พนักงานจำนวนมากของทวิตเตอร์ (Twitter) กังวลถึงความมั่นคงในตำแหน่งหน้าที่การงาน โดยเฉพาะในยุคของอีลอน มัสก์ (Elon Musk)

ปารัก อักราวัล (Parag Agrawal) ซีอีโอของทวิตเตอร์ เปิดให้มีการประชุมของพนักงานทั้งบริษัท เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐฯ แน่นอนว่า หัวข้อสำคัญในการพูดคุยครั้งนี้ อยู่ที่การเข้ามาเทคโอเวอร์บริษัทภายใต้การนำของอีลอน มัสก์

ประเด็นที่พนักงานจำนวนไม่น้อยตั้งคำถามส่งมายังซีอีโอเป็นเรื่องของแผนการรับมือของบริษัทในกรณีที่พนักงานลาออกเป็นจำนวนมาก ทันทีที่อีลอน มัสก์ ย่างเท้าเข้ามาสู่บริษัท

ผู้บริหารตอบในประเด็นที่ถูกถามข้างต้นว่า จะมีการมอนิเตอร์เรื่องนี้อย่างจริงจัง แต่ในเวลานี้ยังเร็วเกินไปที่จะบอกได้ว่าข้อตกลงการซื้อกิจการของมัสก์ ส่งผลต่อพนักงานของบริษัทอย่างไรบ้าง

ระหว่างการประชุม อักราวัล กระตุ้นให้พนักงานมองโลกในแง่ดีว่า การเปลี่ยนแปลงภายใต้ผู้นำคนใหม่ บริษัทอาจมีหลายสิ่งหลายอย่างที่ดีขึ้น

หลังจากนั้น มีหนึ่งในพนักงานส่งคำถามตรงมายังปารัก อักราวัลว่า เขาเบื่อที่จะได้ยินเรื่องของคุณค่าของผู้ถือหุ้นและเรื่องของความไว้วางใจ แต่สิ่งเขาสนใจตอนนี้คือฝ่ายบริหารคิดอย่างไรกับการที่พนักงานอีกมากจะไม่มีงานทำ เมื่อการเข้าซื้อกิจการสำเร็จเสร็จสิ้น

ประเด็นนี้ อักราวัล ตอบว่า ทวิตเตอร์ห่วงใยพนักงานเสมอมาและจะเป็นแบบนั้นต่อไป อีกทั้งองค์กรที่มีชื่อว่า ทวิตเตอร์ ในอนาคตจะยังคงสนใจผลกระทบที่มีต่อโลกใบนี้และผู้ใช้งานต่อไป

พร้อมกันนี้ ฝ่ายบริหาร กล่าวในที่ประชุมว่า อัตราการลาออกของพนักงานไม่มีการเปลี่ยนแปลงมากนัก เมื่อเทียบกับก่อนหน้าที่จะมีข่าวการเข้ามาของอีลอน มัสก์

...

อย่างไรก็ดี ในประเด็นการปลดพนักงานเพื่อลดต้นทุนบริษัทนั้น อีลอน มัสก์ ได้กล่าวเรื่องนี้กับสถาบันการเงิน ซึ่งเป็นผู้ปล่อยกู้เงินให้กับมัสก์สำหรับการเข้าเทคโอเวอร์ทวิตเตอร์ โดยแหล่งข่าวย้ำว่า มัสก์ ไม่ดำเนินการใดๆ จนกว่าจะได้เป็นเจ้าของทวิตเตอร์อย่างสมบูรณ์

ในเวลาเดียวกัน พนักงานทวิตเตอร์บอกกับฝ่ายบริหารว่า พวกเขากังวลถึงพฤติกรรมอันเอาแน่เอานอนของอีลอน มัสก์ ไม่ได้ ซึ่งนั่นอาจทำให้ธุรกิจของทวิตเตอร์ต้องสั่นคลอน และกระทบกระเทือนถึงสถานะทางการเงินของบริษัท

ต่อมาเป็นประเด็นเรื่องของการสื่อสารและภาพลักษณ์องค์กร ซึ่งคนที่ตอบคำถามนี้เป็นซาราห์ เพอร์โซเน็ตต์ เจ้าของตำแหน่งหัวหน้าฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ของทวิตเตอร์ ระบุว่า บริษัทจะมีการสื่อสารกับลูกค้า เพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่พวกเขาว่า วิธีการบริการของทวิตเตอร์ยังคงเหมือนเดิมไม่มีการเปลี่ยนแปลง

สิ่งที่น่าสนใจเป็นเรื่องหลังจากนี้ เมื่อสำนักข่าวเดอะ การ์เดียน อ้างว่า มีพนักงานของทวิตเตอร์ บอกกับนักข่าวของรอยเตอร์ว่า เขาแทบไม่มั่นใจในสิ่งที่ผู้บริหารได้บอกกับพวกเขาเลย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานด้วยว่า ปารัก อักราวัล ซีอีโอ จะได้รับเงินก้อนโตเป็นจำนวน 42 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ถ้าหากเขาถูกปลดจากตำแหน่งภายใน 12 เดือน

สำหรับประเด็นทั้งหมด ทวิตเตอร์ ปฏิเสธที่จะให้ความคิดเห็นใดๆ เพิ่มเติม

ในช่วงที่ผ่านมา อีลอน มัสก์ ก็มีประเด็นบนโลกทวิตเตอร์อย่างต่อเนื่อง ทั้งการที่ตัวเขาส่งสัญญาณว่า ไม่เห็นด้วยกับการเซนเซอร์ ซึ่งเป็นการปิดกั้นการแสดงออก ไปจนถึงการเสนอความคิดเห็นว่า ทวิตเตอร์ควรมีการเข้ารหัสแบบ end-to-end ในฟีเจอร์ Direct Message (DM) ซึ่งเรื่องนี้ทำให้เกิดความกังวลว่า กลุ่มอาชญากรหรือพวกสุดโต่งกระทำการอาชญากรรมได้ง่ายขึ้น

ที่มา: The Guardian