บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งไมโครซอฟท์ (Microsoft) ชี้ว่าแชตบอตอย่าง ChatGPT มีความสำคัญและจะกลายเป็นปรากฏการณ์ระดับเดียวกับที่เคยเกิดขึ้นกับอินเทอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล หรือ PC
บิล เกตส์ ผู้ร่วมก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ให้ความเห็นครั้งล่าสุดโดยครั้งนี้เป็นการพูดถึงแชตบอตยอดนิยม ซึ่งในที่นี้คงเป็นการกล่าวถึง ChatGPT ว่าจะมีความสำคัญในระดับเดียวกับที่โลกเคยได้สัมผัสกับอินเทอร์เน็ต และวิวัฒนาการของคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล (Personal Computer)
ในช่วงแรกของคอมพิวเตอร์ส่วนใหญ่จะยังไม่ใช่คอมพิวเตอร์สำหรับใช้งานส่วนบุคคล หากแต่เป็นคอมพิวเตอร์ที่ถูกใช้เฉพาะในองค์กรขนาดใหญ่ รัฐบาลของแต่ละประเทศต่างๆ รวมถึงในระดับมหาวิทยาลัย กระทั่งถูกออกแบบกลายเป็นคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลในช่วงยุค 80 ซึ่งมีไมโครซอฟท์ และแอปเปิล เป็นกลจักรสำคัญนี้
พร้อมกันนี้ บิล เกตส์ เชื่อว่าหัวข้อของปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence) จะกลายเป็นหัวข้อที่ร้อนแรงในการพูดคุยตลอดปี 2023
ในเวลานี้ บริษัทที่เกตส์เป็นผู้ก่อตั้งอย่างไมโครซอฟท์ ถือได้ว่าเป็นนักลงทุนรายใหญ่ของโอเพนเอไอ (OpenAI) ซึ่งเป็นผู้อยู่เบื้องหลังของ ChatGPT ตั้งแต่ปี 2019 ด้วยงบลงทุน 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และในปี 2023 มีการลงทุนให้โอเพนเอไอมากถึง 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยยูบีเอส (UBS) ธนาคารเพื่อการลงทุนของสวิตเซอร์แลนด์ ระบุว่า ChatGPT มีผู้ใช้งานทั่วโลกมากกว่า 100 ล้านคนในเดือนมกราคม 2023 ซึ่งเร็วกว่าแอปพลิเคชันยอดนิยมอย่างติ๊กต่อก (TikTok) และอินสตาแกรม (Instagram)
...
จากตัวเลขที่ยูบีเอสมีอยู่ในมือเวลานี้ เชื่อว่า ChatGPT น่าจะมีผู้เข้าใช้งานเฉลี่ยวันละ 13 ล้านคน แต่ตัวเลขการใช้งานก็อาจลดลงได้เรื่อยๆ ในอนาคตอันใกล้นี้ เมื่อกระแสความไฮป์ลดน้อยถอยลงไป
ที่น่าสนใจคือมีรายงานของดิ อินฟอร์เมชัน เคยเปิดเผยว่า ก่อนหน้าที่ไมโครซอฟท์จะลงทุนในโอเพนเอไอ ตัวของเกตส์ เคยตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับเทคโนโลยีของบริษัทดังกล่าว ก่อนที่จะร่วมวิเคราะห์กับไมโครซอฟท์ และยอมเปิดไฟเขียวการลงทุนในที่สุด
แน่นอนว่า ไม่ใช่บิล เกตส์ เพียงคนเดียวที่เห็นว่า ChatGPT จะกลายเป็นมิติใหม่ของวงการเทคโนโลยี นั่นเป็นเพราะว่า กูเกิล ยักษ์ใหญ่แห่งโลกเสิร์ชเอนจิน และวงการอินเทอร์เน็ต ก็สังเกตเห็นถึงภยันตรายของ ChatGPT ที่อาจส่งผลต่อพวกเขา ด้วยการเร่งพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใกล้เคียงกันในชื่อ Apprentice Bard
ทางด้านไมโครซอฟท์ ซึ่งเป็นบริษัทที่บิล เกตส์ เคยบริหารก็อยู่ระหว่างการนำองค์ความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ของโอเพนเอไอ และอาจรวมถึง ChatGPT มาอยู่ในเสิร์ชเอนจินของบิง (Bing)
ที่มา: Forbes, Business Insider, The Information