Binance(ไบแนนซ์)ยังมั่นใจคริปโตเคอเรนซี ขยายฐานได้ต่อและเป็นทางเลือกการลงทุนในช่วงเงินเฟ้อพุ่ง เปิดเทรนด์เติบโตต่อเนื่อง ขณะที่ NFT อยู่ในช่วงขาลง พบนักลงทุนในตลาดเกิดใหม่คึกคัก ตั้งแต่อินเดีย บังกลาเทศ ตุรกี ยูเครน และอินโดนีเซีย
Binance Academy ศูนย์การเรียนรู้แบบเปิดกว้างด้านบล็อกเชนและคริปโตเคอร์เรนซี ภายใต้ Binance (ไบแนนซ์) แพลตฟอร์มแลกเปลี่ยนสกุลเงินดิจิทัลที่ใหญ่ที่สุดในโลก เผยเทรนด์การศึกษาด้านคริปโต โดยข้อมูลเมื่อเดือน ก.ย.2565-ส.ค.2566 แสดงให้เห็นถึงการเติบโตด้านการศึกษาเกี่ยวกับคริปโตเคอร์เรนซีบน Binance Academy ที่สูงขึ้น 62% ยอดรวมผู้เข้าใช้งานอยู่ที่ 39 ล้านคน นับตั้งแต่การเปิดตัวครั้งแรกเมื่อปี 2561 ข้อมูลดังกล่าวยังชี้ให้เห็นว่า หัวข้อที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในหมู่ผู้อ่านที่กำลังศึกษาด้านคริปโตในปี 2566 คือ เมตาเวิร์ส บิทคอยน์ กระเป๋าเงินคริปโต และแท่งเทียน (Candlesticks) โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มต้น มักจะค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับวิธีการซื้อขาย ความหมายของเทคโนโลยีบล็อกเชน และการใช้กระเป๋าเงินคริปโต ตรงกันข้ามกับเทรนด์ของปีที่ผ่านมา ปีนี้ความสนใจด้าน NFT ถดถอยลง ในขณะที่กิจกรรมการซื้อขายแลกเปลี่ยนและการลงทุนคริปโตยังเพิ่มสูงขึ้น เห็นได้จากการที่ผู้คนค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับแท่งเทียนคริปโต เช่นเดียวกับการที่มีผู้คนสนใจในกระเป๋าเงินคริปโตและบิทคอยน์ ที่ชี้ให้เห็นถึงการยอมรับคริปโตที่เพิ่มสูงขึ้น เพราะหัวข้อเหล่านี้ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการซื้อขายแลกเปลี่ยนสินทรัพย์ดิจิทัล
...
ทั้งนี้ ข้อมูลยังสะท้อนให้เห็นถึงความสนใจของเกมบนโลกเมตาเวิร์ส อย่าง Roblox รวมถึงการที่แบรนด์ชั้นนำ เช่น Nike, Chipotle, Gucci และ Walmart ไปร่วมมือกับแพลตฟอร์มเกมเพื่อสร้างสรรค์มาร์เกตติ้งแคมเปญใหม่ๆ
เทรนด์ยังชี้ชัดว่า ความสนใจศึกษาด้านคริปโตได้เพิ่มมากขึ้นจากการที่หลายประเทศทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตลาดเกิดใหม่ อย่าง อินเดีย บังกลาเทศ ตุรกี ยูเครน และอินโดนีเซีย ได้เข้ามาค้นหาข้อมูลด้านคริปโตบน Binance Academy นางสาวหยี่ เหอ (Yi He) ผู้ร่วมก่อตั้ง Binance กล่าวว่า อัตราเงินเฟ้อที่พุ่งสูงขึ้น และข้อจำกัดของการเข้าถึงธุรกรรมการเงินแบบดั้งเดิม ทำให้คนเริ่มมองหาทางเลือกอื่นในการลงทุน จึงมีคนจำนวนหนึ่งหันมาแสวงหา ความรู้เกี่ยวกับคริปโต ในฐานะทางเลือกใหม่
“ในโลกการเงินดิจิทัลที่กำลังพัฒนาอย่างรวดเร็ว การศึกษาด้านคริปโตถือเป็นรากฐานสำคัญของการเปลี่ยนแปลงนี้ รวมทั้งเทคโนโลยีบล็อกเชน ซึ่งจะช่วยส่งเสริมการเติบโตของอุตสาหกรรมต่อไป”.