พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ
หัวหน้ากลุ่มโรงเรียนปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา ออกมาโต้ข้อกล่าวหาทุจริตแจ้งจำนวนนักเรียนเกินจริง ยันทุกปีมีขั้นตอนตรวจสอบอยู่แล้วปีละ 2 ครั้ง หลังตรวจ 3 ฝ่ายต้องเซ็นรับรองคือ ผอจ. โรงเรียน และประธานกลุ่มโรงเรียนฯ โอดได้เงินสนับสนุนต่อปีหัวละ 20,000 บาท ไม่พอค่าใช้จ่าย วัดต้องหาเงินเองอยู่แล้ว ท้าตรวจสอบไม่พบภาครัฐเพิ่มเงินสนับสนุนหรือไม่ “ผอ.พศ.” สั่ง พศจ.เดินทางไปตรวจสอบตัวเลขนักเรียนจริงในพื้นที่ แย้มต้องตรวจสอบแผนกธรรมและแผนกบาลีควบคู่ไปด้วย ด้าน ปปป.รับลูก พร้อมตรวจสอบโรงเรียนพระปริยัติธรรมทั่วประเทศ หาก พศ.ร้องขอ
กรณีกองบังคับการตำรวจปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) เปิดยุทธการปราบโกงวัดที่เกี่ยวข้องกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) สอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานส่งให้ ป.ป.ช.ไปแล้วชุดหนึ่ง และกำลังดำเนินการขยายผลผู้เกี่ยวข้อง หลังตรวจพบเบื้องต้นพบว่า มีวัดที่ร่วมทุจริตจำนวนมาก สร้างความเสียหายแก่รัฐถึง 60.5 ล้านบาท คดีนี้พนักงานสอบสวน ปปป.เตรียมนำกฎหมายฟอกเงินมาดำเนินคดีกับผู้ร่วมกระทำความผิดทั้งเจ้าหน้าที่รัฐและคนธรรมดา ขณะที่เรื่องเก่ายังตรวจสอบไม่เสร็จ พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เปิดประเด็นการตรวจสอบทุจริตเงินอุดหนุนโรงเรียนพระปริยัติธรรมแผนกสามัญศึกษาทั่วประเทศขึ้นมาอีกตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าเมื่อวันที่ 2 ก.ค. พ.ต.ท.พงศ์พร พราหมณ์เสน่ห์ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) เผยว่า ขณะนี้การตรวจสอบเกี่ยวกับเรื่องร้องเรียนการแจ้งยอดนักเรียนเป็นเท็จของโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษาเริ่มแล้ว เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พศ.ส่งหนังสือไปยังสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ให้สำรวจจำนวนนักเรียน เน้นย้ำให้ พศจ.รายงานตัวเลขที่แท้จริง รวมทั้งให้ลงพื้นที่ไปสำรวจวัดที่ตั้งของโรงเรียนพระปริยัติธรรมด้วยตัวเอง เนื่องจากที่ผ่านมาไม่มีการตรวจสอบยอดนักเรียน ต่อไปต้องดำเนินการตรวจสอบในแผนกธรรมและแผนกบาลีควบคู่ไปด้วย ต้องทำไปพร้อมๆกัน แต่ขณะนี้เน้นในส่วนที่มีเบาะแสคือ แผนกสามัญศึกษาก่อน
...
ที่ บก.ปปป.วันเดียวกัน พ.ต.อ.จักษ์ เพ็งสาธร รอง ผบก.ปปป.เผยว่า ขณะนี้ พล.ต.ต.กมล เหรียญราชา ผบก.ปปป.สั่งการให้ตำรวจ ปปป.ตรวจสอบวัดเป้าหมาย 23-27 วัดทั่วประเทศ ในการตรวจสอบการทุจริตเงินอุดหนุนบูรณปฏิสังขรณ์วัด ทราบว่าขณะนี้ ผอ.พศ.ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงร่วมด้วย เป็นการดีมาก เนื่องจากเมื่อได้ข้อมูลการสืบสวนข้อเท็จจริงสามารถนำมารวมกับข้อมูลที่ บก.ปปป.ตรวจสอบได้ เป็นการบูรณาการร่วมกัน
“ส่วนกรณี พศ.สั่งการให้ ผอ.สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด (พศจ.) ทั่วประเทศ ตรวจสอบจำนวนนักเรียนที่แท้จริงในโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา เป็นเรื่องของ พศ.ที่ให้ ผอ.พศจ.แต่ละจังหวัดตรวจสอบ ขณะนี้ยังไม่ได้ประสานให้ บก.ปปป.ร่วมตรวจสอบกรณีนี้ หาก พศ.ขอความร่วมมือให้ตรวจสอบ บก.ปปป.ยินดี เนื่องจากเป็นนโยบายการปราบปรามการทุจริตของรัฐบาลด้วย” พ.ต.อ.จักษ์กล่าว
ด้านพระราชวัชราภรณ์ ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษากลุ่ม 3 กล่าวว่า หากตรวจสอบเป็นเรื่องดีจะได้กระจ่างว่า โรงเรียนพระปริยัติธรรมเป็นเช่นที่ถูกกล่าวหาหรือไม่ เพราะที่ผ่านมามีระบบแจ้งยอดผ่าน พศจ. และ พศจ.ก็ตรวจสอบจริง ก่อนส่งยอดไปยังกองพุทธศาสนศึกษาเพื่อเสนอของบรายหัว เชื่อว่าทุกกลุ่มกำชับเรื่องตรวจสอบยอดนักเรียนและรายงานตามข้อเท็จจริง ในปีการศึกษา 2560 ทุกโรงเรียนจะรายงานยอดรายหัวโดยใช้เลข 13 หลักผ่านระบบของกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) สร้างความเชื่อมั่นให้ทุกฝ่ายไปอีกขั้น ที่ผ่านมาโรงเรียนต้องรายงานค่าใช้จ่ายทุกเดือนไปยังกองพุทธ-ศาสนศึกษาว่า ใช้จ่ายอะไรบ้าง ทุกวันนี้ไม่เพียงพอบริหารการศึกษาอยู่แล้ว วัดต้องหางบฯ มาช่วยตลอด ขอให้ความเป็นธรรมกับฝ่ายสามัญศึกษาด้วย หากตรวจสอบเรื่องทุจริตแล้วพบว่า ทุจริตให้นำงบคืนไป หากตรวจแล้วไม่พบทุจริตแต่พบว่างบไม่เพียงพอรัฐบาลกล้าอุดหนุนงบเพิ่มหรือไม่
ส่วนพระครูปริยัติวีราภรณ์ ประธานกลุ่มโรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษากลุ่ม 9 กล่าวว่า นับตั้งแต่ปี 2550 เป็นต้นมา การรายงานยอดนักเรียนมีการตรวจสอบทุกปีปีละ 2 ครั้งคือ ครั้งที่ 1 เดือน มิ.ย. ครั้งที่ 2 เดือน ธ.ค. กรณีแจ้งรายหัวเกินอาจมาจากช่วงที่รายงานนักเรียนยังไม่ได้ลาออก หรือย้ายไปที่อื่น นักเรียนยังไม่แจ้งสถานะสถานศึกษาอื่นที่เข้าเรียนใหม่ตามระเบียบ ศธ. ทำให้โรงเรียนต้องคงรายชื่อไว้จนกว่าจะแจ้งสถานะเข้าเรียนยังโรงเรียนอื่นถึงจะนำชื่อออกได้ เป็นสาเหตุที่ทำให้เข้าใจว่า โรงเรียนแจ้งรายหัวเกินก็เป็นได้ ส่วนการตรวจสอบยอดนักเรียนมีระบบปฏิบัติมาตลอด เมื่อโรงเรียนแจ้งยอด พศจ.จะตรวจเยี่ยมที่โรงเรียนเพื่อรับรองว่า โรงเรียนส่งยอดจริง เซ็นรับรอง 3 ส่วน คือ พศจ. โรงเรียน และประธานกลุ่มโรงเรียน
“ที่สำคัญงบรายหัวที่โรงเรียนได้ประมาณ 20,000 บาทต่อรูปต่อปี ไม่เพียงพอ เนื่องจากต้องใช้งบส่วนนี้มาบริหารโรงเรียนทั้งหมด ส่วนใหญ่วัดต้องหางบมาสนับสนุนเอง โดยที่ฝ่ายรัฐไม่มีให้ รวมทั้งโรงเรียนต้องรายงานการใช้จ่ายงบที่ได้รับไปยัง พศจ. เพื่อแจ้งไปยังกองพุทธศาสนศึกษาทุกเดือน อย่างไรก็ตาม อยากฝากถึง ผอ.พศ.ให้มารับฟังภาพรวมจากโรงเรียนบ้าง ให้ลงพื้นที่จริงมาเห็นกับตาตัวเอง ไม่ใช่ฟังมาจากคนอื่น” พระครูปริยัติวีราภรณ์กล่าว