ผมเขียนถึง iPhone 6 และ Apple Watch ไปแล้ว คราวนี้ขอเขียนถึงคู่แข่งตัวฉกาจอย่างซัมซุงบ้างครับ

ซัมซุงมีนโยบายออกมือถือรุ่นท็อปหรือที่เราเรียกตามภาษาอังกฤษว่า “รุ่นเรือธง” (flagship) ปีละสองครั้ง โดยต้นปีเป็นคิวของ Galaxy S ส่วนปลายปีเป็น Galaxy Note รุ่นมีปากกา

เมื่อต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ซัมซุงก็เดินรอยตามธรรมเนียมเดิม เปิดตัวมือถือรุ่นปลายปี Galaxy Note 4 และเริ่มวางขายจริงในประเทศไทยเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง


ซัมซุงประเทศไทยส่ง Note 4 มาให้ผมลองทดสอบประมาณ 2-3 วัน ผมเองใช้ Note 3 เป็นมือถือเครื่องหลักอยู่แล้ว พอได้โอกาสลองจับ Note 4 ก็ค่อนข้างประทับใจมาก เพราะดีขึ้นกว่าเดิมในแทบทุกด้าน
จุดเด่นที่สุดของ Note 4 คือวัสดุรอบตัวเครื่องที่เปลี่ยนมาใช้โลหะทำขอบแทน ให้ความรู้สึกหรูหราและแน่นกระชับขึ้นมาก ที่ผ่านมาซัมซุงถูกวิจารณ์ว่าใช้วัสดุเป็นพลาสติก ดูกระจอกไม่ค่อยสมราคามือถือรุ่นท็อปมาโดยตลอด ซึ่งแนวทางการออกแบบที่เปลี่ยนมาใช้โลหะเป็นบางส่วน ย่อมช่วยลบจุดอ่อนนี้ไปได้พอสมควร

ประเด็นต่อมาที่ผมประทับใจคือกล้องถ่ายภาพ เพราะ Note 4 เป็นมือถือรุ่นแรกของซัมซุงที่นำระบบกันสั่น OIS มาใช้งาน (ค่ายโนเกียทำมาก่อนนานแล้ว และ iPhone 6 Plus ก็เพิ่งมีไล่เลี่ยกัน) ผลคือการถ่ายภาพในที่มืดหรือสภาพแสงน้อยให้ผลออกมาน่าประทับใจมาก นอกจากนี้ Note 4 ยังปรับปรุงกล้องหน้าให้ดีขึ้นกว่าเดิม ใช้เลนส์มุมกว้างขึ้น เหมาะกับการถ่ายเซลฟี่มากขึ้น (ประเด็นนี้ผมเป็นผู้ชายไม่นิยมเซลฟี่คงเฉยๆ แต่ถ้าเป็นคุณสาวๆ ที่ชอบอะไรแนวนี้ก็คงถูกใจนะครับ)

...


จุดขายของ Note 4 ที่คนทั่วไปนึกถึงคือปากกา S Pen ในเวอร์ชั่นนี้ก็ปรับปรุงให้ดีกว่าเดิม รองรับแรงกดของปากกาละเอียดขึ้น เท่าที่ลองใช้จดโน้ตทั่วๆ ไปพบว่าลื่นขึ้นเล็กน้อย (ถ้าวาดรูปด้วยคงเห็นการเปลี่ยนแปลงชัดเจนกว่านี้) แอพฯ จดโน้ตของซัมซุงก็พัฒนาขึ้น สามารถถ่ายภาพกระดานไวท์บอร์ดหรือกระดาษโน้ตแล้วแปลงเป็นไฟล์โน้ตที่เขียนข้อความเพิ่มลงไปได้ง่ายๆ

ส่วนของซอฟต์แวร์ Note 4 ใกล้เคียงกับ Galaxy S5 ที่วางขายเมื่อต้นปี หน้าตาดูเรียบง่าย สวยคม แอพฯ ขยะมีน้อยลง ดูไม่ “เยอะ” แบบซัมซุงสมัยก่อน ถือเป็นพัฒนาการในทางบวกที่ดีมาก (และควรทำแบบนี้มาตั้งนานแล้ว)

จุดอ่อนของ Note 4 คงเป็นว่ามันไม่กันน้ำในตัวแบบ Galaxy S5 ดังนั้นการนำมาใช้งานสมบุกสมบันอาจไม่เหมาะเท่าไรนัก และค่าตัว 25,900 บาทของมันอาจแพงไปหน่อยสำหรับมือถือยุคนี้ที่ราคาเฉลี่ยลดลงทุกปี

การมาถึงของ Note 4 ย่อมทำให้มือถือของซัมซุงรุ่นก่อนๆ ทั้ง Note 3 และ S5 ปรับราคาลง คุณผู้อ่านที่อยากได้มือถือคุณภาพดีแต่ไม่จำเป็นต้องใหม่ที่สุด ก็อาจเลือกซื้อ “เรือธงของปีที่แล้ว” ในราคาที่ประหยัดกว่าเดิมมาก


นอกจาก Note 4 แล้ว ซัมซุงยังเปิดตัวผลิตภัณฑ์พร้อมกันอีก 3 ตัว คือ Galaxy Note Edge มือถือแนวทดลองที่ใส่ “จอที่สอง” ไว้ขอบด้านขวามือของเครื่อง สามารถแสดงข้อมูลประกอบหรือเสริมจอภาพหลักได้หลายอย่าง มือถือตัวนี้คงเน้นการทดลองแนวทางใหม่ๆ มากกว่าขายจริงในตลาดผู้ใช้ทั่วไป

ผลิตภัณฑ์อีกตัวที่ซัมซุงอยู่ในขั้น “ทดลองตลาด” อีกเหมือนกันคือแว่นสามมิติ Gear VR ที่ใช้มือถือ Note 4 เป็นหน้าจอ พาเราเข้าสู่โลกเสมือนจริง แว่นอันนี้ซัมซุงจับมือกับบริษัท Oculus ผู้บุกเบิกตลาดแว่นสามมิติ ผมเคยเขียนถึง Oculus ไปแล้วในคอลัมน์ตอนเก่าๆ ถ้าสนใจลองอ่านย้อนดูได้ครับ

ผลิตภัณฑ์ตัวสุดท้ายที่ซัมซุงน่าจะเน้นมากหน่อยคือ Gear S นาฬิกาอัจฉริยะรุ่นล่าสุด และน่าจะเป็นตัวท็อปสุดในรอบปีนี้ด้วย ปีที่ผ่านมาซัมซุงออกนาฬิกาในชื่อ Gear มาแล้ว 2-3 รุ่นย่อย แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จมากนักเพราะผู้บริโภคยังงงๆ อยู่ว่าจะนำมันไปใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง ซึ่ง Gear S ก็เป็นความพยายามครั้งล่าสุดที่ซัมซุงต้องพิสูจน์ตัวเองให้ได้ว่าเหตุผลในการซื้อคืออะไร

มาร์ค Blognone

...