เป็นที่ทราบกันดีว่า ระบบปฏิบัติการ Windows 11 เป็นระบบปฏิบัติการลำดับล่าสุดของไมโครซอฟท์ (Microsoft) โดยมีการปรับแต่งหน้าตาให้ดูต่างจากระบบปฏิบัติการก่อนหน้านี้อย่าง Windows 10 พอสมควร

อันที่จริง คงต้องบอกว่า ระบบปฏิบัติการ Windows 11 มีความใหม่ในหลายแง่ ทั้งการออกแบบ ความสวยงาม มีสีสัน และอินเตอร์เฟสที่โปร่งแสง เน้นความโค้งมน ชวนให้รู้สึกเหมือนกับยุคของ Windows 7 อยู่บ้าง

Start Menu ที่ย้ายมาตรงกลาง
Start Menu ที่ย้ายมาตรงกลาง



สิ่งที่เห็นเป็นอย่างแรกๆ นั่นคือ การจัดวางเมนู หรือที่เราเรียกว่า Start Menu ได้ย้ายจากมุมซ้ายล่างมาอยู่ตรงกลาง เพียงแต่ว่าสิ่งนี้เป็นการเปลี่ยนแปลงเพียงส่วนหนึ่งเท่านั้นของ Windows 11 แต่เป็นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดที่สุดนั่นเอง

เมื่อเรากดที่ start menu ก็จะพบกับบรรดาแอปพลิเคชันรอให้เราใช้งาน ซึ่งสามารถเรียกใช้ได้เลย แต่ถ้าเรารู้สึกว่า แอปไหนไม่ได้ใช้งานก็สามารถ unpin ออกไปได้เช่นกัน หรืออยากใช้งานแอปไหนก่อนก็ขยับเลื่อนขึ้นมาได้ นอกจากนี้ยังมีส่วน recommendation ที่จะแนะนำไฟล์ที่เราเพิ่งใช้งานเมื่อเร็วๆ นี้แสดงผลอยู่ใกล้ๆ กัน

...

การปรับแต่ง Taskbar ทำได้ง่ายๆ
การปรับแต่ง Taskbar ทำได้ง่ายๆ



ในเรื่องของ Start Menu ถ้าหากเราไม่ชอบให้มันอยู่ตรงกลาง ก็สามารถปรับเปลี่ยนไปให้อยู่มุมซ้ายล่างเหมือนเดิมได้ ด้วยการไปที่ Setting > Personalization > Taskbar behaviors > เลือกจาก Center ไปเป็น Left

กรณีที่อยากปรับ Taskbar ก็ทำได้ง่ายๆ แค่คลิกขวาตรงพื้นที่ Taskbar แล้วเลือก Taskbar setting

การจัดการของ Windows 11

สิ่งที่น่าประทับใจอย่างหนึ่งของ Windows 11 คงเป็นเรื่องของการจัดหมวดหมู่ เพราะว่ามีการแบ่งให้อย่างชัดเจน โดยมีการแบ่งหน้าของการทำงาน ความบันเทิง หรืออื่นๆ ที่เราสามารถสร้างขึ้นมาเองได้ ซึ่งน่าจะตอบโจทย์คนที่ชอบทำงานแบบมัลติทาสก์ ที่สามารถจัดระเบียบหน้าต่างแต่ละหน้าต่างได้ดีทีเดียว

รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์
รองรับการทำงานแบบมัลติทาสก์



พร้อมกันนี้ เวลาที่เราเอาเมาส์ไปวางนิ่งๆ ไว้ที่ maximize button เราสามารถเลือกป๊อปอัปบนหน้าจอได้หลากหลายรูปแบบ จะแบ่งหน้าจอการทำงานเป็นอย่างละครึ่งๆ ก็ได้ แบ่งเป็นสามส่วน สี่ส่วน ซึ่งถือเป็นสิ่งที่ดีและชอบมากๆ ของ Windows 11

ระบบ Widget ใหม่บน Windows 11

วิดเจ็ตของ Windows 11 ซึ่งเป็นค่าเริ่มต้นก็คือกลุ่มแอปพลิเคชันที่พัฒนาโดยไมโครซอฟท์ ถ้าหากใครที่ใช้งานผลิตภัณฑ์เหล่านี้อยู่แล้ว เช่น Outlook, To Do ก็เรียกใช้งานได้ง่าย

พร้อมกันนี้ ในหมวดหมู่ข่าวสารเราก็สามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ เพื่อให้การนำเสนอตรงใจเราให้มากที่สุด เช่นเดียวกับหุ้น สภาพอากาศ ผลการแข่งขันกีฬา

กระนั้นแล้ว วิดเจ็ตของ Windows 11 ก็มีให้เลือกตามที่บอกไว้ข้างต้น ไม่ได้มีมากไปกว่านี้ ถึงที่สุดแล้ว มันคงเป็นเรื่องที่ดีมากๆ ถ้าท้ายที่สุดแล้ว ไมโครซอฟท์ จะเปิดโอกาสให้นักพัฒนาสามารถพัฒนา Widget ขึ้นมาเองได้

เหมือนอย่างที่บอกไป ถ้าหากไม่ได้ใช้งาน Outlook หรือ To Do เอาเข้าจริงก็คงต้องบอกว่าฟีเจอร์นี้ Widget ก็ไม่ได้มีประโยชน์สักเท่าไหร่ ลบออกจาก Taskbar เลยก็ได้

การแจ้งเตือนบน Windows 11

การแจ้งเตือนบน Windows 11
การแจ้งเตือนบน Windows 11

...

บริเวณมุมขวาล่างของ Windows 11 จะเป็นพื้นที่ของการแจ้งเตือน ไปจนถึงการตั้งค่าต่างๆ ของระบบ ซึ่งจะขึ้นมาพร้อมๆ กับปฏิทิน ในกรณีที่ยังไม่ได้กดอ่านการแจ้งเตือนจะมีตัวเลขจำนวนการแจ้งเตือนอยู่บริเวณหลังวันที่และเวลาคอยกำกับ

ระบบตั้งค่าแบบด่วนทำให้การทำงานไวขึ้น
ระบบตั้งค่าแบบด่วนทำให้การทำงานไวขึ้น

ถัดมาส่วนที่เป็นสัญลักษณ์ไวไฟ ลำโพง และแบตเตอรี่ จะเป็นพื้นที่สำหรับการตั้งค่าต่างๆ เช่น การเชื่อมต่อไร้สาย ปรับลดหรือเพิ่มเสียง ค่าความสว่างของจอ เป็นต้น

Microsoft Teams บน Windows 11

ในช่วง 1-2 ปีหลังจะเห็นได้ว่า ไมโครซอฟท์ มีความพยายามที่จะโปรโมต Microsoft Teams อย่างหนัก โดยเป็นแอปที่พยายามจะกลายเป็นซุปเปอร์แอปด้านการทำงาน ซึ่ง Microsoft Teams ก็ได้เป็นแอปที่ถูกฝังมากับ Windows 11 เพื่อตอบสนองคนทำงาน

ด้วยความที่มันทำงานอยู่บน Windows 11 การเรียกใช้งาน Microsoft Teams จึงรู้สึกว่า มันตอบสนองค่อนข้างไวกว่าบนแพลตฟอร์มอื่น

อย่างไรก็ดี จากประสบการณ์ส่วนตัว รู้สึกว่า Teams ไม่ได้เป็นระบบประชุมงานที่แพร่หลายมากนัก เพราะในหลายครั้งการประชุมออนไลน์ส่วนใหญ่ เท่าที่เห็นจะใช้ Zoom หรือ Google Meet มากกว่า เพราะฉะนั้นแล้ว Teams ก็จะเป็นอีกหนึ่งแอปที่น่าจะมีผู้ใช้หลายคนเอามันออกจาก Taskbar

...

Microsoft Store

Instagram บน Windows 11 ในรูปแบบของเว็บแอปพลิเคชัน
Instagram บน Windows 11 ในรูปแบบของเว็บแอปพลิเคชัน

แอปพลิเคชันที่อยู่บน Microsoft Store มีให้เลือกเยอะ โดยเฉพาะในกลุ่มแอปพลิเคชันจำเป็นสำหรับชาวโซเชียล ไม่ว่าจะเป็น TikTok, Instagram ก็สามารถดาวน์โหลดมาติดตั้งได้เลย เพียงแต่ว่า มันมาอยู่ในรูปของ native web app ไม่ได้เป็น native app ที่มาจากระบบปฏิบัติการ Android ก็เท่านั้น

แต่คำถามที่น่าสนใจอยู่ตรงที่ว่า ในอนาคตอันใกล้ เราจะมีโอกาสได้เห็นแอปพลิเคชันจากระบบปฏิบัติการ Android ใน Microsoft Store หรือไม่ นอกเหนือจาก Amazon App Store ที่เป็นพันธมิตรกับไมโครซอฟท์

อยู่กับ Windows 10 หรืออัปเกรดเป็น Windows 11?

...



เป็นเรื่องปกติว่า เวลาที่มีระบบปฏิบัติการใหม่ โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงระดับเมเจอร์ เหมือนการเปลี่ยนผ่านระหว่าง Windows 10 ไปเป็น Windows 11 ผู้ใช้งานจำนวนไม่น้อยย่อมรู้สึกว่าอยากที่จะอัปเกรดไปใช้ของใหม่ (กรณีที่ซีพียูและสเปกแรงพอ)

อันที่จริง ถ้าหากไม่ได้เป็นผู้ใช้งานที่เพิ่งซื้อคอมพิวเตอร์เครื่องใหม่ที่มาพร้อมกับระบบปฏิบัติการ Windows 11 เลย ก็อาจยังไม่จำเป็นต้องรีบอัปเดตไปเป็น Windows 11 ก็ได้ เพราะการใช้งานยังไม่เข้าที่เข้าทางนัก ยังมีปัญหาจุกจิกกวนใจอยู่บ้าง เช่น ปัญหาการเชื่อมต่อไวไฟที่จู่ๆ ก็หลุด จนต้องรีคอนเน็กใหม่ แม้จะใช้เวลาไม่กี่วินาที แต่ก็ชวนให้หงุดหงิดอยู่นิดหน่อย แล้วก็ถ้าเราตัดเรื่องของอินเตอร์เฟสออกไป สิ่งที่อยู่ด้านในของ Windows 11 มันก็คือ Windows 10 นั่นแหละ

สรุป

ด้านนอกเป็น Windows 11 ด้านในยังคงเป็นแบบเดียวกับ Windows 10
ด้านนอกเป็น Windows 11 ด้านในยังคงเป็นแบบเดียวกับ Windows 10

 

หลังจากที่ลองใช้ Windows 11 คิดว่าเป็นระบบปฏิบัติการที่ลื่นไหลดี มีความสวยงาม เหมาะกับคนที่ใช้งานแอปพลิเคชันของไมโครซอฟท์อยู่แล้ว พร้อมด้วยระบบมัลติทาสก์ ซึ่งเหมาะกับคนที่ต้องการใช้งานหน้าจอ

ส่วนข้อเสียก็มีให้เห็นบ้าง แต่เป็นในเรื่องของความไม่คุ้นชินกับของใหม่มากกว่า เพราะอินเตอร์เฟสมีความแตกต่างจาก Windows 10 แม้ว่ากลิ่นอายส่วนใหญ่จะคล้ายๆ กันก็ตาม จึงต้องใช้เวลาทำความคุ้นเคยสักหน่อย

ทางด้านแอปพลิเคชันจากระบบปฏิบัติการ Android ยังไม่มีให้เห็น คาดว่าน่าจะต้องรอดูการอัปเกรดครั้งใหญ่ในช่วงมีนาคม 2022

ในภาพรวมก็คงต้องบอกว่า Windows 11 มีความทันสมัยกว่า Windows 10 แต่ถ้าไม่รีบก็ยังไม่ต้องอัปเกรดก็ได้