iPhone 13 และ iPhone 13 mini เปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว จุดที่สังเกตเห็นได้ชัดคือรอยบากเล็กลง การันตีแบตเตอรี่ใช้งานได้นานเต็มวัน
แม้ชาวตะวันตกจะเชื่อว่าเลข 13 เป็นเลขอับโชค แต่แอปเปิลก็หาได้สนใจไม่ โดยสมาร์ทโฟนเรือธงของพวกเขาจะมาในชื่อ iPhone 13 (ไอโฟน 13) และ iPhone 13 mini (ไอโฟน 13 มินิ)
ในด้านขนาดและการออกแบบ แทบไม่แตกต่างจาก iPhone 12 รุ่นก่อนหน้านี้เท่าไรนัก โดยขนาดของตัวเครื่อง iPhone 13 mini อยู่ที่ 5.4 นิ้ว และ iPhone 13 ขยับขึ้นมาที่ 6.1 นิ้ว
ทางด้านรอยบาก หรือ notch ซึ่งเป็นสิ่งที่แสลงใจแฟนคลับของแอปเปิลจำนวนมาก แม้ว่าบน iPhone 13 และ iPhone 13 mini จะยังคงมีรอยบากให้เห็นอยู่ เพียงแต่ขนาดของมันเล็กลงอย่างเห็นได้ชัด พร้อมกันนี้ บริเวณส่วนหน้าจอแอปเปิลได้เพิ่มสิ่งที่เรียกว่า เซรามิก ชิลด์ เคลือบหน้าจอเพื่อความทนทาน
ชิปประมวลผลของ iPhone 13 และ iPhone 13 mini จะเป็นชิป A15 Bionic ซึ่งมีจำนวน 6 แกนเท่ากับ iPhone 12 เพียงแต่ประสิทธิภาพการทำงานเร็วขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ และการประมวลผลกราฟิกทำได้ดีขึ้น 30 เปอร์เซ็นต์
ในเรื่องของกล้อง แอปเปิลได้เปลี่ยนการวางตำแหน่งนิดหน่อย โดยวางกล้องสองตัวในลักษณะเหลื่อมกัน โดยมีขนาด 12 ล้านพิกเซล และเพิ่ม Cinematic Mode ซึ่งสามารถปรับโฟกัสบนวัตถุได้ ภายใต้การเรียนรู้ของปัญญาประดิษฐ์
แบตเตอรี่จะมีขนาดที่ใหญ่ขึ้น เนื่องจาก iPhone 12 mini ถูกโจมตีอย่างหนักว่าแบตเตอรี่ไม่เพียงพอต่อการใช้งานในหนึ่งวัน ทำให้การมาของ iPhone 13 mini และ iPhone 13 แอปเปิลจึงย้ำตลอดเวลาว่า ใช้งานได้นานเต็มวัน
...
สำหรับ iPhone 13 mini ตั้งราคาเริ่มต้น 699 ดอลลาร์สหรัฐ และ 799 ดอลลาร์สหรัฐ ในรุ่น iPhone 13 มีด้วยกัน 5 สี ได้แก่ สีดำ สีทอง สีเงิน สีแดง และสีฟ้า
สเปก iPhone 13 mini
- ขนาดหน้าจอ 5.4 นิ้ว ความละเอียด 1080 x 2340 พิกเซล
- หน้าจอเป็นแบบ Super Retina XDR OLED
- กันน้ำ/กันฝุ่นตามค่ามาตรฐาน IP68
- ระบบปฏิบัติการ iOS 15
- ชิปประมวลผล Apple A15 Bionic
- หน่วยความจำ 128GB+6GB RAM, 256GB+6GB RAM, 512GB+6GB RAM
- กล้องหลัง 2 ตัว ได้แก่ กล้องไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/1.6 และกล้องอัลตราไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้าเป็นกล้องไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- รองรับ Lightning พอร์ต
สเปก iPhone 13
- ขนาดหน้าจอ 6.1 นิ้ว ความละเอียด 1170 x 2532 พิกเซล หน้าจอแบบ Super Retina XDR OLED
- ระบบปฏิบัติการ iOS 15
- ชิปประมวลผล Apple A15 Bionic
- หน่วยความจำเครื่อง 128GB+6GB RAM, 256GB+6GB RAM, 512GB+6GB RAM
- กล้องหลัง 2 ตัว ได้แก่ กล้องไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/1.6 และกล้องอัลตราไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.4
- กล้องหน้าเป็นกล้องไวด์ 12 ล้านพิกเซล f/2.2
- รองรับ Lightning พอร์ต
หลังจากเปิดตัวให้สาวกได้เห็น หลายคนคงอยากเป็นเจ้าของกันแล้ว และยังเตรียมเป็นเจ้าของ iPhone 13 Pro Max และ iPhone 13 Pro บนเครือข่าย AIS 5G คลื่นมากที่สุด เร็วที่สุด ครอบคลุมมากที่สุดทั่วไทย จองล่วงหน้าได้ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค. 64 ที่เว็บไซต์เอไอเอส