ฟิล สเปนเซอร์ ผู้บริหารระดับสูงของ Xbox ในเครือของไมโครซอฟท์ (Microsoft) เคยมีแนวคิดที่จะซื้อกิจการนินเทนโด (Nintendo) ในปี 2020 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ เพราะความแข็งแกร่งทางการเงินของนินเทนโด
ในช่วงสิบปีที่ผ่านมา ไมโครซอฟท์ เป็นบริษัทยักษ์ใหญ่จากโลกเทคโนโลยี ที่ซื้อกิจการ โดยเฉพาะสตูดิโอเกมเป็นจำนวนมาก ไล่ตั้งแต่ เซนิแม็กซ์ มีเดีย (ZeniMax Media) บริษัทแม่ของเบเธสดา (Bethesda) และดีลที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานกำกับดูแลอย่างแอคติวิชัน บลิซซาร์ด (Activision Blizzard)
เพียงแต่ในปี 2020 ก่อนหน้าการเข้าซื้อกิจการเซนิแม็กซ์ มีเดีย ของไมโครซอฟท์ เป้าหมายสำคัญกลับเป็นนินเทนโด บริษัทวิดีโอเกมยักษ์ใหญ่จากญี่ปุ่น ซึ่งข้อมูลนี้มาจากส่วนหนึ่งของคดีที่คณะกรรมาธิการการค้าของรัฐบาลกลาง นำพิจารณาในดีลระหว่างไมโครซอฟท์ และแอคติวิชัน บลิซซาร์ด
ฟิล สเปนเซอร์ มองว่า การซื้อกิจการนินเทนโด จะทำให้ความร่วมมือระหว่างสองบริษัทแน่นแฟ้นขึ้น อีกทั้งไมโครซอฟท์เป็นบริษัทจากสหรัฐฯ ที่มีโอกาสใกล้เคียงที่จะคว้านินเทนโดมาไว้ในมือ
...
อย่างไรก็ดี ปัญหาที่ขัดขวางไม่ให้นินเทนโดถูกซื้อกิจการโดยไมโครซอฟท์ นั่นเป็นเพราะว่า นินเทนโด เป็นบริษัทที่มีกระแสเงินสดดีมาก
ปัจจุบัน นินเทนโด ได้ขยายทรัพย์สินทางปัญญาของตัวเอง (Intellectual property) ทั้งการพัฒนาภาพยนตร์แอนิเมชัน, สวนสนุกธีมปาร์ค และเกมมือถือ เป็นต้น
นอกจากนี้ สเปนเซอร์ เชื่อว่า การเข้าซื้อกิจการนินเทนโดในลักษณะที่ไม่เป็นมิตรนั้นไม่ใช่ความเคลื่อนไหวทางธุรกิจที่ดีนัก ทำให้ไมโครซอฟท์เลือกที่จะไปพูดคุยวอร์เนอร์บราเธอส์ อินเตอร์แอคทีฟ และเซนิแม็กซ์ แทน
ที่มา: Polygon