ซัมซุงประกาศล่วงหน้าตั้งแต่ต้นปีแล้วว่า ในปีนี้จะไม่มี Galaxy Note สมาร์ทโฟนเรือธงอีกรุ่นหนึ่งของซัมซุงต่อจากซีรีส์ Galaxy S และ Galaxy Z ออกมาให้เห็นเหมือนที่เคยเป็นมา
การหายไปของ Galaxy Note ถูกบอกเล่าจากผู้บริหารของซัมซุงด้วยเหตุผลที่ว่าชิปเซตขาดแคลน จึงทำให้ซัมซุงต้องยกเลิกการเปิดตัว Galaxy Note ประจำปี 2021 ออกไปก่อน
แม้ซัมซุงจะยืนยันเช่นนั้น แต่ผู้ศรัทธาใน Galaxy Note และแฟนคลับของซีรีส์รุ่นนี้ มีความหวั่นใจว่าถึงที่สุดแล้ว Galaxy Note จะเป็นอันต้องถูกยุติการผลิตไป เนื่องจาก Galaxy S21 ก็มีรุ่นพิเศษที่รองรับสไตลัส S Pen อีกทั้ง Galaxy Z Fold3 ที่เพิ่งเปิดตัวในงาน Galaxy Unpacked 2021 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก็เป็นอีกรุ่นที่รองรับ S Pen นั่นจึงทำให้ชะตากรรมของ Galaxy Note ประหนึ่งยืนอยู่บนเส้นด้าย
การเปิดตัว Galaxy Z Flip3 ที่งาน Galaxy Unpacked นับว่ามีประเด็นน่าสนใจไม่น้อย เพราะสมาร์ทโฟนรุ่นนี้ ซัมซุงตั้งราคาจำหน่ายในราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ ส่วนราคาไทยถูกตั้งราคาขายไว้ที่ 34,900 บาท สำหรับรุ่น 128GB
การตั้งราคา Galaxy Z Flip3 ของซัมซุงนับเป็นกลยุทธ์ที่ชวนให้จับจ้อง ราวกับเป็นการบอกกลายๆ ว่า พวกเขากำลังผลักดันให้ “มือถือจอพับ” กลายเป็นอุปกรณ์ที่ทุกคนสามารถเข้าถึงได้ และเป็นกระแสหลัก (Mainstream) ของมือถือในยุคถัดไป
...
สาเหตุที่ตัวเครื่องมีราคาถูกลง สามารถมองได้หลายเหตุผล ทั้งในแง่ของเทคโนโลยีที่ก้าวมาถึงจุดที่คุ้มทุนจนไม่ต้องขายในราคาแพงอีกต่อไปแล้ว, ตัวเครื่องมีศักยภาพดีพอที่จะใช้งานได้จริงในชีวิตประจำวัน อีกทั้งยังมีทีเด็ดทีขาดจากการที่เป็นสมาร์ทโฟนพกพาง่าย ใช้สะดวก เป็นหน้าจอใหญ่ที่พับหดให้เหลือเป็นมือถือจอเล็กได้ และดูมีความเป็นแฟชั่นสูง
เพราะการที่ Z Flip3 ถูกตั้งในราคาที่คนทั่วไปพอเอื้อมถึงได้ มันเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้คนจำนวนมากมีความสามารถมากพอที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อมือถือรุ่นนี้ เมื่อเทียบกับ Galaxy Z Flip รุ่นก่อนหน้า ซึ่งมีราคาค่าตัวถึง 44,900 บาท (มีความจุเดียว นั่นคือ 256GB) จึงแทบเป็นไปไม่ได้เลยที่ผู้ใช้มือถือทั่วไป จะเหลียวหลังหันมามองมือถือที่มีราคาค่างวดเกือบครึ่งแสนอย่างสะดวกใจ
มีตัวเลขที่น่าสนใจ เปิดเผยโดย บริษัทวิจัยตลาด Counterpoint Research ระบุว่า ภายในปี 2021 ยอดจัดส่งมือถือจอพับจะอยู่ที่ 9 ล้านเครื่อง ซึ่งตัวเลขนี้ถือว่าโตเป็น 3 เท่าเมื่อเทียบกับปี 2020
พร้อมกันนี้ Counterpoint Research ยังเชื่อว่า ในปี 2023 ยอดจัดส่งมือถือจอพับจะเพิ่มเป็น 10 เท่าจากปี 2020 โดยเฉพาะถ้าหากในปี 2023 แอปเปิลเปิดตัวมือถือจอพับรุ่นแรกออกมาสู่สาธารณชน
เป็นที่ทราบกันดีว่า แอปเปิลไม่ได้เป็นผู้นำเทคโนโลยีในทุกๆ มิติ แต่เมื่อใดก็ตามที่แอปเปิลเริ่มจับตลาดหรือธุรกิจนั้นแล้ว มักจะกลายเป็นกระแสเมนสตรีมในเวลาต่อมาอยู่เสมอ ทั้งปรากฏการณ์ที่เห็นได้ชัดของ iPhone ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา ไปจนถึงนาฬิกาอัจฉริยะอย่าง Apple Watch
ด้วยสถานการณ์เช่นนี้ จึงเชื่อได้ว่ามีโอกาสจริงๆ ที่มือถือจอพับจะกลายเป็นกระแสหลักของวงการมือถือในยุคถัดไป
ประเด็นต่อมา ที่จะช่วยให้ Galaxy Z Flip3 กลายเป็นมือถือที่เข้าถึงคนทั่วไปได้ง่ายขึ้น นั่นคือ “คุณภาพ” คงปฏิเสธไม่ได้ว่า มือถือจอพับถูกจับจ้องจากคนทุกคนว่ามันทนทาน คงทนแค่ไหน โดยเฉพาะมือถือจอพับที่ต้องถูกพับในวันหนึ่งๆ เป็นร้อยครั้ง เมื่อกาลเวลาผ่านไปมันจะยังคงพับได้ดีเหมือนเก่าอีกหรือไม่
แม้วิดีโอแนะนำผลิตภัณฑ์ที่ซัมซุงประกาศเอาไว้ในงานเปิดตัว Galaxy Unpacked พวกเขาจะบอกว่า Galaxy Z Flip3 ได้ยกระดับวัสดุประกอบงาน โดยมีวัสดุที่เรียกว่า Armor Titanium ทำให้กรอบหรือวัสดุแข็งแกร่งกว่าเดิม 10 เปอร์เซ็นต์ พร้อมกับยกระดับความสามารถในการกันน้ำด้วยมาตรฐาน IPX8 แต่ก็ไม่มีใครทราบอยู่ดีว่ามันจะเป็นไปตามคำโฆษณาจริงหรือไม่
ดังนั้นแล้ว ถ้าให้พูดกันตามตรง Galaxy Z Flip3 อยู่ในสถานะที่มีโอกาสครองใจผู้ใช้งานมือถือได้ไม่ยาก เพราะราคาที่ถูกลงกว่าเดิม และคุณภาพที่แข็งแกร่ง (ถ้าเป็นเช่นนั้นจริง) ก็มีโอกาสที่จะทำให้พอมองเห็นได้ว่ามือถือจอพับมีโอกาสประสบความสำเร็จในระยะยาว
...
อย่างไรก็ตาม ด้วยสภาวะการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ที่กำลังถาโถมเข้าใส่อย่างหนักหน่วงทั้งในต่างประเทศ และโดยเฉพาะประเทศไทย ก็มีโอกาสทำให้ผู้คนรู้สึกอ่อนไหวจนไม่อยากที่จะจับจ่ายใช้เงินมากนัก โดยเฉพาะกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือยอย่างสมาร์ทโฟน
ที่มา:
Counterpoint Research