ตอนนี้ในโลกโซเชียลฯ กำลังเป็นกระแสกันเลย กับการแชร์เรื่องราวของอาหาร บ้างก็เป็นเรื่องราวของอาหารที่โดนเอาเปรียบ บ้างก็เป็นเรื่องราวของอาหารที่ไม่ปลอดภัย และบ้างก็เป็นเรื่องราวของอาหารที่ไม่มีมูลความจริงก็มีค่ะ วันนี้ซีเลยขอรวบรวมเรื่องราวที่แชร์กันในโซเชียลกระหน่ำว่า “มนุษย์ อย.ออนไลน์”

คืออะไร?

เรื่องแรก กุ้งมีตะกั่ว...ก็เค้าคิดราคาตามกิโล? เรื่องราวของตะกั่วที่ฝังมากับหัวกุ้ง ต้องบอกว่าจริงๆ กระแสเรื่องนี้มีมานานแล้วล่ะค่ะ ผู้ใหญ่หลายๆ คนคุ้นเคยกับเรื่องนี้ดี ซีว่าจริงๆ แล้วตอนที่กระแสหายไป ใช่ว่าตะกั่วในหัวกุ้งจะหายไปพร้อมกับกระแสนะคะ แต่ผู้บริโภคที่เจอะเจอกับตะกั่วในหัวกุ้งนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาหรือจัดการยังไงดี จนกระทั่งล่าสุดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ใช้เฟซบุ๊กท่านหนึ่งได้โพสต์เรื่องราวตะกั่วในหัวกุ้งบนเฟซบุ๊ก โดยเรื่องราวมีอยู่ว่า สุภาพสตรีท่านหนึ่งขับรถไปอยุธยาเพื่อตั้งใจไปทานอาหารร้านหนึ่งที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นร้านอาหารที่อร่อยของจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ซึ่งเธอเองยอมจ่ายเงินค่ากุ้งกิโลละ 1,200 บาท แต่เมื่อกุ้งมาเสิร์ฟที่โต๊ะ กลับปรากฏว่าในหัวกุ้งมีตะกั่วฝังอยู่ แต่เรื่องราวกลับเลวร้ายมากกว่านั้นเมื่อเธอแจ้งกับทางร้านอาหารแล้วพบว่าทางร้านมองกับการพบตะกั่วในกุ้งเป็นเรื่องปกติ โดยลดค่าตะกั่วในกุ้งให้กับเธอเพียง 195 บาท ประเด็น เรื่องโกงน้ำหนักกุ้งนั่นก็เรื่องนึงค่ะ แต่เรื่องที่เป็นประเด็นหนักกว่าน่าจะเป็นเรื่องของสุขภาพที่จะมากับอาหารที่มีสารตะกั่วเจือปนนี่มั้ยล่ะคะ?

...

เรื่องของการสั่ง“ปู”แถม“ปลิง”เรื่องราวนี้มาสักพักละล่ะค่ะ แต่เริ่มรู้สึกจะมีการมาแชร์ซ้ำอีกครั้งในช่วงนี้ กับเรื่องของปูน้ำจืด หรือปูที่ใส่ในส้มตำนั่นล่ะค่ะ เรื่องนี้เกิดขึ้นเมื่อมีคนอัพวิดีโอลงโซเชียลฯ เมื่อเปิดดูพบคนกำลังพยายามแกะกระดองปูน้ำจืด ซึ่งเมื่อแกะกระดองปูน้ำจืดสำเร็จ ก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจอย่างยิ่ง เมื่อพบสิ่งมีชีวิตที่รูปร่างคล้ายๆปลิงอาศัยอยู่ในกระดองของปูน้ำจืด ซึ่งเรื่องราวนี้เมื่อถูกแชร์ออกไปมีคนจำนวนมาก ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงความอันตรายกับการกินส้มตำ เนื่องจากคงไม่มีพ่อค้าแม่ค้าคนไหน แกะกระดองปูแล้วส่อง ก่อนจะหย่อนใส่ครกเป็นแน่ หรือจะหาร้านที่มีการดองปูให้สุกก่อนใส่ เรียกว่าใครที่ชื่นชอบการทานส้มตำก็ต้องระมัดระวังการทานกันให้ดียิ่งขึ้น ไม่มีโรคเป็นของแถมมาในจาน

ลูกชิ้นปลา แต่มาจากงู? เรื่องราวต่อมาเป็นเรื่องราวของลูกชิ้นปลาที่แชร์กันไปแชร์กันมากลับกลายเป็นลูกชิ้นงู เรื่องราวมีอยู่ว่ามีการแชร์ภาพของงูที่โดนถลกหนังจำนวนมาก โดยในภาพยังมีภาพประกอบไปด้วยภาพของคนกำลังถลกหนังงู และภาพที่ถูกอ้างว่าเป็นลูกชิ้นปลาอีกด้วย โดยถึงแม้เรื่องราวนี้จะมีคนกำลังพูดถึงและแชร์เป็นจำนวนมาก แต่ดูแล้วก็ยังไม่มีข้อสรุปที่ชัดเจน...ประเมินเบื้องต้นก็น่าจะข่าวมั่ว เพราะเอาเข้าจริง “เนื้องู” ดูแพงกว่า “เนื้อปลา” ก็มันหายากกว่าตั้งเยอะ เออเนอะคิดได้

เรื่องราวบนโลกโซเชียลฯ ที่แชร์กันอยู่ตอนนี้ ซีว่าหลายๆ คนไม่ได้แชร์เพียงเพราะอยากดัง หรือแชร์เพราะต้องการจู่โจมทำร้ายใครหรอกค่ะ แต่ทุกฝ่ายต่างแชร์เพราะต้องการช่วยกันดูแลและปกป้องสิทธิของเพื่อนมนุษย์ทุกคนที่พึงมี การแสดงความคิดเห็นมีไปใน 2 ทิศทาง แต่ก็อย่าลืมจุดตั้งต้นของเจตนาความหวังดีของกันและกันนะคะ สังคมออนไลน์จะได้น่าอยู่ เมื่อมีมนุษย์คุณธรรมทางออนไลน์ขึ้นเยอะๆ เพื่อช่วยกันปกป้องสิทธิของพวกเราทุกคนค่ะ

สวัสดีค่ะ

ซี ฉัตรปวีณ์