เปิดตัว iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ปิดท้ายงาน Apple Event “California streaming”

แอปเปิล (Apple) ประกาศเปิดตัว iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max ซึ่งเป็นสมาร์ทโฟนระดับไฮเอนด์อย่างเป็นทางการ โดยสองรุ่นนี้รองรับรีเฟรชเรต 120Hz และกล้องหลัง 3 ตัว

ในที่สุดก็เข้าสู่ช่วงสุดท้ายของงาน Apple Event “California streaming” โดยเป็นทางด้าน iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max เป็นพระเอกปิดงาน

iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มาพร้อมกับชิป A15 Bionic ที่เร็วขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะในส่วนชิปเซตกราฟิก ซึ่งในช่วงของการอธิบายประสิทธิภาพของ iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max แอปเปิลได้เน้นเรื่องนี้เป็นพิเศษว่าสมาร์ทโฟนเรือธงทั้งสองโมเดล สามารถเล่นเกมได้อย่างลื่นไหล และภาพที่คมชัด

ขณะที่ตัวเครื่อง iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max เป็นครั้งแรกของแอปเปิล ที่ได้นำฟีเจอร์รีเฟรชเรต 120Hz มาใช้งาน หลังจากรอคอยมานานหลายปี ทั้งนี้แอปเปิลได้เรียกฟีเจอร์นี้ว่า ProMotion นอกจากนี้ ตัวเครื่องยังมีค่าความสว่างสูงสุดถึง 1000 nits เลยทีเดียว โดย iPhone 13 Pro จะมีขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว และ iPhone 13 Pro Max ที่ 6.7 นิ้ว

ทางด้านความสามารถของกล้อง จะเห็นได้ว่า iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีกล้องหลัง 3 ตัว ซึ่งแอปเปิลยืนยันว่าทั้งสองโมเดลสามารถถ่ายภาพในที่มืดได้ดี และถ้าใครชอบการถ่ายภาพแบบมาโคร ก็จะเห็นรายละเอียดต่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นขนเส้นเล็กๆ หรือหยดน้ำ เป็นต้น

พร้อมกันนี้ ประสิทธิภาพในการถ่ายภาพวิดีโอ ก็เป็นสิ่งที่แอปเปิลพยายามขายจุดนี้อย่างหนักหน่วง โดยชูประสิทธิภาพว่ากล้องจาก iPhone 13 Pro และ iPhone 13 Pro Max มีคุณภาพที่ดีพอจะถ่ายทำภาพยนตร์ได้เลย มีการเก็บมิติ ความชัดตื้น และเปลี่ยนจุดโฟกัสได้อิสระ

ในส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ก็เหมือนกับ iPhone 13 mini และ iPhone 13 ซึ่งแอปเปิลเน้นย้ำว่า ใช้งานได้นานเต็มวัน และแบตเตอรี่อึดกว่า iPhone 12 Pro และ iPhone 12 Pro Max

สำหรับราคา iPhone 13 Pro เริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐ และ iPhone 13 Pro Max แพงขึ้นมาอีกหน่อยที่ 1,099 ดอลลาร์สหรัฐ เปิดพรีออเดอร์วันศุกร์นี้ พร้อมจัดส่ง 24 กันยายน มีให้เลือก 4 สี ได้แก่ สีดำกราไฟต์, สีทอง, สีเงิน และสีฟ้า