ขอบคุณภาพจาก http://grabtaxi.com/bangkok-thailand-th/2015/06/22/grabbike-บริการรับส่งผู้โดยสาร/

ตอนนี้เราอาจจะคุ้นเคยกับการที่ไม่ต้องยืนโบกเรียกแท็กซี่ ด้วยสารพัดบริการขนส่งยุคไฮเทคผ่านแอพ

แต่ก่อนนี้ เราไม่ถึงกับเรียกแท็กซี่ไปปากซอย ป่ะคะ เพราะทางมันใกล้ บางคนอาจจะแค่บ้านลึก ซอยเปลี่ยวจะเดินไปปากซอยนี่อย่างเหนื่อย อย่างท้อ ล่าสุดนี้ “เรียกพี่มอไซค์รับจ้างมารับ ผ่านแอพ” ได้แล้ว มาเช็กอินให้ได้ใช้อีกหนึ่งบริการ ซึ่งพี่วินนี่ (วินมอเตอร์ไซค์)ที่มาจากแอพ เขายินดีมารับและไปส่งได้ทั้งคนและเอกสารเลยนะจ๊ะ!!!

ที่ซีกำลังพูดถึงเนี้ย มันเป็นหนึ่งตัวเลือกใหม่ที่เรียกว่า GrabBike จากแอพ GrabTaxi เลยได้เวลาสืบทราบให้ผู้อ่าน เผื่อใครอยากใช้บริการจะรู้ว่าข้อดีข้อเสีย ...มีอะไรยังไง??

ข้อดี คือ

1. แอพนี้ สะดวก ไม่ต้องเดินไปเรียกวินนี่ ปากซอย ร้อนๆ เหนื่อยๆ

...

2. คนขับเช็กประวัติมาแล้ว ปลอดภัยแน่นอน

3. พอผ่านแอพ ก็สามารถติดตามพิกัดคนขับได้ตลอดเวลาอีกด้วย

4. คนขับเขาจะรู้ว่าเราอยู่ที่ไหนแล้วจะไปที่ไหน เขาก็จะรู้เลยว่าเขาสามารถมารับได้ไหม แล้วเขาต้องการไปส่งเราหรือเปล่า ดังนั้นจะ “ไม่มีการปฏิเสธเรา” แน่นอน ไม่หงุดหงิดทั้งผู้เรียกผู้รับ 

5. GrabBike เขามาไวกว่าสั่งพิซซ่าอีก มารับภายในแบบ 15 นาที

6. ค่าโดยสารก็คิดตามระยะทางที่เราจะไป ระบุชัดผ่านแอพเลย ไม่โขกราคา ไม่คิดเกิน หรือขาด เสมอภาคทั้งคนนั่ง และคนขี่ เพราะเขาจะคำนวณจากพิกัดระยะทางเราก่อนอยู่แล้ว ซึ่งพอสัมภาษณ์จาก หลายคนที่ใช้บริการบอกเลยว่า “ราคาเท่าๆ กับวินเสื้อส้มหรือไม่ก็ถูกกว่าวินเสื้อส้มด้วยซ้ำ“

ปัญหาเก่า...ที่คนเคยเจอ?

อย่างที่รู้กันว่าวินในแต่ละที่ แต่ละเขต “ค่าวินแพงเกินจริง” หรือ “ วินมอไซค์มีน้อยเกินความต้องการ” การมีบริการเรียกผ่านแอพนี้ได้ อัตราจะถูกกว่า สะดวกกว่าและเร็วกว่า

ล่าสุด ประเมินจาก ทีมงานไอทีของซีคนหนึ่ง ไปลองทดสอบ เรียกจาก ”ห้างแพลตินั่มไปเอสพลานาด” เสียไปประมาน 95 บาท เมื่อเทียบกับ ราคาที่เรียกวินทั่วๆ ไป บางทีเสียถึง 150 บาท ก็ประหยัดไปได้...ไม่มากก็น้อย

ข้อเสีย...ไม่มี เป็นไปไม่ได้

มีคนตั้งข้อสงสัยว่า ถ้ามีแอพนี้ ความน่าเป็นห่วงคือ คนขี่มอเตอร์ไซค์รับจ้างบนแอพนี้ เป็น กลุ่มพี่วินเสื้อส้มหรือเปล่า ?

ตอบคือ มีทั้ง 2 แบบค่ะ

แบบแรกคือ เป็นกลุ่มพี่วินเสื้อส้ม ที่ใช้สมาร์ทโฟนแล้วไปลงทะเบียนมาขี่แบบรับผู้โดยสารผ่านแอพกับ GrabBIKE

เพราะให้สัมภาษณ์บอกว่า ถ้าบริการดีกว่าจริงคนก็ต้องหันมาใช้แอพนี้เรียก มากกว่าเดินมาหา หรือ เค้านั่งรอลูกค้าเฉยๆ … แต่มันแอบยังงงๆ เพราะกฎขอพี่วินเสื้อส้ม คือ “ห้ามวิ่งข้ามเขต” ในขณะที่ ข้อดีคือ ถ้าเรียกมาแล้วเป็น “วินเสื้อส้ม”จะรู้เส้นทางลัดเลาะในเขตดีกว่า “วินจากแอพ” ที่พาออก “เส้นทางใหญ่” มากกว่า น่าจับตามองเพราะมีวินเสื้อส้มมารับผ่านแอพอยู่บ้างแล้วเหมือนกันทั้งที่เพิ่งเปิดตัว เพราะนี่คือ “การปรับตัว” เข้าโลกยุคไอที อีกก้าว ของ ”วินมอเตอร์ไซค์” ในการ “หาลูกค้า” ไม่ใช่แค่ “นั่งรอลูกค้า” อย่างรอความหวัง ทั้งที่บางที่สภาพอากาศก็ไม่ค่อยเป็นใจให้มีหวังเท่าใดนัก...

แบบที่สอง คือ “รู้สึกเหมือนเรียกมอเตอร์ไซค์เพื่อนมารับ” เบื้องต้น ทีมงานยังไม่เห็น “การใส่เสื้อวินสีพิเศษ” แถมวิ่งข้ามเขตมารับเราได้ด้วย ข้ามเขตไปส่งเราได้แบบไม่มีกติกา บางคนที่สัมภาษณ์บอกว่า

“เขาก็สมัครเข้าร่วม GrabBike นี้ เพื่อทำเป็นอาชีพเสริม”

เขาก็สามารถหารายได้เพิ่มอีกหนึ่งช่องทาง

...

“อาชีพแมสเซนเจอร์….เสี่ยงตกงาน เพราะไม่ต้องจ้างประจำก็ได้!!!”

บริษัทบางที่จำเป็นต้องมีพี่แมสเซนเจอร์คอยรับส่งเอกสารต่างๆ หรือแม้แต่ขายของออนไลน์ชิ้นใหญ่เล็ก เรียกมอเตอร์ไซค์ผ่านแอพ GrabBike ก็มีบริการส่งได้ทั้งคน และ เอกสาร แถม มีระบบติดตามแบบ real-time วินาทีต่อวินาที ผ่านในแอพพลิเคชั่น ที่โดนใจคือ “มีเงินประกันพัสดุให้ 2,000 บาท ถ้าของเสียหาย” อย่างที่ซีเจอบางทีพี่แมสเซนเจอร์ทั่วไปก็คิดตามราคาตามเวลา เช่นไปที่เดียวกัน แต่ต่างเวลาเช่น ช่วงเช้า ช่วงเย็น ราคาก็จะต่างกันเพราะเย็นๆ รถติดก็อาจจะต้องคิดแพงขึ้นนิดนึง

“แต่จริงๆ แล้วถ้าเปรียบเทียบกันพี่แมสเซนเจอร์ทั่วไป กับพี่ GrabBike ราคาก็พอๆ กันเลย” ทีนี้ก็แล้วแต่ความสะดวก ว่าจะเลือกใช้บริการอะไรค่ะ

ข้อเสียอีกอย่าง คือ...


ตอนนี้จำนวนมอเตอร์ไซค์ที่เขาร่วมกับ GrabBike ก็ยังมีจำนวนที่น้อยอยู่ บางทีเวลาเรียกก็จะเห็นได้ว่าบริเวณใกล้เคียงของเรา มี GrabBike อยู่แค่ 2-3 คันเอง แถมถ้าไม่ใช่พวกพี่วินเสื้อส้มที่เข้าร่วมโครงการนี้ แต่เป็นคนทั่วไปที่มารับจ๊อบพิเศษเพิ่ม พี่วินนี่แบบนี้ เขาก็อาจจะไม่ชำนาญทางลัด ไม่เก่งเรื่องซอกแซกในซอยเท่าพี่วินเสื้อส้ม...นัก

...

มาพูดถึง มาตรฐานด้านกฎหมายว่า มอเตอร์ไซค์เรียกผ่านแอพนี้เป็นบริการใหม่ ที่อาจต่างจากระเบียบวินแบบเก่า พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นการขึ้นทะเบียนคนขับและรถกับกรมการขนส่งทางบก มีบัตรประจำตัว และหมายเลขเสื้อชัดเจน ป้ายทะเบียนต้องเป็นสีเหลือง

อัพเดตเท่าที่ทราบ คือ ตอนนี้ อยู่ระหว่างดำเนินการกันอยู่ และเชื่อว่า เสื้อวินสีเขียวก็กำลังจะตามมา ตอนนี้ก็สังเกต “ที่ห้อยคอสีเขียวไปก่อน” นี่คือ “สัญลักษณ์ของวินนี่ที่มาจากแอพ”

สรุปบริการนี้ ที่คนเมืองจะชีวิตดีได้...

เพราะเป็นอีกหนึ่งช่องทางสำหรับคนเมืองที่กำลังเร่งรีบในตอนเช้า หรือ ไม่อยากจะต่อคิวรอวินมอไซค์นานๆ หลังเลิกงาน ในราคาที่ไม่ฆ่าใคร
คล้ายๆ กับ Taxi เลยที่เริ่มต้นที่ราคา 35 บาท หลังจากนั้นคิด กม. ละ 12 บาท และหากเกิน กม. ที่ 11 เป็นต้นไปคิด กม. ละ 15 บาท โดยค่าบริการนี้ใช้ทั้งบริการรับส่งผู้โดยสารและส่งเอกสาร