ก็อย่างว่าค่ะ ในบรรดากล้อง Mirrorless เองก็มีหลายรุ่น หลายระดับ หลายช่วงราคา หลายความสามารถให้เลือกช็อปกันอีก
ดังนั้นวันนี้เฟื่องจะมาลิสต์ให้เห็นภาพกันคร่าวๆ ว่าในบรรดาตลาดกล้อง Mirrorless มีอะไรให้เลือกเล่นกันบ้าง
และเราควรใช้เกณฑ์อะไรตัดสินใจว่าจะเลือกกล้องตัวไหนดี (ขอพูดถึงเฉพาะกล้องรุ่นใหม่ๆ ไม่เกิน 2-3 ปีนี้นะคะ)
1. ระดับประถม : เหมาะสำหรับผู้ใช้งานถ่ายภาพเริ่มต้น
ช่วงราคา (บอดี้กล้อง+เลนส์คิต) จะอยู่ประมาณ 19,000-24,000 บาท ส่วนมากกล้องระดับนี้จะมีคุณสมบัติคล้ายๆ กันคือ ถ่ายง่าย มีขนาดกะทัดรัด รองรับการเซลฟี่ พลิกจอได้ 180 องศา ส่งรูป/วิดีโอเข้ามือถือผ่าน wifi/NFC ได้ทันที มี built-in flash มาในตัว มีโหมดหน้าเนียน ปุ่มไม่ซับซ้อนมาก
เลือกอย่างไร : ปัจจัยสำคัญคงไม่ใช่แค่ราคา เพราะว่ากล้องแต่ละยี่ห้อก็มีจุดเด่นที่นำมาชูโรงต่างกัน เช่น บางยี่ห้อมีลูกเล่นการลั่นชัตเตอร์หลายแบบ บางยี่ห้อใช้สมาร์ทโฟนเป็นรีโมตชัตเตอร์ได้ ฯลฯ เป็นดีเทลยิบย่อยที่เดี๋ยวเฟื่องจะเขียนสรุปเอาไว้ตอนท้ายอีกทีนะคะ
ตัวอย่างกล้องระดับนี้ : Sony a5100, Fuji-XA2, Panasonic Lumix Gf7 Nikon J5, Canon EOS m10, Olympus PEN E-PL7
2. ระดับมัธยม : เหมาะสำหรับคนถ่ายภาพที่อยากเอางานไปต่อยอดด้วย
...
กล้องระดับนี้แบ่งได้กลุ่มใหญ่หน่อย มองภาพรวมง่ายๆ จะมีตั้งแต่เขยิบมาจากระดับประถมเป็นมัธยมต้น ไปจนถึงรุ่นพี่ ม.ปลาย เกือบเข้ามหาลัย ช่วงราคา (บอดี้กล้อง+เลนส์คิต) จะอยู่ประมาณ 28,000-40,000 บาท หน้าตาของกล้องจะดูโปรขึ้นมาอีกหน่อย หรือถ้าคนชอบสไตล์แบบมินิมอลอาจจะรู้สึกว่ากล้องระดับนี้ดูเทอะทะขึ้นมาอีกนิด กล้องระดับนี้มีทุกอย่างเหมือนที่กล้องระดับเบบี๋มีให้ แต่จะเพิ่มความสามารถอื่นๆ มาให้อีก เช่น โฟกัสได้เร็วกว่า ความละเอียดพิกเซลมากกว่า มีช่องมองภาพอิเล็กทรอนิกส์ (EVF= Electronics View Finder) มาให้ ซึ่งช่างภาพจริงๆ จะเห็นคุณค่าของ EVF มาก เพราะใช้จัดองค์ประกอบภาพได้ สะดวกเวลาต้องถ่ายงานกลางแจ้ง เพราะบางครั้งจอ LCD แสงสะท้อน มองไม่เห็นว่าภาพในเฟรมเป็นยังไง อีกทั้งกล้องระดับนี้ยังรองรับการต่อยอดไปใช้งานแบบโปรได้ คือ มี Hot Shoe หรือช่องสำหรับต่อแฟลชแยก/ไมค์แยกได้ ดังนั้นใครที่อยากขยับขยาย เอากล้องไปใช้เพื่ออาชีพด้วย อยากเป็น Vdo Blogger/Youtuber แนะนำให้ซื้อกล้องระดับนี้ค่ะ
ตัวอย่างกล้องระดับนี้ : Sony a6000, Fuji-Xm2, Fuji-XE2, Fuji-Xt10, Lumix GM5, Lumix GX8, Lumix GH4, Canon EOS m3, Nikon1 v3, Olympus OMD em10, Olympus OMD em5

3. ระดับมหาวิทยาลัย : เหมาะสำหรับคนเล่นกล้องจนช่ำชองและเอาภาพไปใช้งาน
กล้องระดับนี้มีราคาตั้งแต่ 50,000 บาท ขึ้นไปจนถึงหลักแสนเลยก็มี นี่คือแค่เฉพาะบอดี้กล้อง ไม่รวมเลนส์ และถ้าริจะเล่นกล้องระดับนี้แล้ว ยังไงก็ต้องซื้อเลนส์แยก ดังนั้นจึงเหมาะกับผู้ใช้งานที่ต้องการคุณภาพระดับมหากาฬ อาจจะเป็นช่างภาพที่เคยเล่น DSLR มาก่อน มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับพื้นฐานการถ่ายภาพเป็นอย่างดี สามารถปรับตั้งค่าต่างๆ ของกล้องได้ เพราะกล้องระดับนี้อัดแน่นประสิทธิภาพมาสูงสุด โฟกัสเร็วสุด ดัน ISO ได้สูงสุด เก็บรายละเอียดภาพได้ดีที่สุด มาพร้อมระบบกันสั่นแบบเทพ ฯลฯ เพื่อให้ผู้ใช้งานมั่นใจได้ว่า สามารถเก็บภาพทุกช็อตที่อาจจะเกิดขึ้นเพียงชั่วเสี้ยววินาทีได้ไม่พลาด เอาไปปริ้นต์เป็นภาพใหญ่ได้ไม่แตก คร็อปเฉพาะส่วนเอาไปใช้งานได้ ถ้าความรู้เรายังไม่ถึง หรือใช้งานธรรมดาๆ มองหากล้องระดับประถมกับมัธยมก็พอแล้วค่ะ
ตัวอย่างกล้องระดับนี้: Sony a7, Sony a7r, Sony a7s, Fuji-XPRO2, Fuji-XT1, Panasonic Lumix G5, Olympus OMD Em1(กล้อง Sony ซีรีส์ a7 เป็น mirrorless ที่เซนเซอร์เป็น full-frame ในตลาดยี่ห้อเดียว ณ ขณะนี้ และ Canon กับ Nikon ยังไม่มีกล้อง Mirrorless ระดับโปรค่ะ)

...
ทีนี้เมื่อเรารู้แล้วว่าเราเป็นผู้ใช้งานกล้องระดับไหน สิ่งต่อไปที่ต้องทำคือ เลือกว่าจะเอากล้องยี่ห้ออะไร ซึ่งก็มีปัจจัยมาช่วยตัดสินใจดังนี้ค่ะ
1. หน้าตาของกล้อง : ดีไซน์ของแต่ละยี่ห้อ/รุ่น ก็จะแตกต่างกันไป เลือกอันที่คิดว่าจะอยู่กับเราไปได้นานๆ พกพาได้ ทั้งตัววัสดุ ขนาด และความรู้สึกเมื่อสัมผัส เพราะ Mirrorless เค้าเน้นเปลี่ยนเลนส์กัน ไม่เน้นเปลี่ยนบอดี้!
2. โทนภาพจากแต่ละกล้อง : กล้องแต่ละยี่ห้อก็จะมีคาแรกเตอร์ภาพที่แตกต่างกันไป เช่น Sony ภาพจะติดออกส้มๆ หน่อย โอลิมปัสจะสีสดใส เน้นเขียวชมพูนิดๆ ให้ฟีลดอลลี่ ฟูจิจะให้ฟีลภาพคลีนๆ นวลๆ ฯลฯลองไปดูตัวอย่างภาพจากแต่ละกล้องดู แล้วเลือกว่าชอบแบบไหน เพราะรสนิยมคนเราต่างกัน ให้ฟันธงว่าอันไหนสวยกว่าอันไหนคงจะยาก
3. คอมมูนิตี้ผู้ใช้งาน : ถ้ามีคนใช้งานเยอะ ก็สะดวกกับการซื้อขายแลกเปลี่ยนทั้งเลนส์ และความรู้ จะถ่ายรูปกันสนุกขึ้น และเสี่ยงต่อการเจ็บตัวเอาเงินไปกองกะเลนส์ได้น้อยลง
ง่ายๆ ลองเล็งๆ ไว้สัก 3-4 รุ่น อ่าน/ดูรีวิวไปก่อน แล้วลองไปจับของจริงที่ร้านดู รู้สึกอันไหนใช่ ก็ทำตามใจเรียกร้องเลยค่ะ ขอให้ทุกคนเจอกล้องที่ใช่ แล้วไปสนุกกับการถ่ายภาพด้วยกันนะคะ
ระหว่างนี้ถ้ามีคำถามสามารถส่งมาได้ที่ “คุยกับคนดัง” talktoceleb@trendvg3.com ได้เลยนะคะ หรือตามช่องทางโซเชียลของเฟื่อง
IG/twitter: @faunglada
Facebook: www.facebook.com/faunglada
Youtube: www.youtube.com/FLDfaunglada
...