อดีตเมียโผล่แจง หลังพ่อเลี้ยงเดี่ยวอ้าง มายื่นรับเงินประกัน 2 ล้าน หลังลูกชายประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ยันที่ผ่านมาติดต่อลูกชายตลอด
จากกรณี ดราม่าพ่อเลี้ยงเดี่ยวคนหนึ่ง ได้ให้ข้อมูลผ่านเพจดัง โดยอ้างว่า ถูกอดีตภรรยานอกใจทิ้งตนเองและลูกชาย จนกลายเป็นพ่อเลี้ยงเดี่ยว เลี้ยงลูกชายตั้งแต่อายุ 3 เดือน มาเป็นเวลา 19 ปี 4 วัน ก่อนลูกชายจะขับรถไปทำธุระ จนประสบอุบัติเหตุบาดเจ็บสาหัส เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลราชบุรี แล้วเสียชีวิตลง โดยคู่กรณีรับผิดชอบช่วยดูแลค่ารักษา และเดินเรื่องค่าประกันอุบัติเหตุให้ในวงเงิน 2 ล้านบาท แต่จู่ๆ ผู้เป็นแม่โผล่มาให้ทนาย ขอรับเงินสองล้านบาท โดยที่ผ่านมาไม่เคยเลี้ยงดูลูก และไม่เคยสนใจลูกมาก่อน จนกลายเป็นประเด็นที่ถูกวิพากษ์วิจารณ์กันนั้น
ต่อมาเมื่อวันที่ 18 ธ.ค.67 นายอ๊อฟ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี ชาวจังหวัดราชบุรี เพื่อนรุ่นพี่ของ "น้องบาส" ผู้เสียชีวิต ออกมาเปิดเผยว่า ตนรู้จักกับน้องบาสเมื่อ 3 ปีที่แล้ว และน้องบาสมาทำงานกับน้องชายของตน มาอยู่กินนอนที่บ้านของตนได้ 3 ปี ไม่ได้ไปกลับบ้านพ่ออย่างที่พ่อพูดให้ข้อมูล
ตลอดเวลาที่น้องบาสอยู่กับตน ไม่เคยรู้เลยว่าพ่อแม่บาสคือใคร อยู่ที่ไหน แต่น้องบาสจะพูดถึงแต่แม่ ไม่เคยพูดถึงพ่อ ตนรู้เพียงว่าตากับย่าเลี้ยงน้องบาสมาตั้งแต่เล็กเท่านั้น ก่อนจะมาอยู่อาศัยกับตน น้องบาสเคยติดต่อกับแม่บ้าง และแม่ของน้องบาสเคยโอนเงินมาให้น้องบาสใช้บ้าง ตอนที่มาอยู่กับตน ตนมารู้จักพ่อกับแม่ของน้องบาส ตอนที่น้องบาสประสบอุบัติเหตุ โดยช่วงที่น้องบาสรอผ่าตัด ตนให้น้องไปตามพ่อเพื่อจะมาเซ็นชื่อเพื่อยินยอม แต่พ่อของน้องบาสมาช้ามาก กว่าจะมาถึงที่โรงพยาบาลเกือบ 3 ชั่วโมง
...
เมื่อพ่อของน้องบาสมาถึงที่โรงพยาบาล พ่อของน้องบาสบอกว่าเซ็นไม่ได้ ต้องให้แม่เป็นคนเซ็น ตนจึงขอให้พ่อติดต่อแม่ไป แต่ทางพ่อของน้องบอกไม่สามารถติดต่อได้ ตนจึงพยายามหาช่องทางจนติดต่อแม่ได้เองจนสำเร็จ และได้คุยบอกอาการต่างๆ ของน้องบาสให้แม่ฟัง ตลอดเวลาที่น้องบาสรักษาตัว
ซึ่งแม่ของน้องบาสก็ติดต่อมาสอบถามอาการน้องจากตนตลอด จนน้องเสียชีวิตและทางบ้านของน้องบาส จัดงานศพให้น้อง ตนและเพื่อนจึงขอเป็นเจ้าภาพ โดยวันที่ตนและเพื่อนเป็นเจ้าภาพ แม่ของน้องบาสยังช่วยเงินมา 6,000 บาท แต่ทางแม่ของน้องขอให้ตนไม่ให้เปิดเผยให้พ่อของน้องบาสรับรู้ โดยไม่ยอมให้เหตุผล
ส่วนเรื่องเงินประกันค่าสินไหมของน้องบาส ตนไม่รู้เรื่องว่าได้ค่าประกันอะไรบ้าง แต่ความจริงทางพ่อเป็นฝ่ายที่พูดว่าจะเอาทั้งหมดก่อน ทางฝั่งแม่ยังไม่รู้ และยังไม่ได้พูดเลย ตนงงมากที่พ่อของน้องบาสออกมาพูดเป็นหนังคนละม้วน ที่ตนออกมาพูดวันนี้ เพราะสงสารน้องบาสที่ตายไปแล้วยังไปไม่สงบ จึงอยากให้สังคมรู้ความจริงในอีกด้านบ้าง และอยากให้ทั้ง 2 ฝั่งคุยเจรจากันให้เรื่องมันจบ เพื่อให้น้องบาสจากไปอย่างสงบ ตนขอยืนยันว่าที่ตนออกมาพูดไม่ได้เข้าข้างใคร แต่ต้องการให้สังคมรับรู้ความจริง และตนไม่มีส่วนได้ส่วนเสียจากเงินประกันค่าสินไหมของน้องบาส
ด้าน ล่าสุด น.ส.อ้อย (นามสมมุติ) แม่ของน้องบาส ซึ่งอาศัยอยู่ที่ประเทศเกาหลีใต้ ได้ขอเปิดใจชี้แจงผ่านโทรศัพท์กับทางผู้สื่อข่าวว่า ที่ผ่านมาที่ไม่เคยออกมาชี้แจง เพราะยอมรับว่า อยากให้เรื่องมันจบไป เธอถูกสังคมตัดสินไปแล้วว่าทำไม่ถูก ทั้งที่ไม่มีใครรับรู้เรื่องที่แท้จริง ซึ่งที่เธอได้แยกทางกับอดีตสามี ด้วยเรื่องความเจ้าชู้ของเขา เขามีผู้หญิงใหม่ ไม่ใช่เธอที่มีคนอื่น
ส่วนที่เขาบอกว่าเธอมีแฟนใหม่ ตอนที่ลูกอายุเพียง 3 เดือนนั้น ไม่เป็นความจริง ถ้าคิดดีๆ ผู้หญิงเพิ่งจะคลอดลูก น้ำนมยังไม่หยุดไหล มดลูกยังไม่เข้าอู่ แล้วเธอจะมีผู้ชายอื่น หรือมีผู้ชายคนไหนจะเอาคนเพิ่งคลอดลูก แต่ที่จริงเธอทนรับสารไม่ไหวที่อดีตแฟนไปมีคนอื่นทั้งที่เธอเพิ่งคลอดลูก ซึ่งตอนที่เธอตัดสินใจขอแยกทาง เธอก็ขอรับลูกมาดูแล แต่ฝ่ายอดีตสามีไม่ยอม
ส่วนเรื่องที่อดีตสามีให้ข้อมูลว่า หลังเลิกลาเธอไม่เคยติดต่อหาลูก เธอขอชี้แจงว่าสมัยก่อนกับสมัยนี้ต่างกัน ระบบสื่อสารต่างๆ ความก้าวหน้ามันต่างกัน ซึ่งการเลิกราของเธอกับอดีตแฟนจบลงด้วยไม่ดี ยอมรับว่าช่วงแรกไม่ได้มีการติดต่อมาหาลูก แต่เริ่มมีการติดต่อกับลูกได้เมื่อ 5 ปีที่แล้วจนถึงปัจจุบัน ผ่านทางเฟซบุ๊กและไลน์ เธอยืนยันว่าตลอดเวลาที่ติดต่อหาลูก มีการโอนเงินให้ลูกใช้จ่าย เมื่อลูกขอมา แต่ไม่เคยให้เป็นก้อนใหญ่ๆ ที่อดีตสามีพูดหาว่าเธอไม่เคยติดต่อลูกและให้เงินลูก เขาอาจจะไม่ผิด เพราะเขาไม่รู้และลูกก็ไม่เคยเล่าให้เขาฟัง ว่าเธอกับลูกมีการติดต่อกันตลอด 5 ปี
ส่วนตอนที่ลูกประสบอุบัติเหตุ ตอนที่น้องสาวอดีตสามีติดต่อมา เธอคิดว่าเป็นมิจฉาชีพ เพราะเขาติดต่อมาทางติ๊กต๊อก ที่เธอพูดปัดไปทั้งหมด เพราะไม่มีรูปภาพหรือมีหลักฐานยืนยันว่าลูกเธอประสบอุบัติเหตุ และเสียชีวิตจริงๆ ประเด็นที่พ่อเขาขอเอกสารนั้น ที่เธอไม่ยอมให้ เพราะเป็นเอกสารส่วนตัวที่สำคัญจึงให้ไม่ได้ ไม่รู้เขาจะเอาไปทำอะไร
เพราะเธอถาม เขาก็ไม่ยอมบอกให้ชัดเจน แต่เธอบอกจะให้คนของฝ่ายเธอนำเอกสารไปจัดการให้ทำ แต่อดีตสามียืนยันจะไปจัดการคนเดียว และว่าใส่เธอว่ายังเป็นแม่หรือเปล่า ถ้ายังมีความเป็นแม่ครั้งสุดท้าย ให้ทำหนังสือมอบอำนาจเซ็นชื่อส่งมา ซึ่งตอนนั้นเธอไม่รู้เกี่ยวกับเงินประกันค่าสินไหมเลย
แถมเธอติดต่อไปสอบถามอาการลูกดีๆ แต่กลับถูกต่อว่าต่างๆ นาๆ เธอจึงตัดสินใจไม่คุยด้วย จน นายอ๊อฟ เพื่อนรุ่นพี่ของลูกชายที่ลูกชายไปอยู่ด้วยติดต่อมา เธอจึงติดต่อสอบถามอาการของลูกผ่านทาง นายอ๊อฟ ซึ่งตลอดเวลาที่ลูกชายรักษาตัวจนเสียชีวิต เธอติดต่อสอบถาม นายอ๊อฟ อยู่ตลอดจนลูกชายเสียชีวิต จนเขาจัดงานศพของลูกชาย
แม้เธอเดินทางมาร่วมงานศพลูกชายไม่ได้ แต่เธอก็แอบส่งเงินช่วยเหลือเป็นเจ้าภาพงานศพลูกชายจำนวน 6,000 บาท ผ่านทางนายอ๊อฟ และกลุ่มเพื่อนๆ ของน้องบาส แต่เธอไม่ให้เปิดเผยเพราะกลัวทางพ่อเขาจะมีปัญหา ซึ่งแม่ทุกคนมีไม่มีก็ต้องหามาให้ลูกเป็นครั้งสุดท้ายให้ได้
ซึ่งเธอมีการคุยกับทางอดีตสามีทางแชทครั้งที่ทวงเอกสารเป็นครั้งสุดท้ายเท่านั้น เพราะเขาพูดไม่ดีกับเรา ทำไมเราต้องไปพูดด้วย โดยเธอได้ติดต่อกับทางนายอ๊อฟ เพื่อนรุ่นพี่ของลูก ในการไถ่ถามทั้งอาการจนถึงการจัดงานศพต่าง ๆ ส่วนตอนที่ลูกพักรักษาตัวที่โรงพยาบาล 10 วัน ที่เธอไม่มาเยี่ยมเลย เพราะเธออยู่ต่างประเทศทำงานที่เกาะเกาหลีใต้
ซึ่งการลาหยุดงานจะไม่เหมือนประเทศไทย รวมทั้งการเดินทางอีก ที่สำคัญเธอมีเหตุผลส่วนตัวกับทางครอบครัวใหม่ ทำให้เธอไม่สะดวกเดินทางมาเยี่ยมลูก แต่เธอยืนยันเธอติดต่อสอบถามอาการของลูกผ่านทางนายอ๊อฟ ทั้งยังฝากนายอ๊อฟให้ช่วยดูแลลูกชาย
ส่วนประเด็นเรื่องเงินประกันค่าสินไหม เธอขอพูดจากใจเธอไม่รู้เลยว่าเธอจะได้รับเงินตรงนี้ แต่ทางพ่อเขาให้ใครทักมาก็ขอแต่เอกสาร ขอให้ทำแต่หนังสือมอบอำนาจอย่างเดียว แถมยังต่อว่าเธอเสียหาย ๆ ทั้งยังไปออกรายการ ออกข่าวต่าง ๆ เอาเธอไปเสนอข่าวฝ่ายเดียวผ่านสื่อต่าง ๆ จนเธอเสียหายเสียชื่อเสียง ซึ่งที่จริงตรงนั้นเธอเข้าใจว่าเป็นสิทธิของเขา แต่ทำไมเขาไม่พูดดี ๆ ชี้แจงกับเราตรงไปตรงมา ว่ามีเงินประกันค่าสินไหมจะจัดงานศพลูกอย่างไร
จนเธอมารู้ทีหลัง ถ้าเธอไม่คิดจะแบ่งให้เขา ไม่มีจุดประสงค์ที่ดี จะทักไปหาเขาทำไม ซึ่งเธอกล้ายืนยันเธอคิดจะให้เขาตั้งแต่แรก ไม่งั้นไม่ทักไปก่อน แต่สิ่งที่เขาพูดต่อว่าเธอกลับมา เหมือนต้องการเอกสารและหนังสือมอบอำนาจ เพื่อขอจัดการเอาเงินไว้เองเท่านั้น
ส่วนที่เธอให้ข้อมูลกับ นายอ๊อฟ ออกมาพูดถึงเรื่องต่าง ๆ เพราะเธอไม่อยากคุยกับอดีตสามี และ นายอ๊อฟ ก็เป็นคนดี รักน้องบาสลูกชายของเธอเหมือนน้องแท้ ๆ ที่สำคัญเธอกับ นายอ๊อฟ ไม่เคยเจอกัน มันไม่ใช่ความเอ็นดูความรักที่เขาคิดไม่ดี มันเป็นความรักที่ นายอ๊อฟ มีต่อน้องบาสลูกชายของเธอ เธออยากให้ทุกคนมองใหม่คิดใหม่ อยากให้สังคมให้ความเป็นธรรมกับ นายอ๊อฟ ด้วย ถ้าเขาไม่ดีจริงเขาไม่ดูแลน้องให้กินให้อยู่ดี โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใดเลยตลอด 3 ปี ซึ่งไม่ใช่ว่าพ่อเขาไม่ดี เขาก็ดีที่เลี้ยงลูกมา
ส่วนตอนนี้มีกระแสสังคมโจมตีถึงเธอว่าจะฮุบเงิน เพราะสังคมฟังความข้างเดียว ถ้าอดีตสามีคุยกันดีตั้งแต่ที่แรก เขาจะจับใจความได้ว่า เธอถามเขาแล้วว่าจะเอาเอกสารไปทำอะไร ใครต่างหากที่คิดจะเอาคนเดียว ส่วนเรื่องการบล็อกการติดต่อ เธอบล็อกแค่น้องสาวของอดีตสามีเท่านั้น เพราะเขาโทรมาตลอดเวลา จี้ตลอด จนเธอทำงานไม่ได้ แต่ช่องทางติดต่อของอดีตสามีเธอยืนยันไม่ได้บล็อก สุดท้ายเธออยากให้สังคมรับรู้ และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย ในการรับฟังข้อมูลที่แท้จริง ซึ่งที่แรกที่เธอไม่ยอมออกมาชี้แจง เพราะอยากให้มันจบด้วยดี เพราะลูกเสียไปทั้งคน.