Huawei Band 8 เป็นสมาร์ทแบนด์รุ่นล่าสุดของหัวเว่ย โดยมีจุดเด่นในด้านของการออกแบบที่มีน้ำหนักเบา ใช้งานกลางแดดได้ รวมถึงการรองรับการออกกำลังกายหลากหลายรูปแบบ
ข้อมูลจำเพาะ Huawei Band 8
ขนาดหน้าจอ 1.47 นิ้ว 194x368 พิกเซล จอเป็นแบบ AMOLED
น้ำหนัก 14 กรัม
รองรับเซนเซอร์จำพวก Heart Rate, SpO2 และตรวจจับการนอนได้
โหมดออกกำลังกาย 100 โหมด
แบตเตอรี่ mAh ใช้งานได้นานสูงสุด 14 วัน
ระดับการกันน้ำ 5 ATM
- รองรับทั้งระบบปฏิบัติการ iOS และ Android
การออกแบบ
Huawei Band 8 มาพร้อมกับสายยาง การออกแบบเน้นความเรียบง่าย สวมใส่ได้ไม่ยาก คล้ายกับนาฬิกาทั่วไป เฟรมของตัวเครื่องเป็นสเตนเลสสตีล
ในด้านหนึ่งต้องบอกว่า Huawei Band 8 มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ 1.47 นิ้ว โดยที่หน้าจอเป็นลักษณะสี่เหลี่ยมผืนผ้าแบบแนวตั้ง สีสันค่อนข้างสดใส เพราะเป็นหน้าจอแบบ AMOLED ใช้งานกลางแดดได้ดี
...
ด้านข้างของตัวเรือนเป็นปุ่ม home สำหรับการใช้งานควบคุมทั่วไป เช่น เปิด-ปิดหน้าจอ
ฟีเจอร์เด่น Huawei Band 8
ในเรื่องของฟีเจอร์คงต้องบอกว่า Huawei Band 8 คงเป็นเรื่องของการตรวจสุขภาพการนอน โดย Huawei Band 8 ใช้เทคโนโลยี ที่มีชื่อว่า TrueSleep 3.0 ซึ่งตรวจจับได้ทั้งการนอนและการงีบระหว่างวัน ทั้งนี้ ข้อมูลที่ได้จากการตรวจจับการนอนแต่ละครั้ง ก็จะแบ่งเป็น Deep sleep, Light sleep, REM sleep และ Awake
ทางด้านโหมดออกกำลังกาย Huawei Band 8 รองรับการออกกำลังกายทั้งสิ้น 100 โหมด ครอบคลุมทั้งการวิ่ง ปั่นจักรยาน ว่ายน้ำ และกระโดดเชือก รวมถึง eSport ด้วย
เซนเซอร์ของ Huawei Band 8 เมื่อเทียบกับการใช้งานสมาร์ทวอตช์ พบว่า ตัวเลขที่ตรวจจับไม่แตกต่างกันมากนัก โดยเฉพาะในส่วนที่เป็น Heart Rate เมื่อมีการคาร์ดิโอในแต่ละโซน รวมถึงฟีเจอร์ SpO2 ซึ่งเป็นเซนเซอร์วัดความอิ่มของออกซิเจนในเลือด เพื่อเป็นข้อมูลอ้างอิงเบื้องต้นด้านสุขภาพ
...
ทางด้านการแจ้งเตือนถือว่าทำได้ดี เพราะรองรับภาษาไทยอย่างครบถ้วน ไม่เจอปัญหาสระลอย
แบตเตอรี่
หลังจากที่ลองใช้งานมาประมาณ 2 สัปดาห์ พบว่า เมื่อชาร์จแบตเตอรี่เต็ม 100% สามารถใช้งานได้ราวๆ 9 วัน ซึ่งส่วนนี้น่าจะขึ้นอยู่กับการใช้งานในแต่ละวันของผู้ใช้งานแต่ละคน โดยการชาร์จแบตเตอรี่เต็มประจำอยู่ที่ประมาณ 40-45 นาที
...
บทสรุป Huawei Band 8
นอกเหนือจากความสามารถที่กล่าวมาทั้งหมด การตั้งราคาของ Huawei Band 8 ก็ถือว่าตั้งราคาได้ดี ไม่แพงเกินไป ในระดับราคาที่พอเอื้อมถึงที่ 1,899 บาท ซึ่งนับเป็นข้อดีของฟิตเนสแบนด์รุ่นนี้ อีกด้านหนึ่งคงเป็นเรื่องการออกแบบที่สวมใส่สบาย ใช้งานได้ง่าย แม้ว่าจะอยู่กลางแดดก็ตาม
สุดท้ายเป็นเรื่องของแบตเตอรี่ใช้งานได้นานประมาณ 9 วัน หรือตามการทดสอบในห้องแล็บห้องหัวเว่ยถึง 14 วัน
แต่ข้อเสียของ Huawei Band 8 คงเป็นเรื่องของการเชื่อมต่อกับแอปพลิเคชันบุคคลที่ 3 โดยเฉพาะแอปพลิเคชันด้านสุขภาพชื่อดังอย่าง MyfitnessPal เป็นต้น