รีวิว Microsoft Surface Pro 8 แท็บเล็ตและแล็ปท็อปในเครื่องเดียว

Microsoft Surface Pro 8 เป็นแท็บเล็ตที่มาพร้อมกับ Windows 11 ระบบปฏิบัติการลำดับล่าสุดของไมโครซอฟท์ (Microsoft)

หลังจากที่ได้ลองใช้งาน Microsoft Surface Pro 8 สักระยะหนึ่ง แท็บเล็ตรุ่นนี้ ถือว่าค่อนข้างพกง่ายและสะดวกมากทีเดียว เพราะมีน้ำหนักที่ไม่มากนักแค่ 891 กรัม บนขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ซึ่งเมื่อนำมาประกบกับอุปกรณ์เสริมอย่าง Microsoft Surface Pro Signature Keyboard และ Microsoft Surface Slim Pen 2 ก็ไม่ได้ทำให้หนักขึ้นกว่าเดิมสักเท่าไร ดังนั้นแล้ว พกพาสบาย ไม่ลำบาก

การออกแบบ

ตัวเครื่องมีการออกแบบที่ดูมีความทันสมัย สิ่งที่ชอบในการออกแบบของ Microsoft Surface Pro 8 คงเป็นเรื่อง Kickstand ที่มีความคงทน ดูแข็งแรง ใช้กางและพับได้เกือบ 180 องศา ปรับใช้งานตามรูปแบบของการทำงาน

อันที่จริงต้องบอกด้วยว่า Microsoft Surface Pro 8 ที่มีขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ความละเอียด 2880x1920 พิกเซล จุดที่ดีคือมีการรองรับรีเฟรชเรต 120Hz ซึ่งเป็นฟีเจอร์สำคัญและเห็นได้บ่อยในสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์

พอร์ตการเชื่อมต่อของ Microsoft Surface Pro 8 มีให้มาเยอะทีเดียว ทั้ง USB Type-C และช่องเสียบหูฟัง แต่น่าเสียดายนิดหน่อยตรงที่ไม่มีช่องเสียบ microSD

ฮาร์ดแวร์

Microsoft Surface Pro 8 มาพร้อมกับชิปเซตอินเทล Gen 11 Evo โดยรุ่นที่ได้มารีวิวนี้เป็นชิป i7 พร้อมด้วยระบบระบายความร้อนที่ทำได้ดี สามารถใช้งานตัวเครื่องหนักๆ ก็ไม่ได้รู้สึกร้อนจี๋

หากผู้ใช้งานต้องการใช้งาน Microsoft Surface Pro 8 ให้อยู่ในรูปแบบของแล็ปท็อปก็สามารถทำได้ เพียงแต่ว่า ผู้ใช้งานต้องซื้ออุปกรณ์เสริมอย่าง Microsoft Surface Pro Signature Keyboard ซึ่งข้อเสียของมันก็คือ ส่วนนี้ต้องซื้อแยกไม่รวมอยู่กับแพ็กเกจ Surface Pro 8 ในราคา 6,990 บาท และถ้าหากต้องการปากกา Microsoft Surface Slim Pen 2 ด้วยจะเป็นอีกราคาหนึ่ง ขายที่ 9,990 บาท

ตัวเครื่องมาพร้อมกับกล้องหน้าและกล้องหลัง โดยที่กล้องหลังมีความละเอียด 10 ล้านพิกเซล แต่เอาเข้าจริงแล้ว เวลาใช้งานได้จริงก็ไม่ค่อยได้ใช้งานกล้องหลังสักเท่าไร เพราะสิ่งที่ได้ใช้เป็นประจำกลับเป็นส่วนกล้องหน้าที่มีความละเอียด 5 ล้านพิกเซล

การใช้งานกล้องหน้าก็คงไม่ต้องเดาว่า ใช้สำหรับการประชุมผ่าน Zoom หรือ Google Meet ส่วน Microsoft Teams บอกตามตรงไม่ค่อยได้ใช้งานเท่าไร จึงทำให้ในช่วงที่ได้ใช้งาน Microsoft Surface Pro 8 แทบไม่มีโอกาสได้เปิดแอปพลิเคชัน Teams

ภาพรวมการใช้กล้องหน้าของ Microsoft Surface Pro 8 ในระหว่างการประชุมถือว่าโอเค ทำได้ดีพอสมควรในสภาวะแสงน้อย แต่ในมุมมองกลับกัน ในการประชุมออนไลน์ ผู้ใช้งานก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะต้องมีกล้องหน้าที่คมชัดอยู่แล้ว เพราะขอแค่ให้เห็นหน้าค่าตาก็เป็นอันใช้ได้

ซอฟต์แวร์

Microsoft Surface Pro 8 ทำงานภายใต้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 จากโรงงาน ซึ่ง Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการที่ไมโครซอฟท์มีการปรับแต่งให้มีความทันสมัย มีการตอบสนองที่ฉับไว อีกทั้งยังออกแบบมาเพื่อรับกับระบบทัชสกรีน

สามารถอ่านรีวิว Windows 11 ได้ที่นี่: รีวิว Windows 11 ระบบปฏิบัติการใหม่จาก Microsoft สวยขึ้น แต่ไส้ในยังเป็น Windows 10

อุปกรณ์เสริม

Microsoft Surface Pro Signature Keyboard วัสดุทำมาจากคาร์บอนไฟเบอร์ ซึ่งถ้าดูจากชื่อวัสดุก็ถือว่าแข็งแรงทนทาน ระบบการสัมผัส การพิมพ์ ทำได้ดี น่าประทับใจ

ระบบทัชแพด (Touchpad) มีการตอบสนองที่ว่องไว ไม่หน่วง แม้ว่าเวลาที่เรากดทัชแพดจะได้ยินเสียงกลไกอยู่บ้าง แต่ก็ไม่ได้ทำให้รู้สึกรำคาญใจมากนัก

แม้ว่า Microsoft Surface Pro Signature Keyboard จะทำงานได้ดี แต่ต้องอธิบายไว้ตรงนี้ว่า มันเป็นอุปกรณ์เสริม ไม่ได้มาพร้อมกับแพ็กเกจของ Microsoft Surface Pro 8

ดังนั้นแล้ว ผู้ใช้งานต้องเสียเงินเพิ่มหากต้องการใช้งานอุปกรณ์เสริมชิ้นนี้ โดยเฉพาะถ้าหากต้องการใช้งาน Microsoft Surface Pro 8 ในลักษณะของการเป็นแล็ปท็อป ไม่ใช่แค่แท็บเล็ต

สรุปก็คือ ราคาของอุปกรณ์เสริม Microsoft Surface Pro Signature Keyboard ถ้าเป็นรุ่นที่ไม่มีปากกา วางจำหน่ายที่ 6,990 บาท แต่ถ้ามี Microsoft Surface Slim Pen 2 ราคาจะขึ้นไปที่ 9,990 บาท 

แบตเตอรี่

รีเฟรชเรตของ Microsoft Surface Pro 8 จะถูกตั้งค่าเริ่มต้นไว้ที่ 60Hz เพื่อเป็นการประหยัดแบตเตอรี่

เมื่อพูดถึงความสามารถในการจัดการพลังงานของ Microsoft Surface Pro 8 ถือว่าอยู่ในระดับที่ใช้ได้ แม้ว่าจากที่ใช้งานจริงจะไม่สามารถใช้ได้ยาวนาน 16 ชั่วโมง เหมือนกับที่ไมโครซอฟท์ เขียนเอาไว้ในสเปกชีต

ในภาพรวมการใช้งานอยู่ในระดับ 10 ชั่วโมงสบายๆ เพียงแต่ว่า ถ้าเปิดรีเฟรชเรต 120Hz การใช้งานจะใช้ได้นานราวๆ 7 ชั่วโมง

ราคา

นอกเหนือจากข้อเสียที่ไมโครซอฟท์ ไม่ได้แถม Microsoft Surface Pro Signature Keyboard มาให้กับแพ็กเกจของ Microsoft Surface Pro 8 ราคาตั้งต้นของตัวเครื่องอยู่ที่ 39,590 บาท ถือว่า สูงเอาเรื่อง จึงอาจนับเป็นข้อเสียอีกข้อหนึ่งได้เหมือนกัน หากเทียบกับแท็บเล็ตไฮเอนด์ของคู่แข่ง ซึ่งทำระดับราคาได้ถูกกว่า

สรุป

อย่างหนึ่งที่ปฏิเสธไม่ได้ว่า Microsoft Surface Pro 8 เป็นแท็บเล็ตที่ดีรุ่นหนึ่งของไมโครซอฟท์ มีพอร์ตเชื่อมต่อรองรับมากมาย มีชิปเซตที่แรงเอาเรื่อง แบตเตอรี่ที่เยอะเพียงพอต่อการทำงานปกติประจำวัน อีกทั้งถ้าหากเรามีทุนทรัพย์พอที่จะซื้ออุปกรณ์เสริม ก็ยิ่งทำให้การใช้งานเต็มอิ่มมากขึ้น

แต่ก็ด้วยราคาเริ่มต้นของ Microsoft Surface Pro 8 ไม่ได้อยู่ในระดับที่ถูกมาแต่แรกที่ราคา 39,590 บาท พอต้องซื้ออุปกรณ์เสริมเพื่อให้ครบหลักสูตรการใช้งาน จึงยิ่งเป็นการเพิ่มงบประมาณของผู้ใช้งานให้บานปลายขึ้นไปอีก

สำหรับกลุ่มผู้ใช้งานที่เหมาะกับ Microsoft Surface Pro 8 ถ้าให้ประเมิน ก็มีค่อนข้างหลากหลายกลุ่มผู้ใช้งานทีเดียว ทั้งนักพัฒนา สายงานครีเอทีฟ และนักออกแบบ เป็นต้น

สเปก Microsoft Surface Pro 8

• ขนาดหน้าจอ 13 นิ้ว ความละเอียด 2880x1920 พิกเซล รองรับรีเฟรชเรต 120Hz
• ชิปประมวลผล Intel Evo Core i5 หรือ i7
• ชิปกราฟิก Intel Iris Xe
• ระบบปฏิบัติการ Windows 11
• RAM มีให้เลือก 8GB, 16GB และ 32GB
• พื้นที่หน่วยความจำเครื่อง 128GB, 256GB, 512GB และ 1TB
• กล้องหลัง 10 ล้านพิกเซล และกล้องหน้า 5 ล้านพิกเซล