เมตา (Meta) ตัดสินใจชะลอแผนการจ้างงานเพิ่มเติมในช่วงที่เหลือของปี 2022 โดยให้เหตุผลว่า เป็นเพราะการเปลี่ยนแปลงนโยบายความเป็นส่วนตัวของแอปเปิล (Apple)

รายงานของสำนักข่าวบิสซิเนส อินไซเดอร์ เปิดเผยว่า เอกสารภายในของเมตาที่ส่งถึงพนักงานทุกคน ได้มีการพูดถึงโครงการของบริษัทในระยะสั้นและระยะกลางต้องถูกนำมาพิจารณาใหม่อีกครั้ง รวมถึงการจัดลำดับความสำคัญของงานใหม่ นั่นเป็นเพราะการเติบโตของบริษัทมีรายได้น้อยกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้

ในเอกสารดังกล่าว ระบุว่า เดวิด เวห์เนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเงินของเมตา กล่าวโทษนโยบาย App Tracking Transparency หรือ ATT ของแอปเปิล ซึ่งทำให้รายได้ของบริษัทเติบโตได้ช้าในไตรมาสแรกของปี 2022 ที่เพิ่งประกาศออกมาเมื่อไม่นานนี้

ดังนั้นแล้ว เมื่อรายได้ไม่เป็นไปตามเป้าที่ถูกวางเอาไว้ก่อนหน้านี้ จึงทำให้เมตาต้องชะลอแผนการจ้างงานใหม่ๆ ในช่วงระยะเวลาที่เหลือของปี 2022

อย่างไรก็ตาม เวห์เนอร์ มองโลกในแง่ดีว่า เมตามีโอกาสผ่านพ้นปัญหาเหล่านั้นได้ โดยเฉพาะการประสานเอาปัญญาประดิษฐ์ หรือเอไอ เข้ามาช่วยธุรกิจ เพื่อลดความสูญเสียที่เกิดขึ้นไปแล้วจากนโยบาย ATT ของแอปเปิล

สำหรับนโยบาย ATT ของแอปเปิลเริ่มต้นขึ้นในปี 2020 โดยผู้ใช้งานสามารถเลือกได้ว่า ต้องการให้มีการติดตามข้อมูลการใช้งานของตัวเองหรือไม่ ขณะที่ใช้งานระบบปฏิบัติการ iOS ถ้าหากเลือกไม่ให้มีการติดตามก็จะเป็นเรื่องยากสำหรับเมตาทันที เพราะพวกเขาไม่สามารถระบุการกำหนดโฆษณาไปยังผู้ใช้งานรายนั้นได้

อย่างไรก็ดี เมตา เคยซื้อโฆษณาในนิวยอร์ก ไทมส์, วอลล์ สตรีท เจอร์นัล และวอชิงตัน โพสต์ โดยชี้ให้เห็นว่า นโยบาย ATT ของแอปเปิล ส่งผลอย่างหนักต่อธุรกิจขนาดเล็ก และพวกเขาเหล่านั้นอาจต้องปิดกิจการ

...

ทางด้านแอปเปิล นำโดยทิม คุก ซีอีโอของบริษัท ออกมาปกป้องนโยบาย ATT และถือว่า เป็นทิศทางที่ถูกต้องแล้วของบริษัท เพราะเป็นการปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้งาน และกล่าวต่อไปว่า แม้แอปเปิลจะเปิดการใช้นโยบาย ATT ก็จริง แต่เมตาก็ยังสามารถติดตามข้อมูลผู้ใช้งานได้อยู่ดี เพียงแต่ ATT ทำให้ผู้ใช้งานมีทางเลือกมากขึ้น

ที่มา: Business Insider