อีลอน มัสก์ ซีอีโอเทสลา (Tesla) และสเปซเอ็กซ์ (SpaceX) แสดงออกถึงความไม่พอใจต่อแพลตฟอร์มทวิตเตอร์ (Twitter) จนมีโอกาสที่จะได้เห็นการสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเอง

สัปดาห์ที่แล้ว อีลอน มัสก์ (Elon Musk) ผู้บริหารระดับสูงขององค์กรชั้นนำหลายแห่งของโลก ครอบคลุมทั้งงานด้านอวกาศ, รถยนต์ไฟฟ้า ไปจนถึงเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ได้สำรวจความคิดเห็นผ่านการใช้งานฟีเจอร์โพลในทวิตเตอร์ ผ่านบัญชี @elonmusk

อีลอน มัสก์ เริ่มจุดประเด็นด้วยการพูดถึงความไม่เป็นเสรีประชาธิปไตยของทวิตเตอร์ และอยากให้มีการเปลี่ยนแปลงในจุดนี้ อีกทั้งตัวของอีลอน มัสก์ ได้ทวีตในเธรด (Thread) ถัดไปว่า อยากให้ผู้ติดตามของเขาลงความเห็นในโพลนี้ด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากผลที่ตามมาของการสำรวจความคิดเห็นจะมีความสำคัญอย่างยิ่ง

อันที่จริง อีลอน มัสก์ ก็เคยใช้ฟีเจอร์โพลของทวิตเตอร์ในการถามความเห็นของผู้ติดตามของเขา โดยเฉพาะในกรณีการขายหุ้น 10 เปอร์เซ็นต์ของเทสลา

การสำรวจความคิดเห็นของอีลอน มัสก์ เสร็จสิ้นไปแล้ว โดยมีผู้เข้าร่วมโหวตเป็นจำนวนกว่า 2 ล้านคน ซึ่งเสียงส่วนใหญ่เป็นจำนวน 70.4 เปอร์เซ็นต์ เชื่อว่า ทวิตเตอร์ไม่ได้ยึดหลักเสรีภาพในการแสดงความคิด-ความเห็น ซึ่งจำเป็นต่อระบอบประชาธิปไตย

อย่างไรก็ดี หนึ่งในผู้ติดตามของอีลอน มัสก์ ถามว่า อีลอน มัสก์ มีแนวคิดที่จะสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียของตัวเองหรือไม่ โดยอาจเป็นแพลตฟอร์มที่มาพร้อมกับอัลกอริทึมแบบโอเพนซอร์ส และให้ความสำคัญต่อเสรีภาพในการแสดงออก

ประเด็นดังกล่าว อีลอน มัสก์ ยอมรับว่า เขามีความคิดจริงจังในเรื่องนี้

ขณะที่ ความเห็นบางส่วนเสนอให้อีลอน มัสก์ เข้าซื้อกิจการของทวิตเตอร์ไปเลย ซึ่งตัวเขาก็ไม่ได้ปฏิเสธแนวความคิดนี้

...

ในอดีตอีลอน มัสก์ เคยเป็นหนึ่งในผู้ร่วมก่อตั้งเพย์พาล (Paypal) บริการด้านการเงิน ซึ่งนั่นเป็นบริษัทเดียวของเขาที่มีความใกล้เคียงกับทวิตเตอร์ ถึงกระนั้นแล้ว โซเชียลมีเดีย ก็ดูจะเป็นธุรกิจที่ไม่ได้อยู่ในขอบเขตความสนใจทั่วไปของเขามากนัก

การสร้างแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียที่เน้นเรื่องของเสรีภาพการแสดงออก มีการกระจายอำนาจ (Decentralized) และปราศจากโฆษณา ไม่ได้เป็นของใหม่มากนัก เนื่องจากทุกวันนี้ มีโซเชียลมีเดีย ซึ่งดำเนินงานในลักษณะดังกล่าวไม่น้อย เช่น Diaspora และ Steemit เป็นต้น แต่ก็มีเครื่องหมายคำถามว่า ถ้าหากมีชุมชนผู้ใช้งานมากขึ้น แพลตฟอร์มเหล่านี้ จะยังรับมือได้ดีเหมือนเดิมหรือไม่

ที่มา: Mashable