"พัชรวาท" คิกออฟสู้ภัยแล้ง เปิดศูนย์ฯ บรรเทาทุกข์ชาวบ้าน เพิ่มสายด่วน Green Call รับแจ้งภาวะน้ำแล้ง มั่นใจ "กรมทรัพยากรน้ำ-กรมทรัพยากรน้ำบาดาล" พาประชาชนฝ่าวิกฤติได้
เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 12 ก.พ. 2567 พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เดินทางมาเป็นประธานเปิดศูนย์บรรเทาภัยแล้ง ซึ่งศูนย์ดังกล่าวอยู่ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง กรมทรัพยากรน้ำ และกรมทรัพยากรน้ำบาดาล โดยมี นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำ และนางอรนุช หล่อเพ็ญศรี อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้การต้อนรับ
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวเปิดศูนย์ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับปัญหาภัยแล้งที่กำลังจะเกิดขึ้นในหลายพื้นที่ของประเทศ ได้สั่งการให้จัดตั้งศูนย์บรรเทาภัยแล้ง กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยให้กรมทรัพยากรน้ำและกรมทรัพยากรน้ำบาดาลเป็นหลักในการบูรณาการทำงานร่วมกับหน่วยงานอื่น เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน บรรเทาภาวะขาดแคลนน้ำ
ทั้งนี้ จะให้ความสำคัญกับน้ำอุปโภคบริโภค และน้ำเพื่อการเกษตร ตามลำดับ โดยให้มีการเร่งจัดทำแผนปฏิบัติการป้องกันและบรรเทาภัยแล้ง ให้สำรวจและพัฒนาแหล่งน้ำในพื้นที่ต้นน้ำและแหล่งน้ำสาธารณะที่มีศักยภาพ เพื่อให้มีปริมาณน้ำต้นทุนเพิ่มขึ้น สำรวจพื้นที่ขาดแคลนน้ำ และจัดทำโครงการพัฒนาแหล่งน้ำบาดาลอันเนื่องมาจากพระราชดำริ จุดจ่ายน้ำบาดาลต้องพร้อมใช้งาน จุดไหนมีปัญหาให้เร่งซ่อมแซม
รวมทั้งมั่นใจว่า ศูนย์บรรเทาภัยแล้งของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติ จะสามารถช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชนในภาวะภัยแล้งของปีนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และต้องจัดเตรียมแผนระยะยาวเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืนด้วย ขอให้ทุกภาคส่วนร่วมมือร่วมใจเพื่อฝ่าฟันวิกฤติภัยแล้งในครั้งนี้ไปด้วยกัน ดังนั้นเพื่อเตรียมความพร้อมรับมือสถานการณ์ภัยแล้ง มีการจัดเตรียมจุดจ่ายน้ำบาดาลเพื่อการอุปโภคบริโภค 607 แห่ง บ่อน้ำบาดาลทั่วประเทศ เฉพาะบ่อราชการ 105,243 บ่อ และบ่อสังเกตการณ์ระดับน้ำบาดาลและคุณภาพน้ำบาดาล 1,956 บ่อ 1,183 สถานี
...
ขณะเดียวกัน กรมทรัพยากรน้ำบาดาล ได้เตรียมความพร้อมมาตรการเชิงรุกใน 5 โครงการหลัก ได้แก่ โครงการซ่อมบำรุงบำรุงรักษาและฟื้นฟูระบบประปาบาดาลเดิม 1,714 แห่ง โครงการเพิ่มประสิทธิภาพระบบน้ำบาดาลด้วยการเจาะน้ำบาดาลเพิ่มเติม ในโครงการระบบประปาบาดาลเดิมที่ปริมาณน้ำไม่เพียงพอต่อความต้องการของประชาชน ในพื้นที่ที่มีศักยภาพน้ำบาดาล 210 แห่ง โครงการเพิ่มน้ำต้นทุนให้กับประชาชนทั้งน้ำอุปโภคบริโภคขนาดใหญ่โครงการพระราชดำริ 12 แห่ง โครงการน้ำบาดาลเพื่อความมั่นคงระดับชุมชน 243 แห่ง โครงการน้ำบาดาลเพื่อการเกษตรด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ 336 แห่ง โดยทั้งหมดจะสามารถเพิ่มปริมาณน้ำต้นทุน 36.37 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี มีครัวเรือนได้รับประโยชน์ 73,388 ครัวเรือน (293,552 ราย) และมีพื้นที่ได้รับประโยชน์ 20,160 ไร่
อย่างไรก็ตาม ศูนย์ฯ จะบูรณาการการทำงานร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กรพัฒนา เอกชน และประชาชน เพื่อร่วมกันแก้ไขปัญหาภัยแล้ง ทั้งนี้กระทรวงฯ ยังได้เปิดช่องทางในการรับแจ้งภาวะน้ำแล้งของกระทรวงฯ ผ่านสายด่วน Green Call 1310 กด 4 กรมทรัพยากรน้ำบาดาล 1310 กด 5 กรมทรัพยากรน้ำ.