โตชิบา คอร์ปอเรชั่นได้ออกแถลงการณ์นำบริษัทเพิกถอนออกจากตลาดทรัพย์โตเกียวและตลาดหลักทรัพย์นาโกย่า เมื่อวันที่ 20 ธันวาคมที่ผ่านมา อย่างเป็นทางการหลังจากกลุ่มผู้ถือหุ้นได้อนุมัติตามแผนการเพื่อเปิดทางให้ผู้ถือหุ้นเข้ามาพลิกสถานการณ์ของบริษัทไปสู่อนาคตใหม่

นับเป็นการสิ้นสุดประวัติศาสตร์หนึ่งในบริษัทยักษ์ใหญ่ผู้ผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ด้านเทคโนโลยี อุตสาหกรรมและเครื่องใช้ไฟฟ้าที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ญี่ปุ่นมายาวนานกว่า 74 ปี

ปัญหาของโตชิบาหลักๆก็คือในช่วงที่ผ่านมาถูกกล่าวหาว่าดำเนินการทางด้านบัญชีไม่ถูกต้อง ทำให้ผลประกอบการของบริษัทดูดีขึ้น ไม่เป็นตามหลักเกณฑ์ทำให้บริษัทประสบผลขาดทุนมากกว่าที่รายงาน และส่งผลให้ผู้บริหารสูงสุดต้องลาออกไป

ขณะที่การลงทุนในธุรกิจพลังงานได้ลงทุนในบริษัท Westinghouse Electric ที่ผลิตและสร้างเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจากพลังงานนิวเคลียร์ แต่ธุรกิจนี้พบปัญหาทางเทคนิค การเงิน และกฎหมาย ทำให้โตชิบาต้องรับผิดชอบค่าเสียหาย และขายหุ้นออกไปเพื่อหลีกเลี่ยงการล้มละลาย

...

ท่ามกลางการแข่งขันในตลาดอย่างดุเดือด ในยุคที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย อีกทั้งเผชิญกับคู่แข่งจากจีนที่ผลิตสินค้าราคาถูกกว่าและมีคุณภาพดีขึ้นทำให้โตชิบาสูญเสียส่วนแบ่งตลาดไปไม่น้อย

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาโตชิบาพยายามแก้ไขปัญหาทางการเงินและการบริหารจัดการ ส่งผลให้ต้องขายบางส่วนของธุรกิจทิ้งไป เช่นไมเดียกรุ๊ป ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้าจากจีนได้เข้าซื้อหุ้นใหญ่ในกิจการเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัวเรือนเพื่อได้สิทธิ์การใช้แบรนด์โตชิบาในหมวดสินค้านี้เป็นเวลา 40 ปี รวมทั้งตลาดในประเทศไทย

การเพิกถอนการเป็นบริษัทมหาชนของโตชิบาจะเปิดทางให้กลุ่มบริษัทญี่ปุ่นที่นำโดย Japan Industrial Partners (JIP) ได้เข้ามาเป็นผู้ถือใหญ่ในสัดส่วน 78.65% พร้อมกับตั้งโต๊ะรับซื้อหุ้นทั้งหมดมูลค่าถึง 14,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ

ทาง JIP เป็นบริษัทการเงินของญี่ปุ่นที่มีความเชี่ยวชาญในการซื้อธุรกิจที่มีปัญหาแล้วนำไปปรับโครงสร้างและขายต่อให้กับผู้ลงทุนอื่น ที่ผ่านมา JIP เคยซื้อธุรกิจของโซนี่ ภายใต้บริษัทโซนี่ คอมพิวเตอร์ เอนเตอร์เทนเมนท์ และเปลี่ยนเป็น โซนี่ อินเตอร์แอ็กทีฟ เอนเตอร์เทนเมนท์ ผู้ผลิตและจำหน่ายเครื่องเล่นเกมเพลย์ สเตชันและเกมที่เกี่ยวข้อง

ด้วยการปรับโครงสร้างและลดต้นทุน ปิดธุรกิจบางส่วนที่ไม่มีประสิทธิภาพออกไป เช่นการผลิตเครื่องเพลย์สเตชันไวต้า, เพลย์สเตชันทีวี และปิดการบริการเกมเพลย์สเตชัน โมบายและเพลย์สเตชัน นาว และไปเน้นการพัฒนาขยายตลาดเครื่องเล่นเกมวิดีโอแบบคอนโซล เพลย์สเตชัน 4 และ 5 ซึ่งได้รับความนิยมสูงและแข่งขันกับบริษัทคู่แข่งอย่างไมโครซอฟท์และนินเทนโด รวมไปถึงการปรับโครงสร้างในกิจการโน้ตบุ๊กของโซนี่ให้มีความทันสมัยและเหมาะสมกับผู้ใช้งาน และการเข้าซื้อธุรกิจกล้องของโอลิมปัส

อย่างไรก็ตามทาง JIP ไม่ได้ออกมาเปิดเผยถึงแผนการฟื้นฟูกิจการของโตชิบาว่าจะดำเนินการต่อไปอย่างไร แต่ได้มีการวิเคราะห์กันว่าน่าจะมีความยากมากเพราะเป็นกิจการขนาดใหญ่และมีความซับซ้อนกว่าที่เคย มีพนักงานกว่า 106,000 คน ในกิจการต่างๆ รวมถึงแบตเตอรี่ ชิป พลังงานและการป้องกันประเทศ

ก่อนหน้านี้ไม่กี่วันทางโตชิบา ได้เปิดตัวแบตเตอรี่ชาร์จเร็วที่ปลอดโคบอลต์รุ่นใหม่ซึ่งมีราคาถูกกว่าและมีความยั่งยืนกว่าสำหรับรถยนต์ขับเคลื่อนพลังงานไฟฟ้าในอนาคต ซึ่งปัจจัยแบตในรถอีวีส่วนใหญ่จะใช้โคบอลต์ซึ่งเป็นโลหะหายากและราคาแพง บ่อยครั้งมักใช้แรงงานเด็กขุดรวมไปถึงการทำลายสิ่งแวดล้อม

ทางโตชิบาจะใช้ผลิตแบตรูปแบบ จาก “แคโทด” ที่เรียกว่า “nickel manganese oxide (LNMO)” ส่วนขั้วบวกผลิตจาก “niobium-titanium oxide (NTO)” โดยระบุว่าเป็นโซลูชันที่เหนือกว่าทั้งต้นทุนและการอนุรักษ์ทรัพยากรเมื่อเปรียบเทียบกับแบตโคบอลต์

แม้ผู้ผลิตบางรายอย่างค่ายเทสลาใช้แบตที่เรียกว่า lithium iron phosphate (LTH) แต่ใช้เวลาชาร์จแบตนานกว่า แต่เมื่อเปรียบเทียบแล้วแบตเตอรี่ต้นแบบของโตชิบาสามารถชาร์จได้เต็มความจุ 80% ในเวลาเพียง 8 นาที และมีความทนทานชาร์จได้ 6,000 ครั้ง ขณะที่แบต LFP ต้องใช้เวลา 20 นาที รองรับการชาร์จ 3,000 ครั้ง แต่นี่เป็นเพียงแค่การเริ่มต้นการพัฒนาเท่านั้น

...

หรือนี่จะเป็นหนึ่งในอนาคตของโตชิบายุคใหม่หลังจากนี้.

คลิกอ่านคอลัมน์ “บทความไซเบอร์เน็ต” เพิ่มเติม