เปิดตัวอย่างเป็นทางการไปอย่างยิ่งใหญ่ สำหรับสมาร์ทโฟน 3 รุ่นใหม่จากแอปเปิล ไม่ว่าจะเป็น iPhone 8, iPhone 8Plus และรุ่นท็อปฉลองครบ 10 ปี อย่าง iPhone X

ถึงแม้ว่าโทรศัพท์ทั้ง 3 เครื่องจะมีราคาเริ่มต้นที่หนักหน่วงเอาการ แต่ก็ยังอยู่ในกระแสความสนใจของผู้บริโภคทั่วโลก แต่ก็ยังเห็นได้ชัดว่า 22 กันยายนที่ผ่านมา ที่แอปเปิลเริ่มวางขายไอโฟน 8 และ 8 พลัส เป็นวันแรกนั้นมีบรรยากาศคึกคักน้อยกว่าปีที่ผ่านๆ มา คาดว่าเป็นเพราะผู้บริโภคส่วนใหญ่กำลังรอ iPhone X ที่จะเปิดตัวในวันที่ 3 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้มากกว่า

อย่างไรก็ตาม นี่คือ 9 เหตุผลที่คุณควรจะพิจารณาเลือกไอโฟน 8 มากกว่าเสียเวลารอไอโฟน X 

1. ไอโฟนใหม่ทั้ง 3 รุ่นใช้ระบบประมวลผลเดียวกัน

ชิพ A11 Bionic ที่ทางแบรนด์คอนเฟิร์มว่าทรงพลังและฉลาดที่สุดเท่าที่เคยมีมาในสมาร์ทโฟน CPUเร็วขึ้น ประหยัดพลังงาน 4 คอร์ ซึ่งเร็วกว่าชิพ A10 Fusion ถึง 70% และคอร์ประมวลผลการทำงาน 2 คอร์ที่เร็วขึ้นสูงสุดถึง 25%

ชิพ A11 Bionic
ชิพ A11 Bionic

...

2. Touch ID เป็นที่ยอมรับของคนมากกว่า Face ID

Touch ID ถูกใช้มาตั้งแต่ไอโฟน 5S ในปี 2013 ผู้บริโภคจึงมีความคุ้นเคยในการปลดล็อกผ่านการใช้ลายนิ้วมือ รวมถึงจ่ายเงินผ่าน Apple Pay แต่สำหรับ Face ID ยังไม่เป็นที่คุ้นเคยมากนัก มักจะมีคำถามออกมาให้เห็นบ่อยๆ ว่าหากหน้าเปลี่ยน ทำศัลยกรรม หรือไว้หนวดเครา แล้วระบบจะยังจำได้หรือไม่ ซึ่งผู้ที่ซื้อ iPhone X ก็จะกลายเป็นหนูทดลองกลุ่มแรกสำหรับระบบนี้

3. ชาร์จไฟแบบไร้สายได้เหมือนกัน

ทั้ง 3 รุ่นถูกออกแบบมาให้รองรับการชาร์จแบบไร้สาย สามารถใช้งานร่วมกับแผ่นชาร์จใดก็ได้ที่มีมาตรฐาน QI อาทิ ที่ชาร์จไร้สายจากแบรนด์ Belkin และ mophie (มีจำหน่ายแล้วที่ร้าน apple store)

4. กล้องหลังที่ไม่ต่างกันเท่าไรนัก

กล้องของทั้ง 3 รุ่นนั้นถูกออกแบบให้มีความแตกต่างกันเพียงเล็กน้อยเท่านั้น กล้อง iPhon 8 ใช้กล้องเลนส์กว้างตัวเดียวกับ 8พลัส ไม่ว่าจะเป็นชุดเลนส์ 6 ชิ้น ขนาดรูรับแสง f/1.8 ระบบป้องกันภาพสั่นไหวแบบออปติคอล และเซนเซอร์ 12MP 

ส่วนที่เพิ่มเข้ามาในกล้องของ 8 พลัส คือ กล้องเทเลโฟโต้ขนาดรูรับแสง f/2.8 ซึ่งต่างกับ iPhon X ตรงรูรับแสงขนาด f/2.4 เท่านั้น 

5. กล้องหน้าก็ไม่ต่าง

iPhone 8 และ 8Plus มีกล้องหน้าที่เหมือนกันในความละเอียด 7 เมกะพิกเซล และสิ่งที่ทำให้แตกต่างจาก iPhone X คือฟีเจอร์ Portrait Mode หรือ "การจัดแสงภาพถ่ายบุคคล" เพื่อสร้างเอฟเฟกต์แสงแบบที่ใช้ในสตูดิโอจริงๆ

กล้องหน้า iPhone X
กล้องหน้า iPhone X

6. ไอโฟน 8 ไม่มี "รอยแหว่ง"

อย่างที่รู้กันว่าไอโฟน X มีจุดขายอยู่ที่ Face ID ดังนั้นรอยแหว่งที่หน้าจอจึงเป็นจุดที่แอปเปิลฝังเซนเซอร์ทั้งหมดเอาไว้

7. iPhone X แพงกว่าเยอะเลยจ้า

ในขณะที่ไอโฟน 8 วางขายในราคาเริ่มต้นที่ 699 ดอลลาร์สหรัฐฯ ไอโฟน 8 พลัส วางขายในราคาเริ่มต้นที่ 799 ดอลลาร์สหรัฐฯ แต่สำหรับไอโฟน X ที่มีราคาเริ่มต้น 999 ดอลลาร์สหรัฐฯ

คุณสามารถประหยัดเงินไปได้ถึง 300 ดอลลาร์ หรือตีเป็นเงินไทยราว 10,500 บาทเลยทีเดียว

8. ใส่เคสเดิมได้นะ

ถ้าไอโฟนรุ่นเก่าของคุณคือ iPhone 7 หรือ iPhone 7Plus คุณยังสามารถใส่เคสอันเดิมได้ เนื่องจาก iPhone 8 และ iPhone 8Plus มีขนาดเท่าเดิม ในขณะที่ไอโฟน X ปรับเปลี่ยนดีไซน์ภายนอกใหม่ทั้งหมด ถ้าซื้อเครื่องนี้ คุณก็ต้องเริ่มสะสมเคสใหม่ด้วย

9. ไอโฟน 8 และ 8Plus วางขายแล้ว

ในขณะที่ 2 รุ่นใหม่นี้วางจำหน่ายแล้วที่ร้านแอปเปิล (รวมถึงในเว็บไซต์) แต่ถ้าคุณต้องการซื้อไอโฟน X อาจต้องรอมากกว่า 1 เดือนเลยทีเดียว เพราะเจ้ารุ่นนี้จะวางขายในวันที่ 3 พฤศจิกายน 2560 นี้

iPhone 8 และ iPhone 8 Plus
iPhone 8 และ iPhone 8 Plus

...

ความสามารถชาร์จแบบไร้สาย iPhone 8, 8 Plus
ความสามารถชาร์จแบบไร้สาย iPhone 8, 8 Plus
ความสามารถชาร์จแบบไร้สาย iPhone X
ความสามารถชาร์จแบบไร้สาย iPhone X

...

ฟังก์ชั่นสแกนม่านตา
ฟังก์ชั่นสแกนม่านตา

ที่มา: