รีวิว Honor 90 มือถือระดับกลางที่มีคุณภาพกล้องเป็นจุดขาย

Honor 90 เป็นสมาร์ทโฟนภายใต้แบรนด์ออเนอร์ที่วางจำหน่ายในประเทศไทย โดยเป็นหนึ่งในสมาร์ทโฟนที่เน้นหนักเรื่องการถ่ายภาพ พร้อมกับวางกลยุทธ์เป็นสมาร์ทโฟนที่อยู่ในระดับกลาง

Honor 90 มาพร้อมกับการออกแบบที่ถือว่าดูดี และเพรียวบาง 

Honor 90 ตั้งราคาวางจำหน่ายในประเทศไทยที่ 13,990 บาท เริ่มวางจำหน่ายเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา

สเปกเครื่อง Honor 90

• ขนาดหน้าจอ 6.7 นิ้ว ความละเอียด 1200x2664 พิกเซล 

• รองรับสีขนาด 1,000 ล้านสี รีเฟรชเรต 120Hz ค่าความสว่างสูงสุด 1600 nits

• ชิปเซต Qualcomm Snapdragon 7 Gen 1 Accelerated Edition

• ระบบปฏิบัติการ Android 13 ครอบด้วย MagicOS 7.1

• กล้องหลัง 3 ตัว ได้แก่ กล้องหลักแบบกล้องไวด์ 200 ล้านพิกเซล กล้องอัลตราไวด์ 12 ล้านพิกเซล และกล้องวัดระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล

• กล้องหน้าเซลฟี่ 50 ล้านพิกเซล ขนาดมุมกว้าง 100 ล้านพิกเซล

• แบตเตอรี่ 5,000 mAh

การออกแบบ

ปฏิเสธไม่ได้ว่าการออกแบบของ Honor 90 ถือว่ามีความหรูหรา โดยได้แรงบันดาลใจจากเพชร และเครื่องประดับต่างๆ แม้ว่าจะเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง แต่การออกแบบทำได้อย่างดี และดูสวยงาม

ตัวเครื่องที่รีวิวนั้นเป็นสีเงิน Diamond Silver ด้านหลังของตัวเครื่องถูกแบบออกเป็นสองส่วน ได้แก่ ส่วนบนที่มีความเงางาม แต่ดึงดูดรอยนิ้วมือ ส่วนด้านล่างเลียนแบบพื้นผิวของความเป็นเพชร

การออกแบบของซุ้มกล้องจะมีวงแหวนของเลนส์กล้องแบ่งออกเป็น 2 ส่วน โดยที่น้ำหนักของตัวเครื่องกระจายได้ดี แต่ก็จะมาตกส่วนที่เป็นเลนส์กล้องมากหน่อย ซึ่งถือเป็นเรื่องปกติของการออกแบบ

นอกเหนือจากนี้แล้ว Honor 90 ได้ฝังชิปอ่านลายนิ้วมือเอาไว้ใต้จอ แต่ในขณะเดียวกัน Honor 90 ก็ยังมีเซนเซอร์สแกนใบหน้าด้วย ซึ่งถือว่าครบเครื่องทีเดียวสำหรับสมาร์ทโฟนระดับกลาง

หน้าจอแสดงผล

Honor 90 5G ได้เพิ่ม PWM Dimming 3840Hz เทคโนโลยีเพื่อช่วยถนอมสายตา เนื่องจากผู้ใช้งานปัจจุบันต้องสัมผัสกับแสงสีฟ้าเป็นระยะเวลานาน รวมถึงเทคโนโลยี TÜV Rheinland Flicker Free ซึ่งช่วยลดอัตราการกะพริบและลดแสงของหน้าจอ ไม่ทำให้สายตาเมื่อยล้าจากการใช้งานที่ต่อเนื่อง

ตามด้วยฟีเจอร์ Dynamic Dimming ที่เลียนแบบแสงของหน้าจอให้ใกล้เคียงกับธรรมชาติ มีการปรับลดแสงอัตโนมัติโดยคำนึงจากความเหมาะสมกับสายตาและระยะเวลาในการใช้งาน ซึ่งให้สีที่ตรงกับวัตถุ

ซอฟต์แวร์ MagicOS 7.1

Honor 90 มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Android 13 จากโรงงาน ครอบด้วยอินเตอร์เฟส MagicOS 7.1

ในภาพรวมการใช้งานอินเตอร์เฟสของ Honor 90 ก็ไม่ต่างจากแบรนด์อื่นๆ เพียงแต่ อินเตอร์เฟส MagicOS 7.1 ก็มีลูกเล่นที่น่าสนใจ เช่น การเคาะหน้าจอสองครั้งเพื่อแคปเจอร์สกรีน การย่อขนาดของแอปพลิเคชันให้เป็นป๊อปอัป เพื่อที่จะใช้งานแอปพลิเคชันอื่นๆ พร้อมกัน หรือแม้แต่การคว่ำมือถือเพื่อปิดเสียงเมื่อมีการโทรเข้า

ในด้านการอัปเดตซอฟต์แวร์ คาดว่า Honor 90 น่าจะได้อัปเดตระบบปฏิบัติการ Android เวอร์ชันใหม่ 2 เวอร์ชัน และแพตช์รักษาความปลอดภัยอีก 3 ปี

การถ่ายภาพ

Honor 90 90 5G มาพร้อมกล้องหลัก 200 ล้านพิกเซล รูรับแสง f/1.9 ทำงานภายใต้เทคโนโลยี Honor 90 Image Engine เพื่อให้การถ่ายภาพได้ทั้งในเวลากลางวัน การถ่ายภาพบุคคล (Portrait) และการถ่ายภาพย้อนแสง

Honor 90 90 5G ยังมีกล้องอัลตราไวด์ ความละเอียด 12 ล้านพิกเซล ขอบเขตการมองเห็น 112 องศา มีเลนส์วัดระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล ที่ช่วยสร้างเอฟเฟกต์โบเก้ (Bokeh) และกล้องหน้า 50 ล้านพิกเซล

อย่างไรก็ตาม การถ่ายภาพในเวลากลางคืนของ Honor 90 ก็ยังทำได้ไม่ดีนัก ชัตเตอร์ทำงานค่อนข้างช้า มีเกรนขนาดใหญ่ ไปจนถึงการสูญเสียรายละเอียดของภาพเป็นจำนวนมาก สีที่อิ่มเกินไป และผิดเพี้ยนจากวัตถุพอสมควร

แต่ในทางตรงกันข้าม กล้องทำผลงานได้ดีเมื่ออยู่ในสภาพของแสงที่ดี

แบตเตอรี่

Honor 90 มาพร้อมกับขนาดของแบตเตอรี่ที่ 5,000 mAh ซึ่งถือว่าเยอะทีเดียว ในภาพรวมถือว่าแบตเตอรี่มีความอึดประมาณหนึ่ง ใช้งานได้ตลอดทั้งวันค่อนข้างแน่ โดยที่ไม่ต้องมองหาอุปกรณ์เสริม หรือชาร์จระหว่างวันมากนัก

สาเหตุสำคัญมาจากการใช้ซอฟต์แวร์ที่ช่วยลดการบริโภคแบตเตอรี่ แต่ในอีกด้านหนึ่งก็ต้องบอกว่า การที่มีแบตเตอรี่ขนาด 5,000 mAh ก็ช่วยให้ใช้งานเครื่องได้เป็นระยะเวลานาน

สรุป

สิ่งที่น่าสนใจของ Honor 90 อยู่ตรงที่เรื่องของการออกแบบที่ทำได้ดีมากๆ เช่นเดียวกับการถ่ายภาพที่ได้น่าประทับใจเช่นกัน ถ้าหากอยู่ในสภาวะแสงปกติ

พร้อมกันนี้ยังมีแบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ซึ่งสามารถทำให้ผู้ใช้งานขลุกอยู่กับ Honor 90 ได้ตลอดทั้งวัน โดยที่แบตเตอรี่ยังเหลือพอใช้งาน

อย่างไรก็ดี จุดด้อยของ Honor 90 อาจเป็นเรื่องของความเร็วในการอัปเดตระบบปฏิบัติการเวอร์ชันใหม่ ซึ่งจุดนี้ยังเป็นเครื่องหมายคำถามตัวโตๆ ถ้าหากทำได้เร็ว ทำได้ไว ก็ถือว่าเป็นการพลิกจากจุดอ่อนเป็นจุดแข็งได้เลย

Honor 90 5G มีให้เลือก 3 สี ได้แก่ สีเขียว Emerald Green, สีเงิน Diamond Silver และสีฟ้า Peacock Blue ในราคา 13,990 บาท วางจำหน่ายแล้วเมื่อวันที่ 2 กันยายนที่ผ่านมา.