การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด นอกจากทำให้คนจำนวนมากต้องสูญเสียงานเนื่องจากองค์กรได้รับผลกระทบแล้ว ในทางตรงกันข้าม มีพนักงานจำนวนมากที่ติดกับดักล็อกดาวน์และการต้องทำงานที่บ้าน เกิดภาวะเหนื่อยล้า หมดไฟ ตัดสินใจลาออก กลับคืนถิ่นฐานและไม่กลับเข้าสู่ระบบทำงานอีก สําหรับพนักงานยุคใหม่ การจัดการสภาพแวดล้อมและระบบการทำงานในรูปแบบไฮบริด กลายเป็นคำถามสำคัญที่พนักงานต้องถามองค์กรก่อนตัดสินใจร่วมงาน

ทวิพงศ์ อโนทัยสินทวี ผู้จัดการประจำประเทศไทย บริษัท นูทานิคซ์ ผู้ให้บริการคลาวด์โซลูชันและซอฟต์แวร์คลาวด์ เปิดเผยบทความ “ความท้าทายที่พนักงานต้องเผชิญในสถานที่ทำงานในอนาคต” ระบุ ได้มอบหมายให้ไอดีซี (IDC InfoBriefs) สำรวจอนาคตและการทำงานผ่านเครื่องมือดิจิทัล (digital workplace) พบว่า ความท้าทายหลักที่องค์กรต้องเผชิญ เกิดจากการระบาดของโควิด-19 และรูปแบบการทำงานใหม่ๆ ที่เกิดขึ้น การระบาดนี้ทำให้บริษัททั่วโลก 42% ให้ความสำคัญกับการปรับเปลี่ยนสถานที่ทำงาน และมุ่งสร้าง digital workplace ที่มีความยั่งยืนในระยะยาวรองรับอนาคต

และที่สำคัญคือการดึงดูดพนักงานให้อยู่กับองค์กรไปนานๆ ส่งเสริมให้บุคลากรมีสุขภาพจิต ที่ดีและต้องใช้โครงสร้างพื้นฐานไอทีที่แข็งแกร่งและยืดหยุ่น ที่จะช่วยให้บุคลากรสามารถทำงานจากระยะไกลได้อย่างมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับการทำงานในสำนักงาน

...

ในมุมของพนักงาน คำถามสำคัญที่ควรถามและสิ่งที่พนักงานควรรู้คือ นายจ้างมีจุดยืนอย่างไรเกี่ยวกับการทำงานในรูปแบบไฮบริด และมีแบบแผนในการสนับสนุนการพัฒนาและการเติบโตในอาชีพการงานอย่างไรบ้าง หากองค์กรนำรูปแบบการทำงานแบบผสมผสาน (ไฮบริด) มาใช้หรือต้องการให้พนักงานทำงานจากระยะไกลเท่านั้น พนักงานควรสอบถามเกี่ยวกับขั้นตอนการทำงานตามรูปแบบนั้นๆ ถามถึงวิธีการที่บริษัทจะให้การอบรมและโอกาสในการเรียนรู้ รวมถึงการจัดหาโครงสร้างพื้นฐานไอทีประเภทใดให้ ปัจจุบันการใช้แล็ปท็อป, โครงสร้างพื้นฐานเวอร์ชวลเดสก์ท็อป (VDI), เวอร์ชวลไพรเวทเน็ตเวิร์ก (VPN) และการเชื่อมต่ออินเตอร์เน็ต จะช่วยให้พนักงานทำงานได้เกือบทุกที่

สําหรับการฝึกอบรมระหว่างทำงาน ให้สอบถามว่านายจ้างว่ามีแนวทางในเรื่องนี้อย่างไร ใช้เครื่องมืออะไรเชื่อมต่อให้พนักงานสามารถสอบถามข้อมูลจากทีมงานและผู้บริหารได้ บริษัทให้การอบรมการใช้ระบบ ต่างๆที่ช่วยให้พนักงานหาคำตอบต่อคำถามได้ด้วยตนเองหรือไม่ พนักงานสามารถติดต่อกับสมาชิกในทีมที่มีประสบการณ์เพื่อถามคำถามได้โดยตรงหรือไม่ หรือต้องผ่านผู้ดูแลตามสายงานของพนักงานนั้นๆ

โดยองค์กรที่รองรับการทำงานแบบไฮบริดและการทำงานจากระยะไกลต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าพนักงานทุกคนมีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลและเครื่องมือดิจิทัลที่จำเป็นในการทำงานอย่างเท่าเทียม ไม่ว่าพนักงานจะอยู่ที่ใดก็ตาม

ภายในปี 2568 ไอดีซีคาดการณ์ว่า 55% ของบริษัทชั้นนำที่ติดอันดับ Global 2000 จะปรับรูปแบบการทำงาน ย้ายสถานที่หรือสร้างสิ่งอำนวยความสะดวกในสำนักงาน เพื่อให้สามารถคุ้มครองสุขภาพและรักษาความต่อเนื่องในการดำเนินงานได้ดียิ่งขึ้น โดยภารกิจสำคัญอีกอย่างคือการช่วยให้พนักงานเอาชนะความเหนื่อยล้าและภาวะหมดไฟ

ซึ่งหากทำงานอยู่ในสำนักงานก็จะสามารถระบุปัญหาและให้ความช่วยเหลือได้ง่ายกว่า อย่างไรก็ตาม สามารถทำเช่นนั้นกับพนักงานที่ทำงานจากที่บ้านได้เช่นกัน โดยสร้างสภาพแวดล้อมที่เป็นมิตรผ่านการเชื่อมต่อระยะไกล จำลองการมีส่วนร่วมเชิงสร้างสรรค์ในลักษณะเดียวกับที่เกิดขึ้นในสำนักงานได้ เช่น การพบปะสังสรรค์ในช่วงบ่ายทุกๆไตรมาส มีกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์ เช่น พูดคุยและดื่มกาแฟร่วมกันผ่านวิดีโอเป็นประจำทุกเดือน สิ่งเหล่านี้จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าตนเองได้รับการสนับสนุนจากที่ทำงาน

อีกหนึ่งความท้าทายและโอกาสที่มาพร้อมกับสถานที่ทำงานแห่งอนาคตก็คือการแนะนำให้พนักงานสูงวัยได้เข้าถึงเทคโนโลยีที่ไม่เคยใช้มาก่อน ซึ่งอาจเป็นเรื่องน่าหวาดหวั่นสําหรับคนรุ่นเก่าที่ไม่คุ้นเคยกับเทคโนโลยีดิจิทัล องค์กรจึงต้องดำเนินการในเรื่องนี้ด้วยความรอบคอบและเอาใจเขามาใส่ใจเรา จัดฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องและการจัดพื้นที่พิเศษเพื่อให้พนักงานได้ซักถามเกี่ยวกับประเด็นเรื่องเทคโนโลยี นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยส่งเสริมขวัญกำลังใจและการมีส่วนร่วมของพนักงานอาวุโส.