พิษบอยคอตเบรกซื้อโฆษณา ทำให้แค่ชั่วข้ามคืน มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งเฟซบุ๊ก (Facebook) รวยลดลง จากมูลค่าหุ้นหายไป 7,200 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 216,000 ล้านบาท

เจ้าพ่อเฟซบุ๊ก มาร์ค ซัคเคอร์เบิร์ก กำลังเจอศึกหนัก จากการที่หลายธุรกิจในสหรัฐอเมริกา ประกาศบอยคอตเบรกซื้อโฆษณาในเฟซบุ๊ก และอินสตาแกรม จนกว่าจะจัดการกับ Hate Speech ได้

ผลกระทบนี้ เกิดขึ้นจากกลุ่มสิทธิพลเมืองในสหรัฐอเมริกา ได้รณรงค์แคมเปญที่ชื่อว่า The Stop Hate for Profit หลังจากเกิดเหตุการณ์ จอร์จ ฟลอยด์ เสียชีวิตขณะถูกตำรวจจับกุม จากนั้นมีกลุ่มผู้ประท้วงไปทั่วสหรัฐอเมริกา โดยกลุ่มสิทธิพลเมืองเห็นว่า เฟซบุ๊กไม่พยายามที่จะจัดการข้อความที่สร้างความเกลียดชัง ในแพลตฟอร์มเฟซบุ๊ก

กลุ่มรณรงค์ระบุว่าขณะนี้มีกว่า 100 บริษัทที่บอยคอตเฟซบุ๊ก ตั้งแต่แบรนด์ไอศกรีมอย่าง Ben & Jerry’s เสื้อผ้า The North Face และยักษ์ใหญ่สื่อสาร อย่าง Verizon ล่าสุดยูนิลีเวอร์ ฮอนด้า และโคคา-โคล่า ก็ประกาศร่วมแคมเปญนี้

...

สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ได้จับตาราคาหุ้นของเฟซบุ๊ก พบว่า เมื่อวันที่ 26 มิ.ย.ที่ผ่านมา ราคาร่วงไป 8.3% ต่ำสุดในรอบ 3 เดือน หลังจากยูนิลีเวอร์ประกาศร่วมแผนบอยคอตนี้เป็นรายล่าสุด  

ราคาที่ร่วงไป 8.3% ทำให้มูลค่าตลาดของเฟซบุ๊กหายไป 56,000 ล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 1.6 ล้านล้านบาท และทำให้ความมั่งคั่งของมาร์ค ลดลงไปอยู่ที่ 82,300 ล้านดอลลาร์ หรือ 2.46 ล้านล้านบาท แน่นอนว่าอันดับตำแหน่งมหาเศรษฐีโลกของมาร์คก็ตกไปอยู่อันดับที่ 4 จากเดิมอยู่อันดับ 3