มองปัญหาเหมือนการเล่นเกม จึงสนุกมากกว่าเครียด
ผู้บริหารหนุ่มรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ในการเลือกเส้นทางชีวิตของตนเอง “เนติ นฤมิตร” จากนายหน้าขายอสังหาริมทรัพย์ก้าวสู่นักลงทุนและเจ้าของธุรกิจ จากน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง
เนท-เนติ หนุ่มไฟแรงวัย 36 ปี เป็นที่รู้จักในวงการอสังหาริมทรัพย์ เจ้าของแฟนเพจชื่อดัง “จับนายหน้ามาลงทุน” เล่าเส้นทางชีวิตของเขาให้ฟังว่า การมาอยู่ในวงการอสังหาฯนั้นมาด้วยใจล้วนๆ เพราะที่บ้านก็ไม่ได้ทำธุรกิจด้านนี้ คุณพ่อ-กังวาฬ นฤมิตร และคุณแม่-มาลินี พูลศิริกุล ทำธุรกิจรถบัส รถทัวร์ ตั้งแต่สมัยคุณยาย ที่ได้สัมปทานรถเมล์สาย 27 และ 58 จากนั้นคุณพ่อก็มาขยายธุรกิจให้ใหญ่ขึ้น เป็นบริษัท Asian Pearl Travel Service จำกัด จัดรถเช่าให้กับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ ส่วนตัวเขาเรียนหนังสือจบจาก ร.ร.อัสสัมชัญ สมุทรปราการ แล้วไปต่อไฮสคูลที่ King's High School ที่อังกฤษ จากนั้นที่บ้านขอให้มาเรียนปริญญาตรีที่เมืองไทย จึงได้มาเรียนด้าน Food Science ที่มหาวิทยาลัยมหิดล ภาคอินเตอร์เนชั่นแนล ที่เลือกด้านนี้เพราะเก่งวิทยาศาสตร์ และตอนนั้นไม่รู้จะเรียนอะไร ช่วงนั้นแม่ก็อยากเปิดโรงงานทำอาหาร เลยตัดสินใจเรียนด้านนี้ พอเรียนไปแล้วรู้สึกไม่ใช่ ธุรกิจของที่บ้านก็ไม่ใช่ที่ชอบ พอจบออกมาเลยไปสมัครทำงานด้านเรียลเอสเตทที่ บริษัท ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย ได้ทำทุกอย่าง เป็นนายหน้าขาย-เช่า คอนโดฯ, ประเมินราคาที่ดิน รู้สึกสนุกกับงาน และคิดว่า “งานนี้แหละที่ใช่”
“ผมทำงานด้านนี้มาตลอด อยู่ไนท์แฟรงค์ 3 ปี ก็ถูกคนชวนไปทำที่อื่น จนกระทั่งรู้สึกว่า ถ้าเราทำด้านนี้จริงเราไปเรียนจริงจัง ให้รู้ด้านทฤษฎี เพราะเรามีประสบการณ์พอแล้ว จึงไปเรียนต่อปริญญาโท การบริหารงานด้านอสังหาฯ ที่ University of Northumbria ประเทศอังกฤษ พอจบก็กลับมาเปิดบริษัทนายหน้าของตัวเอง ชื่อ “w to property” รับขายโครงการแบบ Resale และ Sole Agent ของคอนโดมิเนียมที่สร้างเสร็จแล้ว อย่างเช่นโครงการ Centric Scene สุขุมวิท เป็นต้น และตอนนี้ยังทำ บริษัท Ultrawealth List ภายใต้แบรนด์ PropVests ดูแลด้านการขายคอนโดมิเนียม โครงการ Super Luxury เช่น The Bangkok Thonglor ของแลนด์แอนด์เฮ้าส์, 28 Chidlom ของ SC Asset และบริษัทเกี่ยวกับอุปกรณ์ก่อสร้างอีก 1 บริษัทด้วย”
...
ผู้บริหารหนุ่มคนนี้มองงานที่ตนเองรักว่า ชอบทำงานเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ เพราะต้องเรียนรู้อยู่ตลอดเวลา และการเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ก็น่าตื่นเต้นเสมอ ทุกวันจะมีปัญหาและโจทย์ใหม่ๆ มาให้คิดตลอด การมีปัญหาเหมือนกับการเล่นเกม ที่เราต้องคิดวิธีแก้ปัญหาให้ออก ให้ชนะเกมนี้ อาจจะเครียดแต่สนุก ในการแก้ปัญหาเราก็ต้องมีสติ มองอะไรลึกซึ้งและต้องใจเย็น เพราะงานต้องเกี่ยวเนื่องกับคน ซึ่งการบริหารคน คือการที่ควบคุมในสิ่งที่ควบคุมไม่ได้
ส่วนชีวิตและงานในอนาคต “เนท” บอกว่า อยากทำงานให้ครบวงจร support กันทั้งหมด และพาบริษัทไปสู่ระดับอินเตอร์ ซึ่งความสำเร็จในชีวิตของตนคือ เราต้องมีความสุขในทุกๆวัน และมีเวลาที่จะดูแลคนในครอบครัวให้มีความสุขด้วย และเมื่อถึงจุดหนึ่งก็อยากทำงานเพื่อคนอื่น ไม่ใช่เพื่อเงินในกระเป๋าตัวเองแล้ว เพราะการมีความสุขได้ เราต้องเป็นคน “ให้” นอกจากนี้ สิ่งที่ภูมิใจ ที่ได้มาถึงจุดนี้ โดยไม่ได้ขอเงินทางบ้านเลย ทุกอย่างตนเริ่มด้วยตัวเอง โดยมองว่า เราจะออกมาขยายปีกด้วยตัวเอง เราก็ควรมาด้วยตัวเองตั้งแต่แรก....และหนุ่มคนนี้ก็ได้พิสูจน์ให้เห็นแล้ว.