ในช่วงท้ายปี 2022 ที่เพิ่งผ่านพ้นไป ซัมซุง ได้ส่งสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ จับกลุ่มตลาดกลางในชื่อ Galaxy A23 5G สี Silver Bright
การมาของ Galaxy A23 5G Silver Bright ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท แต่รองรับการเชื่อมต่อไร้สาย 5G และสีของ Silver Bright ก็ค่อนข้างชวนสะดุดตา มีความแวววาว
ด้านขนาดของตัวเครื่องก็ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนตามสมัยนิยม มีขนาดหน้าจอใหญ่ 6.6 นิ้ว FHD+ มีรีเฟรชเรต 120Hz ทำงานด้วยชิปเซต Snapdragon 695
พร้อมกันนี้ ตัวเครื่องยังมีสิ่งที่น่าสนใจจากการที่ตัวเครื่อง Galaxy A23 5G มีช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ซึ่งเป็นสิ่งที่หาได้ยากในสมาร์ทโฟนรุ่นใหม่ๆ
การออกแบบ
Galaxy A23 5G Silver Bright เป็นการออกแบบโดยใช้การออกแบบที่เรียกว่า Unibody หรือวัสดุชิ้นเดียว มีความเรียบง่ายในการออกแบบ อีกทั้งการออกแบบซุ้มกล้องถือว่าดูดี โดยกล้องทั้งสามตัววางแนวตัวเรียงกันเป็นแนวตั้ง ประกอบไปด้วยกล้องอัลตราไวด์ 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์วัดระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล ถัดมาเป็นมาโคร 2 ล้านพิกเซล และแฟลชหนึ่งตัว
...
ด้านข้างของตัวเครื่องออกแบบให้มีลักษณะด้านๆ ตรงกันข้ามกับฝาหลัง ที่เป็นพลาสติก ที่แฝงไปด้วยความแวววาว สะดุดตา แต่ทุกการสัมผัสก็จะมีรอยนิ้วมือปรากฏเสมอ ซึ่งถ้าหากขัดใจกับรอยนิ้วมือก็อาจต้องเลือกซื้อสีอื่นแทน
ตัวเครื่องของ Galaxy A23 5G ใช้จอ LCD ขนาด 6.6 นิ้ว มีความละเอียดหน้าจอที่ 1080p รองรับรีเฟรชเรต 120Hz แม้ว่าตัวหน้าจอจะมีรอยบาก แต่ก็เป็นรอยบากที่สวยงดงามในลักษณะของหยดน้ำ ซึ่งในส่วนนี้ถือว่าทำได้สวยงามน่าประทับใจ
ในภาพรวมแล้วการออกแบบของ Galaxy A23 5G ถือได้ว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่ออกแบบมาได้ดี มีความคงทน แข็งแกร่ง เมื่อถือใช้งานในแต่ละวัน แต่ละชั่วโมง แต่ละนาที มีความกระชับ เหมาะและเข้ามือ
กล้องถ่ายภาพ
Galaxy A23 5G จัดเต็มด้วยกล้องหลังทั้งสิ้นจำนวน 4 ตัว ได้แก่ กล้องอัลตราไวด์ 5 ล้านพิกเซล กล้องหลัก 50 ล้านพิกเซล เซนเซอร์วัดระยะความลึก 2 ล้านพิกเซล ถัดมาเป็นมาโคร 2 ล้านพิกเซล
การถ่ายภาพในพื้นที่สภาวะแสงสลัวๆ ทำได้ไม่ค่อยดีสักเท่าไร พร้อมด้วยการประมวลผลที่ช้า และได้ผลลัพธ์ของรูปที่ออกมาไม่ดีนัก ในด้านการโฟกัสของภาพทำได้ค่อนข้างยาก ในบางครั้งพบกับวัตถุที่น่าสนใจ แต่โฟกัสทำได้ไม่ดีนัก สุดท้ายก็ต้องถ่ายรูปซ้ำๆ กันหลายต่อหลายครั้ง เพื่อให้ได้ความชัวร์ว่า จะได้ภาพที่ต้องการจริงๆ
แต่ถ้าหากถ่ายภาพในพื้นที่แสงปกติ มีแดด มีแสงจากพระอาทิตย์ ก็จะได้ภาพที่มีสีสันสมจริง มีรายละเอียด และไดนามิกที่ดี
...
...
ซอฟต์แวร์
...
ตัวเครื่องทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Android 12 แต่เมื่อซื้อเครื่องมาแล้วจะมีอัปเดตให้เป็น Android 13 พร้อมด้วยการทำงานของอินเตอร์เฟส One UI 5
ด้านการทำงานของซอฟต์แวร์ One UI 5 ถือว่าไหลลื่น โดยเฉพาะเรื่องของแอนิเมชัน มีไอคอนแอปใหม่ๆ ซึ่งเป็นการเพิ่มความแปลกหูแปลกตาให้กับผู้ใช้งานพอสมควร
แบตเตอรี่
Galaxy A23 5G มีขนาดความจุที่ 5,000 mAh จากการใช้งานในด้านโซเชียลมีเดีย และบริการสตรีมมิงต่างๆ ก็ถือว่าเพียงพอในแต่ละวัน นอกจากนี้ตัวเครื่องรองรับชาร์จไวที่ 25 วัตต์อีกด้วย
สรุป
Galaxy A23 5G Silver Bright วางจำหน่ายในราคา 9,999 บาท ซึ่งถือเป็นสมาร์ทโฟนระดับกลาง ค่อนไปทางระดับล่างเล็กน้อย แต่ก็ได้ฟังก์ชันการใช้งานอย่าง 5G รวมถึงการได้ใช้งาน Android 13 และ One UI 5 รุ่นใหม่ล่าสุด
นอกเหนือจากนี้ยังมีฟีเจอร์อย่างรีเฟรชเรต 120Hz กับชิปเซตของควอลคอมม์อย่าง Snapdragon 695 ซึ่งมีประสิทธิภาพค่อนข้างสูง และมีกล้องให้มากถึง 4 ตัว รวมถึงการออกแบบตัวเครื่องที่ทำได้ดี มีความกระชับเหมาะกับมือ ส่วนด้านหลังของตัวเครื่องที่แวววาว สะดุดตา แต่ก็มีปัญหานิดหน่อยตรงที่รอยนิ้วมือซึ่งจะเต็มอัดแน่นอยู่ในพื้นที่ด้านหลังของตัวเครื่อง
อย่างไรก็ตาม ตัวเครื่องของ Galaxy A23 5G Silver Bright ก็มีบางส่วนที่ขาดหายไป เช่น ฟีเจอร์มาตรฐานกันน้ำ-กันฝุ่น ซึ่งในราคาเกือบหมื่นแบบนี้น่าจะพอมีให้ติดตัวนิดๆ หน่อยๆ น่าจะดีกว่าไม่มีเลย ถือเป็นเรื่องที่น่าเสียดายพอสมควร แต่ก็จะได้เรื่องของช่องเสียบหูฟัง 3.5 มม. ที่ยังมีผู้ใช้งานจำนวนอีกไม่น้อยถวิลหาและต้องการสิ่งนี้
