อุตุนิยมวิทยาโคราช ระบุเอลนีโญอยู่ในสภาวะกำลังแรง ส่งผลให้แล้ง ร้อน ฝนน้อยกว่าปกติ ขณะที่อุณหภูมิของไทยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1-1.5 องศาฯ

วันที่ 19 ม.ค. 67 ที่สถานีอุตุนิยมวิทยานครราชสีมา นางกัลยา กองเกาะ ผู้อำนวยการสถานีฯ เผยหลังการเฝ้าติดตามเฝ้าระวังปรากฏการณ์เอลนีโญ/ลานีญา ในพื้นที่ช่วงเดือนธันวาคม 2566 ที่ผ่านมาพบว่า สถานการณ์ปัจจุบัน ปรากฏการณ์เอนโซ่ ยังอยู่ในสภาวะเอลนีโญกําลังแรง ซึ่งเอนโซ่ (ENSO) เป็นคำที่ใช้อธิบายความผันแปรของปรากฏการณ์ธรรมชาติที่เกี่ยวข้องกับความผิดปกติของอุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตร และการกวัดแกว่งของความกดอากาศในซีกโลกใต้ เป็นกลไกทางกายภาพของการเกิดปรากฏการณ์เอลนีโญ (El Nino) และลานีญา (La Nina) ซึ่งเอลนีโญ คือ สภาวะของปรากฏการณ์เอนโซ่ ที่อุณหภูมิผิวน้ำทะเลบริเวณมหาสมุทรแปซิฟิกเขตศูนย์สูตรอุ่นขึ้นผิดปกติ ส่งผลให้บ้านเราเกิดความแห้งแล้ง ปริมาณฝนต่ำกว่าปกติ และอุณหภูมิสูงกว่าปกติ

เมื่อวิเคราะห์ข้อมูลด้วยวิธีการทางสถิติและแบบจําลองเชิงพลวัต ยังพบอีกว่า ปรากฏการณ์เอนโซที่อยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังแรงนี้ จะอ่อนลงเป็นเอลนีโยกำลังปานกลาง และต่อเนื่องถึงช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเมษายน 2567 จากนั้นจะอยู่ในสภาวะเอลนีโญกำลังอ่อน ไปจนถึงช่วงเดือนมีนาคมถึงพฤษภาคม 2567 ซึ่งผลกระทบที่จะเกิดขึ้นกับประเทศไทย คาดว่าในช่วงเดือนธันวาคม 2566 ถึงกุมภาพันธ์ 2567 ปริมาณฝนบริเวณประเทศไทยมีค่าต่ำกว่าค่าปกติ ส่วนอุณหภูมิจะสูงกว่าค่าปกติ ซึ่งกรมอุตุนิยมวิทยาจะเฝ้าติดตามสถานการณ์ปรากฏการณ์เอลนีโญและลานีญาอย่างใกล้ชิด และรายงานความคืบหน้าให้ทราบเป็นระยะๆ

...

อย่างไรก็ตาม การคาดหมายลักษณะอากาศของประเทศไทยในช่วงเดือนมกราคม 2567 - มีนาคม 2567 ในระยะ 3 เดือนนี้ คาดว่า ปริมาณฝนรวมบริเวณประเทศไทยตอนบนส่วนใหญ่จะต่ำกว่าค่าปกติ ร้อยละ 50 โดยภาคตะวันออกเฉียงเหนือปริมาณฝนเฉลี่ยอยู่ที่ 20-50 มิลลิเมตร ซึ่งค่าปกติอยู่ที่ 67 มิลลิเมตร ในขณะที่จังหวัดนครราชสีมาค่าฝนเฉลี่ยปกติจะอยู่ที่ 22.5 มิลลิเมตร

ส่วนอุณหภูมิเฉลี่ยของประเทศไทยส่วนใหญ่จะมีค่าสูงกว่าค่าปกติ ประมาณ 1.0-1.5 องศาเซลเซียส โดยจะมีอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยทั้งประเทศประมาณ 33-35 องศาเซลเซียส จากค่าปกติ 33.3 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิตํ่าสุดเฉลี่ยทั้งประเทศอยู่ที่ 22-24 องศาเซลเซียส จากค่าปกติ 22.0 องศาเซลเซียส ซึ่งจังหวัดนคราชสีมาค่าปกติอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 33.4 องศาเซลเซียส ส่วนอุณหภูมิต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 21.3 องศาเซลเซียส

ดังนั้นในช่วงเดือนมกราคมนี้จึงมีอากาศหนาวจากอิทธิพลของบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยตลอดเดือน และอุณหภูมิส่วนใหญ่ของประเทศจะลดลงต่ำสุดในเดือนนี้ กับมีอากาศหนาวเย็นโดยทั่วไป

โดยเฉพาะในภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และบริเวณยอดเขาสูง รวมถึงจะมีหมอกในตอนเช้า ส่วนปริมาณฝนในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง จะน้อยกว่า 10 มิลลิเมตร ซึ่งค่าฝนเฉลี่ยปกติจะอยู่ที่ 8.6 มิลลิเมตร ส่วนช่วงเดือนกุมภาพันธ์ปกติอยู่ในช่วงเปลี่ยนจากฤดูหนาวเป็นฤดูร้อน เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงที่ปกคลุมประเทศไทยเริ่มอ่อนกำลังลง สภาพอากาศทั่วไปยังคงมีอากาศเย็น และมีหมอกในตอนเช้า ยกเว้นบริเวณภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ยังคงมีอากาศหนาวถึงหนาวจัดในบางพื้นที่ ส่วนมากในระยะครึ่งแรกของเดือน จากนั้นอุณหภูมิเริ่มสูงขึ้นเนื่องจากลมฝ่ายใต้ซึ่งเป็นลมร้อนเริ่มพัดเข้าปกคลุมแทนมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ และเป็นการเริ่มเข้าสู่ฤดูร้อนตั้งแต่ประมาณกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นต้นไป ซึ่งจังหวัดนครราชสีมาค่าปกติอุณหภูมิสูงสุดเฉลี่ยจะอยู่ที่ 33.5 องศาเซลเซียส และต่ำสุดเฉลี่ยอยู่ที่ 21.1 องศาเซลเซียส

และเดือนมีนาคม 2567 จะมีอากาศร้อนอบอ้าวและแห้ง ความชื้นในอากาศมีน้อย และมีอากาศร้อนจัดเป็นบางวัน โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบน แต่ในบางช่วงอาจมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่ลงมาปะทะกับมวลอากาศร้อนที่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้เกิดพายุฤดูร้อน โดยเฉพาะบริเวณประเทศไทยตอนบน ซึ่งพายุฤดูร้อนมักเกิดในช่วงเวลาสั้นๆ เป็นบริเวณแคบ แต่จะมีลมกระโชกแรงเกิดขึ้นฉับพลัน และมีความรุนแรงถึงขั้นสร้างความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินได้

แต่ปริมาณฝนที่ตกในช่วงเดือนนี้ยังต่ำกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 50 จึงขอเตือนประชาชนในช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์เป็นช่วงการเปลี่ยนถ่ายของฤดูกาล จากฤดูหนาวไปสู่ฤดูร้อน จะมีสภาพอากาศแปรปรวน มีฝนฟ้าคะนองกับมีอากาศเย็น และอากาศร้อนในคราวเดียวกัน หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่ฤดูร้อนแล้วจะมีอากาศร้อนจัดเป็นบางวัน ขอให้รักษาสุขภาพ หลีกเลี่ยงการทำกิจกรรมที่ไม่จำเป็นในที่โล่งแจ้งด้วย โดยเฉพาะในช่วงเวลา 09.00-15.00 น.