ในยุคที่ความรู้ทุกอย่างอยู่บนอินเทอร์เน็ต การเรียนรู้เกิดขึ้นได้จากทุกหนทุกแห่ง ถ้าเราอยากเรียนวิชาความรู้อะไรเพิ่มเติม ก็เพียงแค่ค้นหาข้อมูลในเว็บหรือนั่งดูคลิปในยูทูบเท่านั้น (แต่ต้องมีสมาธิและพลังใจเยอะถ้าต้องการจะเรียนให้จบหลักสูตร)

สำหรับการเรียนด้านภาษา ในยูทูบเองเต็มไปด้วยสารพัดคลิปสอนภาษาต่างประเทศ ผมเองยังเคยไปนั่งดูคลิปสอนภาษาจีนโดยครูชาวจีน ก็สนุกและได้ความรู้ไปอีกแบบ

แต่การเรียนรู้ด้วยตัวเองด้วยวิธีนั่งดูคลิปแล้วฝึกตามไปเรื่อยๆ อาจไม่ได้ประสิทธิผลเท่าที่ควร เพราะเราไม่มีคนมาช่วยตรวจว่าพัฒนาการของเราไปถึงระดับใดแล้ว ต้องอาศัยลูกถึกคือนั่งดูคลิปบ่อยๆ ซ้ำๆ เป็นสำคัญ

ในยุคแอพมือถือเฟื่องฟู มีแอพสอนภาษาตัวหนึ่งที่ผมได้ลองใช้แล้วชอบมาก อยากแนะนำต่อ มันชื่อว่า Duolingo

Duolingo ถูกสร้างขึ้นโดยแนวคิดว่าทุกคนสามารถเรียนภาษาได้ต่อเนื่องทุกวันจากมือถือที่พกติดตัว แนวทางของ Duolingo คือสร้างคอร์สสอนภาษาคุณภาพสูงที่ไม่ยาวเกินไปจนเราไม่อยากเรียน แล้วให้ผู้เรียนได้ฝึกฝนบทเรียนใหม่ๆ วันละครั้ง แต่จะได้ผลถ้าฝึกต่อเนื่องเป็นประจำทุกวัน

เรียนภาษาด้วยตัวเองผ่านมือถือ ด้วย Duolingo

...



จุดเด่นของ Duolingo คือตัวแอพสวย ใช้งานง่าย แถมคอร์สยังออกแบบมาดีมากๆ ชนิดต้องชมออกสื่อ

คอร์สของ Duolingo จะค่อยๆ สอนภาษาต่างประเทศเราอย่างช้าๆ เรียนรู้คำใหม่วันละไม่กี่คำ แต่รูปแบบการสอนไม่ใช่การบรรยายไปเรื่อยๆ เพราะมันอยู่ในรูป “ควิซ” ถามตอบกับผู้เรียนแทน

ตัวคอร์สจะค่อยๆ สอนคำใหม่เราทีละนิด และมีแบบฝึกหัดแทรกอยู่ตลอดเวลาว่าคำนี้มีความหมายอย่างไร ออกเสียงอย่างไร (ถ้าเราตอบผิดก็ไม่ได้ไปต่อ) แบบฝึกหัดของ Duolingo ก็มีหลายรูปแบบคล้ายกับการเรียนในห้องจริงๆ ทั้งฟังเสียงแล้วให้สะกดคำตาม หรือแม้กระทั่งให้เราฝึกออกเสียงผ่านไมโครโฟนของมือถือ แล้วแอพจะตรวจสอบว่าเราออกเสียงถูกต้องแค่ไหน

ผมลองดาวน์โหลดคอร์สภาษาสเปนมาเรียนเล่นๆ ได้สองสามวัน ก็พบว่าบทเรียนน่าติดตาม น่าสนใจ และพยายามจะฝึกต่อเนื่องให้ได้จบคอร์ส

ความดีของ Duolingo คือการเรียนเกิดขึ้นที่ไหนก็ได้เมื่อเรามีเวลาว่าง (และมีที่เงียบๆ ที่เราสามารถนั่งฝึกออกเสียงได้โดยที่คนรอบตัวไม่มองหน้าว่ากำลังทำอะไรอยู่) เรามักจะมีเวลาว่างครั้งละ 15-20 นาทีแทรกอยู่เสมอตลอดทั้งวัน ซึ่งส่วนใหญ่ก็มักเสียไปโดยเปล่าประโยชน์ ถ้าเราสามารถนำเวลาเหล่านี้มาฝึกภาษาที่สาม สี่ ห้า ก็น่าจะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งกับอาชีพการงานในภายภาคหน้าครับ

ข้อเสียของ Duolingo ในตอนนี้มีแค่ว่าบทเรียนส่วนใหญ่ใช้ภาษาอังกฤษ เพราะถูกออกแบบโดยชาวอเมริกันสำหรับเรียนภาษาอื่นๆ ดังนั้นภาษาอังกฤษของเราต้องแข็งแรงสักหน่อยจึงจะไปเรียนภาษาที่สามได้ ส่วนภาษาที่สอนก็ยังจำกัดเฉพาะภาษาจากโลกตะวันตก ยังไม่ค่อยมีภาษาจากฝั่งเอเชียมากนัก ใครที่อยากเรียนภาษาจีน ญี่ปุ่น เกาหลี หรือภาษาของประเทศในอาเซียนก็คงต้องหาแอพตัวอื่นทดแทนครับ