การเปิดเผยของสำนักข่าวเทคครันช์ และ Qustodio เปิดเผยว่า เด็กและวัยรุ่น ใช้เวลารับชมวิดีโอบนแพลตฟอร์มติ๊กต่อก มากกว่ายูทูบ โดยเริ่มมีจุดเปลี่ยนครั้งแรกในเดือนมิถุนายน 2020
ความร้อนแรงของแอปพลิเคชันติ๊กต่อก ซึ่งเริ่มมีบทบาทอย่างมากนับตั้งแต่การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ส่งผลให้ติ๊กต่อกเริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น และเป็นผู้สร้างเทรนด์วิดีโอขนาดสั้น ส่งผลให้ยักษ์ใหญ่อย่างเมตา และยูทูบ ต้องมีผลิตภัณฑ์ในส่วนนี้ออกมาแข่งกับติ๊กต่อก
จากการรายงานข้อมูลล่าสุดของสำนักข่าวเทคครันช์ร่วมกับ Qustodio เผยข้อมูลที่น่าสนใจ นั่นคือ กลุ่มผู้ใช้งานที่เป็นเด็กและวัยรุ่น เริ่มหันมาใช้เวลากับแอปพลิเคชันติ๊กต่อกมากกว่ายูทูบแล้ว
ในรายงานดังกล่าวระบุว่า จุดเปลี่ยนของการแข่งขันในธุรกิจผู้ให้บริการวิดีโอเริ่มต้นขึ้นในช่วงเดือนมิถุนายนของปี 2020 เวลานั้นติ๊กต่อกเริ่มมีอันดับของผู้ใช้งานที่สูงกว่ายูทูบ ในแง่ของจำนวนนาทีเฉลี่ยต่อวันของผู้ใช้งานที่มีอายุ 4-18 ปี โดยในฝั่งของติ๊กต่อกมีผู้ใช้งานราว 82 นาทีต่อวัน ส่วนยูทูบ 75 นาทีต่อวัน
รายงานที่จัดทำร่วมกันของเทคครันช์ และ Qustodio บอกอีกด้วยว่า ตลอดปี 2020 ติ๊กต่อกยังเป็นฝ่ายกำชัยเหนือยูทูบ ในกลุ่มของผู้ใช้งานที่มีอายุน้อย จนกระทั่งในปี 2021 ตัวเลขการรับชมติ๊กต่อกของผู้ใช้งานในกลุ่มเด็กและวัยรุ่นได้เพิ่มเป็นเฉลี่ย 91 นาทีต่อวัน และยูทูบหดเหลือ 56 นาทีต่อวัน
ทั้งนี้ Qustodio ซึ่งเป็นผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ควบคุมการใช้งานแอปพลิเคชันสำหรับผู้ปกครอง โดยได้มีการวิเคราะห์การใช้งานจากครอบครัว 4 แสนครอบครัว ที่มีบัญชีของ Qustodio ทำให้ตัวเลขที่ได้ออกมาไม่ใช่ตัวเลขที่มาจากการประมาณการ แต่มาจากการใช้งานจริง
...
ที่น่าสนใจอีกประการหนึ่ง นั่นคือ ตัวเลขดังกล่าวที่ Qustodio รวบรวมมา พบว่า ในสหรัฐอเมริกา, สหราชอาณาจักร และสเปน ทั้งสามประเทศล้วนมีการใช้งานติ๊กต่อกที่สูงกว่ายูทูบทั้งสิ้น
อย่างไรก็ตาม ยูทูบ ถือเป็นแพลตฟอร์มที่มีขนาดใหญ่ และตลาดของยูทูบก็มีความทับซ้อนกับคู่แข่งรายอื่น เช่น ธุรกิจสตรีมมิง ทั้งนี้ ยูทูบยังมีการรับชมมากกว่า ดิสนีย์พลัส (47 นาที), เน็ตฟลิกซ์ (45 นาที), แอมะซอน ไพรม์ (40 นาที) และทวิตช์ (20 นาที) ทั้งหมดนี้อาจกล่าวได้ว่าเป็นข่าวดีเล็กๆ ของยูทูบ
ที่มา: TechCrunch