การที่ประเทศไทยจะเดินหน้าเติบโตไปสู่การเป็นประเทศพัฒนาแล้ว จำเป็นต้องมีหลากหลายปัจจัยที่เกื้อหนุนกันไป โดยเฉพาะอย่างยิ่ง “การพัฒนา” ดังกล่าว จะต้องเป็นไปในรูปแบบของการพัฒนาร่วมกันทั้งประเทศ มิใช่เพียงเมืองหลวงหรือหัวเมืองที่สำคัญๆ เท่านั้น ดังนั้นการพัฒนาในระดับภูมิภาค ควบคู่ไปกับหัวเมืองใหญ่จึงเป็นสิ่งสำคัญลำดับต้นๆ
เช่นในกรณีของพื้นที่ภาคอีสานที่กล่าวได้ว่า เป็นพื้นที่เศรษฐกิจที่มีศักยภาพอย่างยิ่ง และพร้อมจะได้รับการพัฒนาในทุกรูปแบบเพื่อตอบสนองนโยบายการยกระดับเป็น Esan Economic Corridor แต่การเติบโตนี้จะไม่สามารถเป็นไปได้อย่างราบรื่นหากขาดซึ่งปัจจัยพื้นฐานที่จะทำให้ทุกโครงการเป็นไปได้ นั่นก็คือการมี “ระบบโครงข่ายที่ดี”
อย่างไรก็ตาม ก้าวแรกที่สำคัญซึ่งนับได้ว่าเป็นสัญญาณที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับพี่น้องชาวอีสานก็ได้เกิดขึ้นแล้วเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2562 เมื่อ เอไอเอส ได้จัดงานแถลงถึงเป้าหมายใหม่ที่ได้เริ่มดำเนินการไปแล้วระยะหนึ่ง นั่นคือการตัดสินใจเข้าไป “ปักหมุด” ความเป็นที่ 1 ตัวจริงในตลาดภูมิภาค ด้วยการทำการตลาดอย่างเข้มข้น หวังเข้าไปยกระดับให้ลูกค้าในทุกพื้นที่ทั่วไทยได้ใช้บริการโครงข่ายอันดับหนึ่งที่มีคุณภาพ ทั้งเครือข่าย 4G, 4.5G และ NEXT G โดยจะเริ่มต้นกันที่ภาคอีสาน ภายใต้ชื่อแคมเปญ “เอไอเอส ที่ 1 ตัวจริง เร็วแฮงสุดทั่วภาคอีสาน” ดึงราชินีลูกทุ่งคนดังอย่าง “ต่าย อรทัย” เป็นตัวแทนสื่อสารถึงแบรนด์ และเข้าจับมือกับหน่วยงานในท้องที่ทั้งภาครัฐและเอกชนเพื่อช่วยสนับสนุนและพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัลกันตั้งแต่ระดับเศรษฐกิจฐานราก
“จากข้อมูลล่าสุด ภาคอีสานของเรามีประชากรอยู่ราว 22 ล้านคน เป็นพื้นที่ใหญ่ที่กำลังจะเติบโตขึ้นอีกมาก จากเทรนด์ของคนรุ่นใหม่ที่หันกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดกันมากขึ้น นำเอาความรู้และเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามาพัฒนาท้องถิ่น เราพยายามจะเติบโตไปเป็นเมืองแห่งศูนย์กลางการบริการในภูมิภาค Esan Economic Corridor ซึ่งสิ่งสำคัญอย่างมากคือเรื่องของเทคโนโลยีการสื่อสารที่มีคุณภาพ เช่น เอไอเอสที่อยู่เคียงข้างคนอีสานมาโดยตลอด” นายสวาท ธีระรัตนนุกูลชัย ประธานหอการค้าจังหวัดอุดรธานี กล่าว
ทางด้าน นายปรัธนา ลีลพนัง หัวหน้าคณะผู้บริหารกลุ่มลูกค้าทั่วไป เอไอเอส ได้กล่าวถึงเป้าหมายในแผนการนี้เพิ่มเติมว่า “ตลอดระยะเวลากว่า 29 ปี เอไอเอสมุ่งมั่นพัฒนาบริการคุณภาพในทุกด้าน เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งานทุกเจเนอเรชั่น ภายใต้วิสัยทัศน์ของการเป็น Digital Life Service Provider ที่พร้อมนำศักยภาพของเครือข่ายและเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามายกระดับขีดความสามารถของประเทศและทุกภูมิภาคอย่างต่อเนื่องรวมถึงให้ความสำคัญกับการสร้างภูมิคุ้มกันและปลูกจิตสำนึกให้คนไทยรู้จักใช้เทคโนโลยีดิจิทัลอย่างถูกวิธีผ่านโครงการ “อุ่นใจ Cyber” ”
“โดยในส่วนของการพัฒนาเครือข่ายนั้นเราให้ความสำคัญกับการออกแบบให้เหมาะสมกับความต้องการใช้งานของพื้นที่ทุกตารางนิ้วในประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคอีสาน ที่มีอัตราการเติบโตอย่างโดดเด่นจากการขยายตัวของภาคอุตสาหกรรรมท้องถิ่น ที่ผ่านมาจึงได้นำนวัตกรรมเทคโนโลยีระดับโลกมาให้บริการ ทั้งเครือข่าย AIS NEXT G ที่เร็ว แรงที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้, เครือข่าย AIS 4.5G และ AIS 4G ADVANCED ที่รองรับเทคโนโลยีขั้นสูง MIMO 4x4 with CA, 256 QAM DL/64 QAM UL, LAA (Licensed Assisted Access) และ FDD Massive MIMO 32T 32R ที่สามารถรับส่งข้อมูลได้ปริมาณมากขึ้นและเร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึง 2 เท่า รวมทั้ง AIS SUPER WiFi ที่มีมากกว่า 120,000 จุดทั่วประเทศ”
เอไอเอสได้เปิดเผยเพิ่มเติมว่า วันนี้บริษัทได้มีเทคโนโลยีที่เร็วแรงที่สุดในโลกก่อนจะถึงยุค 5G แล้วนั่นคือระบบ 4.5G ที่รองรับเทคโนโลยีขั้นสูง MIMO 4x4 with CA, 256 QAM DL/64 QAM UL, LAA (Licensed Assisted Access) และ FDD Massive MIMO 32T 32R ที่สามารถรับส่งข้อมูลได้ปริมาณมากขึ้นและเร็วกว่าเครือข่าย 4G ถึง 2 เท่า ซึ่งนับได้ว่าเร็วแรงอย่างมาก ในเรื่องของเสาสัญญาณที่จะให้บริการนั้นก็ครอบคลุมด้วยจำนวน 9,965 สถานีฐานและกำลังจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้านของ AIS Fibre หรือการบริการอินเทอร์เน็ตใยแก้วนำแสงก็ครอบคลุมแล้ว 16 จังหวัด เตรียมพร้อมที่จะรองรับการใช้งานดาต้าทั้งแบบมีสายและไร้สายแบบเขย่งก้าวกระโดดในอนาคตอันใกล้ ซึ่งจะสามารถนำไปต่อยอดการบริการได้หลากหลายอย่างมากโดยเฉพาะการพัฒนา Smart City ที่ในปัจจุบันได้มีการเข้าไปร่วมมือกับสถาบันชั้นนำในภาคอีสานเพื่อวิจัย พัฒนา และทดลองใช้งานจริงบ้างแล้วเช่นระบบ Smart Parking, Smart Trash เป็นต้น
“ในแง่ของการให้บริการเพื่อตอบโจทย์ลูกค้านั้น ภาคอีสานถือเป็นพื้นที่ซึ่งเอไอเอสครองส่วนแบ่งทางการตลาดมากที่สุดเป็นอันดับ 1 ถึง 55% มีจำนวนลูกค้ากว่า 10 ล้านเลขหมาย คิดเป็นสัดส่วน 24% ของฐานลูกค้าทั่วประเทศ ดังนั้น เราจึงศึกษาและพัฒนาบริการดิจิทัลที่เข้าใจพฤติกรรมและตอบโจทย์ความต้องการของผู้ใช้งานทุก Segment ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มวัยรุ่น นักศึกษา คนทำงาน คออีสปอร์ต หรือกลุ่มคนเจเนอเรชั่นใหม่ที่ชื่นชอบการใช้เทคโนโลยี เพื่อออกแบบสินค้าและบริการที่สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ของชาวอีสานมาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นการจัดโปรโมชั่นสินค้ากลุ่ม Handset, แพ็กเกจมือถือ รวมถึงขยายช่องทางการจัดจำหน่ายที่ชาวอีสานเข้าถึงได้อย่างสะดวกและรวดเร็วกว่า 7,000 จุด พร้อมจัดรถ Mobile Service Car ซึ่งเปรียบเสมือน AIS Shop เคลื่อนที่ ลงไปให้บริการในระดับหมู่บ้านทั่วภาคอีสาน ทั้งในงานประเพณีท้องถิ่นและงานกิจกรรมระดับตำบล” นายอุดมศักดิ์ โสมคำ หัวหน้าส่วนงานปฏิบัติการภูมิภาค ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เอไอเอส กล่าวเสริม
และเพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นตั้งใจของเอไอเอสในการมอบบริการคุณภาพที่คัดสรรมาเพื่อพี่น้องชาวอีสาน เอไอเอสจึงเปิดตัวแคมเปญล่าสุด “เอไอเอส ที่ 1 ตัวจริง เร็วแฮงสุดทั่วภาคอีสาน” โดยเลือก “ต่าย อรทัย” นักร้องลูกทุ่งขวัญใจมหาชนที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างยิ่งจากชาวไทย เป็นตัวแทนในการสื่อสารไปถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในภาคอีสาน โดยประเดิมจัดกิจกรรมทัวร์คอนเสิร์ต “ม่วนกันหน่อย จอยกันแน” ซึ่งจัดขึ้นในจังหวัดเศรษฐกิจสำคัญของภาคอีสาน ได้แก่ นครราชสีมา ขอนแก่น อุดรธานี และอุบลราชธานี ที่จะนำความพิเศษพร้อมความบันเทิงจัดเต็มไปสู่พี่น้องชาวอีสานจากวันนี้เป็นต้นไป
ชาวอีสานเตรียมพบกับความพิเศษจากแคมเปญ “เอไอเอส ที่ 1 ตัวจริง เร็วแฮงสุดทั่วภาคอีสาน” ทั้งแพ็กเกจมือถือ สิทธิพิเศษ คอนเทนต์ความบันเทิง ที่คัดสรรมาเพื่อหมู่เฮาชาวอีสานโดยเฉพาะ
- สมาร์ทโฟนสุดคุ้มพร้อมแพ็กเกจถูกใจทั้งโทรและเล่นเน็ต ได้แก่ สมาร์ทโฟน AIS Super Smart Gen 1 ราคาเพียง 1,590 บาท ให้เล่นเน็ตสูงสุด 120 GB มูลค่า 1,400 บาท เมื่อใช้ซิมใหม่ที่มาพร้อมเครื่อง, ฟีเจอร์โฟน AIS Super Talk I ราคาเพียง 890 บาท โทร AIS ไม่อั้น ฟรี!
- แพ็กเกจ “โปรสะใจ” คักหลายเพื่อชาวอีสาน เพียงเปิดซิมใหม่ AIS 12Call! The ONE SIM พร้อมเติมเงิน 30 บาททันที และกด *777*199# แล้วโทรออก รับสิทธิ์โทรฟรีไม่อั้นทุกเครือข่าย ครั้งละ 30 นาที นาน 3 เดือน
- จัดเต็มกับสิทธิพิเศษแบบ 360 องศาจากร้านอาหาร เครื่องดื่ม และแหล่งช้อปปิ้ง ดังทั่วภาคอีสาน ที่ เอไอเอส คัดสรรมาเพื่อไลฟ์สไตล์ชาวอีสาน พร้อมกิจกรรมมื้อนี้ฟิน วันนี้ฟรี ทั่วภาคอีสาน ซึ่งมียอดลูกค้าใช้สิทธิ์กว่า 200,000 เลขหมายต่อปี
- มอบคอนเทนต์ความบันเทิงบน AIS PLAY ที่ตอบโจทย์ความชื่นชอบของชาวอีสานผ่านหนังและคอนเสิร์ตจากศิลปินลูกทุ่งขวัญใจชาวอีสาน นำโดย ต่าย อรทัย
“วันนี้ภาคอีสานมีศักยภาพการเติบโตที่โดดเด่น และเป็นกำลังสำคัญที่จะผลักดันเศรษฐกิจของประเทศไทยให้เติบโตได้อย่างชัดเจน อย่างในจังหวัดอุดรธานีก็มีการเติบโตที่ชัดเจนจากภาคการค้าและการบริการ รวมถึงมีการลงทุนจากภาคเอกชนอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น เอไอเอสจึงพร้อมนำศักยภาพเครือข่ายและบริการเข้ามาเสริมศักยภาพด้านเทคโนโลยีดิจิทัลในพื้นที่อย่างเต็มที่ เพื่อสร้างโอกาส อาชีพ และยกระดับเศรษฐกิจของภาคให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งไปด้วยกัน” นายปรัธนา กล่าวสรุป