เฟซบุ๊ก (Facebook) เตรียมออกนโยบายใหม่ให้กับพนักงาน โดยเสนอให้การพูดคุยในลักษณะที่เป็นส่วนตัว เพื่อลดโอกาสในการทำให้เกิดเอกสารรั่วไหล จนกลายเป็นปัญหาที่สื่อเรียกว่า Facebook Files
ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เฟซบุ๊ก กำลังประสบปัญหาเอกสารรั่วไหล อันมีจุดเริ่มต้นจากการที่ฟรานเซส เฮาเกน (Frances Haugen) อดีตผู้จัดการฝ่ายผลิตภัณฑ์ของเฟซบุ๊ก ได้นำเอกสารจำนวนหลายพันหน้าไปให้กับสำนักข่าววอลล์ สตรีท เจอร์นัล (The Wall Street Journal) จนมีการเรียกประเด็นที่เกิดขึ้นนี้ว่า Facebook Files
จากประเด็นข้างต้นจึงทำให้เฟซบุ๊ก เริ่มหาทางแก้เกมเพื่อลดปัญหาการเกิดเอกสารรั่วไหลจากภายในองค์กร เฟซบุ๊ก เลยมีการเสนอว่า ให้พนักงานพูดคุยในลักษณะที่เป็นส่วนตัว มีการจำกัดกลุ่มคนที่จะเข้าถึงหัวข้อการสนทนาในแต่ละประเด็น แต่ก็ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะมีเงื่อนไขหรือมีมาตรการในการปิดกั้นเพื่อลดโอกาสการทำให้เกิดเอกสารรั่วไหลที่ชัดเจนอย่างไรบ้าง
ถึงกระนั้นก็มีพนักงานของเฟซบุ๊ก แสดงความคิดเห็นกับทางเดอะ ไทมส์ (The Times) โดยระบุว่า มีพนักงานสนับสนุนในนโยบายใหม่ที่ว่านี้ของเฟซบุ๊ก บางคนก็ไม่เห็นด้วย เพราะทำให้รู้สึกว่า ขาดความโปร่งใสและการทำงานร่วมกัน นอกจากนี้ อาจมีประเด็นด้วยว่า ถ้าหากพนักงานคนหนึ่งคนใดไม่พอใจในเรื่องใดก็ตาม ก็จะเอาเอกสารออกไปเปิดเผยต่อภายนอกได้อีกเช่นกัน
ทางด้านแอนดี สโตน โฆษกของเฟซบุ๊กกล่าวว่า จากประเด็นที่มีเอกสารหลุดส่งผลให้การทำงานเป็นทีมของเฟซบุ๊กทำได้ยากขึ้น ส่งผลให้พนักงานเฟซบุ๊กที่ทำงานในประเด็นที่มีความละเอียดอ่อน มีความเสี่ยงที่จะถูกทำให้เข้าใจผิด เมื่อเรื่องไปถึงหูของบุคคลภายนอก
สำหรับความเคลื่อนไหวที่อยู่รายล้อมเฟซบุ๊กหลังจากนี้ ก็จะมีฟรานเซส เฮาเกน เข้าไปพบกับคณะกรรมการกำกับดูแลของเฟซบุ๊ก หรือที่เรารู้จักกันในชื่อ Oversight Board โดยทาง ฟรานเซส เฮาเกน ได้ทวีตผ่านทวิตเตอร์ส่วนตัวว่า เธอตั้งหน้าตั้งตารอที่จะเข้าไปพูดคุยกับคณะกรรมการ เพื่อให้ข้อมูลในสิ่งที่เฟซบุ๊กได้โกหกและหลอกลวงต่อหน้าคณะกรรมการ
ที่มา: New York Times
...