ปีที่แล้ว วงการไอทีเกิดกรณีการแฮกระบบครั้งใหญ่ของบริษัท Sony Pictures ที่เล่นเอาบริษัทแทบล้มทั้งยืน ข้อมูลภายในของบริษัทถูกนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ รวมถึงภาพยนตร์ที่ยังไม่ออกฉายก็ถูกเอามาปล่อยให้ดูฟรีๆ ก่อนเข้าโรง
การแฮกระบบครั้งนี้ ทำให้บริษัทน้อยใหญ่ตื่นตัวเรื่องความปลอดภัยทางไอทีกันมากขึ้น ทุกคนเร่งเสริมระบบความปลอดภัยของตัวเอง เพราะไม่มีใครอยากซ้ำรอยของ Sony Pictures
แต่กระนั้นเลย ปี 2015 เราก็ยังเห็นข่าวการแฮกระบบตามมาเรื่อยๆ โดยข่าวใหญ่ที่สุดของปีนี้คือการแฮกเว็บไซต์หาคู่ Ashley Madison
ดูเผินๆ แล้วการแฮกเว็บไซต์ Ashley Madison อาจเป็นการแฮกเว็บไซต์หาคู่ทั่วไปที่มีดาษดื่นบนอินเทอร์เน็ต ประเด็นคือแท้จริงแล้ว Ashley Madison เป็นเว็บ “หาชู้” ครับ พอเว็บโดนแฮก ข้อมูลลูกค้าหลุด มันเลยเป็นเรื่องใหญ่ขึ้นมาทันที
Ashley Madison เป็นเว็บไซต์จากประเทศแคนาดาที่เปิดมานานตั้งแต่ปี 2001 หรือสิบกว่าปีมาแล้ว สถิติของเว็บไซต์ระบุว่ามีผู้ใช้ลงทะเบียนมากถึง 39 ล้านคน
แนวคิดของ Ashley Madison ต้องการจับตลาดลูกค้ากลุ่มที่ “แต่งงานแล้ว” แต่อยากมีความสัมพันธ์นอกสมรสแบบลับๆ โดยไม่ส่งผลกระทบต่อชีวิตครอบครัว บริการของ Ashley Madison จึงเป็นเว็บหาคู่สำหรับคนที่มีคู่สมรสแล้ว แต่อยาก “นอกใจ” นั่นเอง
โมเดลธุรกิจของ Ashley Madison คิดค่าบริการจากลูกค้าที่ต้องการ “ทำความรู้จัก” กับลูกค้ารายอื่น อันนี้เหมือนเว็บหาคู่ทั่วไป แต่มีจุดต่างตรงที่คิดค่าลบข้อมูลออกจากระบบด้วย (ในกรณีที่ลูกค้าเริ่มรู้สึกผิดต่อคู่สมรสของตัวเอง และอยากเลิกใช้บริการ) ทางเว็บไซต์ระบุว่าถ้าจ่ายเงินค่าลบข้อมูล ประวัติการนอกใจของคุณจะอันตรธานหายไปทันที เสมือนว่าไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
...
ปัญหาคือหลังเว็บโดนแฮก และแฮกเกอร์เริ่มปล่อยข้อมูลลูกค้าออกมา ลูกค้าหลายคนก็รับรู้ความจริงอันน่าตกใจว่า Ashley Madison ไม่ได้ลบข้อมูลจริงอย่างที่อ้าง
การแฮกระบบของ Ashley Madison ส่งผลสะเทือนอย่างมาก เพราะข้อมูล “ชู้” ที่ควรจะเป็นความลับไปตลอดกาล ถูกนำมาเผยแพร่ต่อสาธารณะ สัปดาห์ที่ผ่านมาจึงเกิดการขุดข้อมูลเพื่อดูว่ามี นักการเมือง ดารา เซเลบคนดังรายไหนบ้างที่เป็นสมาชิกของ Ashley Madison กันบ้าง ทั้งข้อมูลจริงข้อมูลเท็จตีกันมั่วไปหมด แถมล่าสุดบริษัทก็โดนลูกค้าฟ้องเรียกค่าเสียหายแล้ว
ประเด็นเรื่องความเสียหายของ Ashley Madison คงต้องตามต่อกันอีกยาว เพราะผู้ที่ได้รับผลกระทบมีมาก แถมยังเป็นเรื่องอ่อนไหวที่เกี่ยวข้องกับสถาบันครอบครัวของแต่ละคน ส่วนในแง่ธุรกิจ บริษัทก็ต้องตามล้างตามเช็ด ชดเชยค่าเสียหาย และเรียกความมั่นใจของลูกค้ากลับคืนมา
การแฮกเว็บ Ashley Madison จึงถือเป็นอีกหนึ่งกรณีศึกษาของ “การแฮกบันลือโลก” ที่ส่งผลกระทบในวงกว้าง แน่นอนว่าไม่มีธุรกิจใดอยากซ้ำรอย Ashley Madison ดังนั้นควรต้องดูแลระบบรักษาความปลอดภัยของตัวเองให้ดีกันตั้งแต่วันนี้ครับ.