เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานสำหรับ Samsung Galaxy Note9 ก็กลายเป็นที่พูดถึงไปทั่วประเทศ เนื่องจากซัมซุงยังเล่นใหญ่ไม่แพ้ครั้งก่อน เห็นได้จากป้ายโฆษณา บิลบอร์ดขนาดใหญ่ใจกลางเมือง รวมถึงสื่อต่างๆ และคนบันเทิงทั้งหลายต่างก็ออกมาพูดถึง โน้ต 9 ตัวนี้...

เพราะฉะนั้นวันนี้ แกะกล่องไอที โดย IT by Choice จะพาคุณไปเปิดกล่องสมาร์ทโฟนรุ่นล่าสุดจากซัมซุง แบบละเอียดสุดๆ รับรองว่าให้คุณได้ส่องครบทุกมุม พร้อมสเปกแบบละเอียด เผื่อเป็นตัวเลือกให้คนที่กำลังตัดสินใจ ก่อนวันเปิดขายจริงในวันที่ 24 สิงหาคม 2561 เริ่มกันที่

เปิดกล่องออกมาเจออะไรบ้าง?

นอกจากตัวเครื่อง Samsung Galaxy Note 9 ที่มาพร้อมกับ S Pen แล้ว ในกล่องยังมี USB Power adapter, Micro USB connector, แหนบสำหรับดึงเปลี่ยนหัว S Pen พร้อมหัวปากกาอีก 2 หัว, ตัวแปลง Micro USB เป็น Type C, หูฟัง AKG, ที่จิ้มถาดซิม และเอกสารวิธีใช้เบื้องต้น

...

ดีไซน์ภายนอก

การดีไซน์โดยรวมนั้น เรียกได้ว่าแทบจะไม่มีอะไรแตกต่างจากรุ่น โน้ต8 เลยสักนิด เพียงแต่เจ้ารุ่นใหม่นี้ใช้หน้าจอ Infinity Display ที่ใช้ Super AMOLED 6.4 นิ้ว Quad HD+ (โน้ต8 ใช้หน้าจอ Super AMOLED 6.3 นิ้ว WQHD+) ทำให้หน้าจอของกาแลคซี่ โน้ต 9 มีขนาดใหญ่กว่ารุ่นเดิมอยู่ 0.1 นิ้วเท่านั้น ซึ่งหากมองด้วยตาเปล่าก็แทบไม่เห็นความแตกต่างอะไรเลย

ขนาดตัวเครื่องอยู่ที่ 161.9 x 76.4 x 8.8 มิลลิเมตร น้ำหนัก 201 กรัม (น้ำหนักใกล้เคียงกับ iPhone 8+) สำหรับประเทศไทยนำเข้ามาทั้งหมด 3 สี ได้แก่ สีโอเชี่ยนบลู (Ocean Blue) มาพร้อมกับ S Pen สีเหลือง, สีเมทัลลิก คอปเปอร์ (Metallic Copper) และสีมิดไนท์ แบล็ค (Midnight Black) ส่วนถ้าใครชอบสีม่วงอมชมพูอย่าง Lavender Purple เราต้องขอแสดงความเสียใจด้วยเพราะไม่นำเข้ามาขายในไทยจ้า

...

...

เมื่อพูดถึงสเปกภายใน

ใช้หน่วยประมวลผล ชิปเซต Exynos 9820 แบบ Octa core (2.7GHz Quad + 1.7GHz Quad), 64bit, 10nm processor หน่วยความจำภายใน 128GB/512 GB รองรับ Micro SD สูงสุด 512 GB เท่ากับว่า...ซัมซุงเครื่องนี้จะสามารถจุได้ถึง 1TB เสมือนกับว่าคุณพก External Hard drive เลยทีเดียว

แน่นอนว่าสเปกภายในนั้นปรับเปลี่ยนไปจากโน้ต 8 อยู่พอสมควร (ค่อยยังชั่ว)

S Pen ที่ว่าดีเหลือเกิน (?)

ปากกา S Pen ที่ถือเป็นไฮไลต์สำคัญของกาแลคซี่ โน้ต 9 ตัวนี้ ถึงแม้ว่ารูปแบบภายนอกจะดูไม่ต่างจากเดิมนัก แต่ถูกออกแบบใหม่ให้รองรับการเชื่อมต่อแบบบลูทูธกับตัวเครื่องโดยตรง แค่ดึงออกมาจากตัวเครื่องก็พร้อมทำงานได้ทันที 

ส่วนการใช้งาน S Pen ร่วมกับแอปพลิเคชันต่างๆ ก็สามารถควบคุมผ่านปุ่มกดได้เลย ยกตัวอย่าง หากต้องการใช้ S Pen ในการถ่ายภาพ กด1ครั้ง = ถ่ายภาพ, กด2ครั้ง = สลับกล้องหน้า-หลัง หรือหากเป็นแอปบันทึกเสียงก็สามารถกดเพื่อบันทึก-หยุดได้ หรือจะกดเพื่อเปลี่ยนสไลด์ก็ยังได้

...

ส่วนตัว IT by Choice คิดว่าการเพิ่มฟีเจอร์บน S Pen เป็นการเพิ่มคุณค่าและเพิ่มประโยชน์ให้กับตัวปากกาให้เป็นมากกว่าเอาไว้ใช้ขีดๆ เขียนๆ แหม...น่าจะมีมาตั้งนานแล้ว พอเพิ่งมามีก็เลยรู้สึกไม่ว้าวเท่าไร!

ฟังก์ชันยอดนิยมอย่าง Screen Off Memo ก็มีการปรับปรุงใหม่ จากเดิมที่มีเฉพาะหมึกสีขาว แต่ครั้งนี้หมึกเปลี่ยนสีไปตามตัว S Pen เช่น S Pen สีเหลือง หมึกก็จะเป็นสีเหลือง, S Pen สี Lavender หมึกก็จะเป็นสีชมพู เป็นต้น

ชูจุดเด่นที่แบตเตอรี่

กาแลคซี่ โน้ต 9 มาพร้อมกับแบตฯ ขนาดความจุที่สูงถึง 4,000 mAh ที่ทางแบรนด์เคลมว่าสามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน (โน้ต 8 มีความจุแบต 3,300 mAh)

จากการทดลองใช้ พบว่ายาวนานอย่างที่ทางแบรนด์ได้เคลมไว้จริงๆ เพราะทีแรกเราก็ยังไม่เชื่อ เพราะอย่างที่รู้กันอยู่ว่าเครื่องที่ใช้กราฟิกเยอะๆ มักจะเแบตฯ หมดไว แต่นี่ก็อยู่ได้ทั้งวัน เล่น ROV ได้แบบไม่ต้องกลัวแบตฯ หมด

ได้ข่าวว่ากล้องสวย(?)

เราก็ไม่ปฏิเสธนะ เพราะมันก็สวยจริง กล้องหลังเป็นกล้องคู่ พร้อมระบบกันสั่น OIS (Optical Image Stabilization) ทั้งสองเลนส์ ตัวแรกความละเอียด 12 MP เลนส์มุมกว้าง (Wide-angle Lens) Super Speed Dual Pixel, F1.5/F2.4 ส่วนอีกตัวมาพร้อมกับความละเอียดเท่ากัน 12 MP เป็นเลนส์เทเลโฟโต้ (Telephoto Lens) F2.4 ออปติคอลซูม 2 เท่า ดิจิตอลซูม 10 เท่า คล้ายๆ กับตัวโน้ต 8

สิ่งที่ทำให้โน้ต 9 แตกต่างออกไปคือฟีเจอร์ Scene Optimizer หรือเรียกง่ายๆ คือการใช้ AI วิเคราะห์ฉากและวัตถุที่เรากำลังถ่ายได้ถึง 20 ชนิด ได้แก่ อาหาร, ภาพบุคคล, ดอกไม้, ภายในอาคาร, สัตว์, Landscapes, Greenery, ต้นไม้, ท้องฟ้า, ภูเขา, ทะเล, พระอาทิตย์ออก-ตก, ริมน้ำ, ภาพสตรีท, กลางคืน, หิมะ, น้ำตก, นก, Backlit, และตัวอักษร พร้อมกับปรับสีและคอนทราสให้เราอัตโนมัติ อาทิ ถ่ายในสภาพแสงน้อยก็จะปรับรูรับแสงไปที่ f/1.5 เป็นต้น

นอกจากนั้น ยังมีเซนเซอร์ตรวจจับ Flaw detection ที่คอยแจ้งเตือนหากเกิดภาพเบลอ หรือมีรอยเปื้อนบนเลนส์ด้วย

ชมตัวอย่างภาพ...

ภาพโหมดเซลฟี่
ภาพโหมดเซลฟี่

ภาพโหมดเซลฟี่
ภาพโหมดเซลฟี่

สรุป...ต้องรู้

ข้อดี:

- สีใหม่ถือว่าสวยทีเดียว 

- ปากกาก็ทำออกมาได้ดี ใช้บลูทูธในระยะห่างได้ไม่เกิน 10 เมตร (แหม...แค่ 3 เมตรก็กลัวคนวิ่งมาสอยมือถือเราไปแล้วค่ะ)

- เล่นเกมหนักๆ ได้ และเครื่องก็ไม่ร้อนเร็ว

- live focus จับวัตถุได้ง่ายกว่ากล้องไอโฟน X 

ข้อเสีย:

- ดูเผินๆ แทบไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงจากรุ่นเดิมเลยสักนิด ถ้าใช้ Galaxy Note 8 อยู่แล้วไม่ติดว่าอยากได้ปากกาบลูทูธ ก็คิดว่าไม่จำเป็นต้องเปลี่ยน

- โน้ต 9 มีการเปลี่ยนจุดสแกนลายนิ้วมือมาอยู่ใต้เลนส์กล้องด้านหลัง สำหรับผู้หญิงที่เล็บยาวอาจจะมีรอยนิ้วมือไปติดที่เลนส์กล้องได้ แต่อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับความถนัดของคน

- การใช้ AI วิเคราะห์ภาพ ยังไม่ค่อยเสถียรเท่าไร ถ้าถ่ายอาหารเยอะๆ หรือต้นไม้ปลอมระบบอาจจะมีงงบ้าง ต้องเป็นภาพที่ชัดเจนจริง

สรุปอีกนิด: ตัวกล้องแทบจะไม่แตกต่างกับ Galaxy S9+ ส่วนดีไซน์ก็คล้ายกับ Galaxy Note 8 IT by Choice จึงขอสรุปว่า Samsung Galaxy Note 9 เป็นการรวมเอาจุดเด่นของสมาร์ทโฟนเรือธงรุ่นพี่มารวมกันอยู่ในเครื่องเดียว เพราะถึงจะไม่มีอะไรแปลกตา...แต่รวมเอาความต้องการทุกอย่างของมนุษย์เอาไว้แล้ว.