สงกรานต์ปีนี้ หนีร้อนไปเล่นน้ำที่ไหนกันเจ้าคะออเจ้า? ชุ่มฉ่ำกันไปแค่ไหนแล้ว แต่ถ้าสมาร์ทโฟนที่คุณพกไปด้วยเกิดเปียกขึ้นมา ไม่ต้องตกใจ เพราะเรามีวิธี...

วิธีที่เราจะแนะนำต่อไปนี้ไม่ใช่เรื่องยาก ไม่ได้เป็นความลับ และไม่มีค่าใช้จ่ายให้สิ้นเปลือง อ่อ แต่ต้องบอกไว้ก่อนว่า นี่เป็นการ "ปฐมพยาบาลเบื้องต้น" ให้กับมือถือของคุณเท่านั้นนะ รีบดูแลอย่างถูกวิธี และส่งต่อให้ผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบและซ่อมแซมต่อไปด้วย...

1. อย่าปิด-เปิดเครื่องเด็ดขาด!

หลายคนต้องเคยพยายามทำสิ่งนี้แน่ๆ แต่เราขอบอกไว้ตรงนี้เลยว่าเป็นวิธีที่ผิด ผิดมาก และผิดมหันต์ เพราะการพยายามเปิดๆ ปิดๆ มือถือที่เปียกน้ำ ตกน้ำ หรือน้ำเข้าไปนั้น ยิ่งทำให้เครื่องมีโอกาสเกิดไฟฟ้าช็อตได้ ซึ่งนั่นจะยิ่งทำให้เครื่องเสียหายหนักเข้าไปอีก

2. ไดร์เป่าผมช่วยคุณได้

แม้จะมีคนบอกว่าความร้อนจากไดร์เป่าผมก็อาจสร้างความเสียหายให้กับมือถือได้ นั่นก็จริง! แต่ถือเป็นวิธีเบื้องต้นที่สามารถใช้ได้ และดีกว่าการเปิดๆ ปิดๆ เครื่องอย่างแน่นอน อ่อ…ต้องบอกว่ามีเคล็ดลับอย่างหนึ่ง คือ ควรใช้ไดร์ในโหมดลมเย็น ไม่ใช้ลมร้อนรุนแรง เพื่อป้องกันความเสียหายของชิ้นส่วนต่างๆ ที่จะถูกความร้อนจากไดร์ หรือจะลองใช้วิธีบ้านๆ อย่างการตากแดดก็เก๋และประหยัดไปอีกแบบ ห้ามวางทิ้งไว้เป็นเวลานานล่ะ วางแค่ครู่เดียวแล้วลองหยิบขึ้นมาสำรวจสักหน่อย ดูสภาพแดดบ้านเราด้วย เดี๋ยวมือถือจะละลายซะหมด

...

3. ถังข้าวสาร...ดูดความชื้น

ถือเป็นภูมิปัญญาจากอุปกรณ์ในครัวเรือนเลยทีเดียว ไม่ใช่ว่าถังข้าวสารจะมีคุณสมบัติพิเศษหรอกนะ ความพิเศษนั้นอยู่ที่ข้าวสารต่างหาก... เพียงคุณเอามือถือที่มีความชื้นใส่ถุงพลาสติก อาทิ ถุงร้อนใส่แกง ถุงซิปล็อก โดยปิดปากถุงให้สนิทเสียก่อน แล้วค่อยนำไปซุกในถังข้าวสาร แนะนำให้ออกแรงซ่อนลงไปในข้าวสารแค่ลึกพอประมาณ ไม่ใช่ดันไปซะก้นถังหรือวางแปะเอาไว้ที่ด้านบน

4. ใช้ไมโครเวฟ หรือรถจอดกลางแดด ไล่น้ำ?

อย่าใจร้อนขนาดนั้นเชียวล่ะคุณ...เพราะไมโครเวฟ หรือรถยนต์ที่จอดทิ้งไว้กลางแดด ถือเป็นเตาอบความร้อนสูงดีๆ นี่เอง ซึ่งนั่นคงไม่ใช่เรื่องดีอย่างแน่นอน

5. ชุดซ่อมมือถือตกน้ำ?

โลกเราพัฒนาไปไกลแล้ว ใครจะเชื่อว่าตอนนี้จะมีนวัตกรรมจากต่างประเทศ ซึ่งโฆษณาสรรพคุณว่าช่วยซ่อมแซมมือถือ หรืออุปกรณ์ที่เสียหายจากน้ำเข้าเครื่อง ให้กลับมาใช้งานได้ภายใน 24 ชั่วโมง!!! นวัตกรรมที่กล่าวถึงมีชื่อว่า รีไวฟ์อะโฟน (Reviveaphone) ซึ่งในชุดจะมีซองใส่เพื่อให้คุณเทน้ำยา และใส่มือถือ (ที่ปิดเครื่องแล้ว) ลงไปแช่ทิ้งไว้ 7 นาที โดยน้ำยาของรีไวฟ์อะโฟนจะช่วยไปกำจัดแร่ธาตุต่างๆ ที่ปะปนอยู่ในน้ำและเป็นตัวการทำลายแผงวงจรมือถือ หลังจากนั้นต้องปล่อยให้แห้งประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วค่อยเปิดเครื่องเพื่อใช้งาน... ทั้งหมดนี้ 1 ชุดสนนราคาอยู่เกือบ 1,000 บาท ถือเป็นอีกหนึ่งทางเลือกของคนชอบลอง! หากใช้ดีก็มาบอกต่อด้วย เพราะเรายังไม่ได้ลอง

หากต้องการแก้ปัญหาให้ตรงจุดก็ง่ายนิดเดียว แค่ไม่พกพาอุปกรณ์และข้าวของมีค่าไปสาดน้ำสงกรานต์ด้วย เพราะอุบัติเหตุนั้นเกิดขึ้นได้ตลอด แม้คุณจะมีซองกันน้ำ หรือกระเป๋ากันน้ำใส่ข้าวของไปด้วย แต่ก็ไม่แน่...จังหวะที่แอบเปิดกระเป๋าหยิบของ หรือกำลังสไลด์มือถืออยู่เพลินๆ อาจโดนซุ่มโจมตีจากขันน้ำใบใหญ่ หรือปืนฉีดน้ำลายการ์ตูน ก็เป็นได้...!