หรือสงครามเทคฯรอบใหม่ระหว่างจีนกับอเมริกาจะปะทุอีกครั้ง เมื่อจู่ๆรัฐบาลจีนสั่งแบนไอโฟน ห้ามข้าราชการทั้งประเทศใช้สมาร์ทโฟนเจ้าดังสัญชาติมะกัน ส่งผลให้หุ้นแอปเปิลร่วงหนักอย่างต่อเนื่อง
ไม่เฉพาะรัฐบาลกลางเท่านั้น แต่การแบนไอโฟนยังครอบคลุมไปถึงรัฐบาลท้องถิ่นและรัฐวิสาหกิจทั้งประเทศ เฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐของจีนทั้งประเทศมีไม่ต่ำกว่า 67 ล้านคน เมื่อเกิดคำสั่งห้ามใช้ไอโฟนในที่ทำงาน ใช้ได้เฉพาะที่บ้าน ย่อมเป็นการส่งสัญญาณว่าความเดือดระหว่างจีนกับอเมริกากำลังพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น
“วอลล์ สตรีท เจอร์นัล” อ้างแหล่งข่าวระดับสูง รายงานว่า ข่าวเรื่องที่รัฐบาลจีนไม่สนับสนุนการใช้ผลิตภัณฑ์สัญชาติมะกันในจีนมีมายาวนานแล้ว ตั้งแต่ช่วงเกิดการแพร่ระบาดของโควิด-19 แต่ไม่มีการระบุเป็นลายลักษณ์อักษรใดๆ เพราะกลัวจะกระทบความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ขณะเดียวกัน รัฐบาลจีนก็พยายามสนับสนุนให้เจ้าหน้าที่รัฐใช้สมาร์ทโฟนที่ผลิตโดยบริษัทจีน โดยเฉพาะ “หัวเว่ย”
ด้านสื่อการเงินของจีน “อีโคโนมิก ออฟเซิร์ฟเวอร์” ระบุว่า ในปี 2020 หน่วยงานรัฐบางแห่งของจีนได้บังคับให้เจ้าหน้าที่หยุดใช้ไอโฟน เนื่องจากกฎความเป็นส่วนตัวที่เข้มงวดของแอปเปิล ทำให้ยากต่อการตรวจสอบสมาร์ทโฟนของเจ้าหน้าที่ที่เข้าข่ายทุจริต
เมื่อครั้งมาเยือนจีน “ทิม คุก” ซีอีโอของแอปเปิล ยอมรับว่า จีนเป็นตลาดและศูนย์กลางการผลิตที่สำคัญของแอปเปิล โดยคิดเป็นร้อยละ 19 ของรายได้รวม การที่ทางการจีนขยายขอบเขตจำกัดการใช้งานไอโฟนครั้งนี้ จึงสร้างความท้าทายให้แอปเปิลเป็นอย่างมาก
ที่ผ่านมาจีนอดทนอย่างมากไม่เคยใช้มาตรการแบนสินค้ากับอเมริกา ตรงข้ามกับสหรัฐฯที่ฟาดจีนแรงๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า ตั้งแต่ปี 2019 อเมริกาเริ่มขึ้นบัญชีดำบริษัทของจีนและบุคลากรของจีน จนปัจจุบันมีรายชื่อในบัญชีดำของอเมริกามากกว่า 1,300 รายชื่อ โดยหนึ่งในนั้นมีหัวเว่ย และ TikTok รวมอยู่ด้วย
...
“หัวเว่ย” จากที่เคยเป็นแชมป์โลกมือถือโค่นได้ทั้งแอปเปิลและซัมซุง เมื่อช่วงไตรมาสสองของปี 2019 ได้ถูกอเมริกาขึ้นเอนติตี้ ลิสต์ ไปอยู่ในบัญชีดำรายชื่อบริษัทสื่อสารโทรคมนาคมที่ถูกสั่งห้ามไม่ให้บริษัทของสหรัฐอเมริกาเข้าซื้ออุปกรณ์ต่างๆ โดยไม่ได้รับอนุญาตจากรัฐบาล รวมถึงบริษัทผู้ผลิตชิปเซตที่รองรับ 5G ทำให้สมาร์ทโฟน 5G ของ “หัวเว่ย” ต้องใช้ชิปที่กักตุนไว้เท่านั้น และเสี่ยงเผชิญวิกฤติขาดแคลนชิป
รัฐบาลมะกันอ้างประเด็นความมั่นคงแห่งชาติ บีบให้ “หัวเว่ย” ต้องพยายามสร้างอีโคซิสเต็มใหม่ของตัวเอง ซุ่มเงียบอยู่ 4 ปีเต็ม สุดท้าย “หัวเว่ย” กลับมาเปรี้ยงปร้างกว่าเดิม ด้วยการเปิดตัวสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ “Mate 60 Pro” ที่มาพร้อมชิปเซต 7 นาโนเมตร ที่รองรับการเชื่อมต่อ 5G ซึ่งพัฒนาเองโดยบริษัทสัญชาติจีน ไม่ง้ออเมริกาอีกแล้ว ถือเป็นเทคโนโลยีทันสมัยที่สุดในขณะนี้
การที่ “หัวเว่ย” เลือกใช้งานซิปเซต 5G ที่ผลิตในจีนโดยบริษัทจีน ถือเป็นการส่งสัญญาณชัดว่า จีนไม่จำเป็นต้องพึ่งพาบริษัทอเมริกาอีกแล้ว หลังจากบริษัทถูกขึ้นบัญชีดำมาตั้งแต่ปี 2019 ทำให้ “หัวเว่ย” ไม่สามารถใช้งานบริการของกูเกิล รวมถึงระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์ จนต้องหนีไปใช้งานระบบปฏิบัติการที่พัฒนาขึ้นเองอย่าง “Harmony OS”
เรื่องการแบนสินค้ามะกันของจีนไม่ได้จำกัดอยู่แค่ไอโฟน แต่เมื่อกลางปีที่แล้ว บางกระทรวงยังสั่งห้ามไม่ให้รถยนต์ยี่ห้อ “เทสลา” ของ “อีลอน มัสก์” วิ่งเข้าไปในสถานที่ราชการของจีน เพราะกังวลเรื่องความมั่นคงของชาติ
ช้างสารชนกันแบบนี้ หญ้าแพรกก็ย่อมแหลกลาญไปด้วย ภายใต้การจัดระเบียบโลกใหม่ ประเทศไทยต้องบาลานซ์ตัวเองให้ดี เพื่อหาที่ยืนอย่างสง่างามและมีพันธมิตรบนเวทีโลก.
มิสแซฟไฟร์
คลิกอ่านคอลัมน์ "คนดังอะราวนด์เดอะเวิลด์" เพิ่มเติม